29 เมษายน 2562 นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะทยอยออกมาต่อเนื่อง จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวขยายตัวได้ดีขึ้น ซึ่งกระทรวงการคลังคาดว่าจะทำให้ขยายตัวได้ 4% ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ถือเป็นการขยายตัวได้เต็มศักยภาพที่ควรเป็น

           ทั้งนี้ การออกมาตรการเพิ่มต้องรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจให้ชัดเจน แม้ว่าการขยายตัวเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวชะลอลงจากการส่งออก แต่ที่ผ่านมารัฐบาลก็เร่งการเบิกจ่าย โดยเฉพาะงบลงทุน รวมถึงยังเตรียมมาตรการทางการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้อีกมาก โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนรับสวัสดิการจากรัฐ ที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม) เห็นชอบในวันที่ 30 เม.ย. นี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมาตรการที่เตรียมไว้เท่านั้น

           สำหรับงบประมาณปี 2563 หากมีปัญหารัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณาไม่ทัน หรือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาไม่ได้ ก็สามารถใช้งบประมาณปี 2562 ไปพลางก่อนได้ ซึ่งไม่กระทบกับการใช้งบจ่ายประจำ และการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้

           "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังมีมากพอพยุงให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้ 4% ตามที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้" นายประสงค์ กล่าว

           อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกที่ชะลอ กระทบการส่งออกของไทยทั้งปีขยายตัวได้ต่ำกว่า 3% ตามที่ธปท.คาดไว้ ทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปีจะเติบโตได้ต่ำกว่า 3.8% ด้วยเช่นกัน

           โดยต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะทยอยออกมา จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ส่วนปัญหาการเมืองตั้งรัฐบาลได้ช้า ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศชะลอการลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจน

           ขณะที่นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.คาดว่าการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ใกล้เคียง 4% เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศยังขยายตัวจากการเร่งใช้จ่ายภาครัฐและเอกชน 

           “สศค.คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะโตใกล้ 4%  ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจนอกประเทศ แต่เศรษฐกิจภายในประเทศยังสามารถขยายตัวได้ดี”นายพิสิทธิ์ กล่าว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaipost.net