เปิดสูตรสำเร็จ O&B จากร้านกระเป๋าออนไลน์สู่แบรนด์รองเท้าร้อยล้าน
ใครจะไปคิดว่าจากผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เคยล้มเหลวจากธุรกิจที่ใช้เงินทุนหลักแสน จะสามารถกอบกู้สถานการณ์ ใช้เงินเก็บหลักหมื่นมาปั้นอาณาจักรธุรกิจร้อยล้านได้สำเร็จ แถมยังสร้างตำนานให้กับแบรนด์รองเท้าสัญชาติไทยไปอวดโฉมในเวทีระดับโลก อย่างมิลานแฟชั่นวีค และ เวทีมิสยูนิเวิร์ส 2018 อย่างสมศักดิ์ศรีมาแล้ว
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของหญิงเก่งและแกร่งที่ชื่อว่า ต้า-รรินทร์ ทองมา เธอใช้เวลาเพียง 7 ปีพาธุรกิจเติบโตมาได้ไกลเหลือเกิน จากแบรนด์กระเป๋าออนไลน์ ค่อยๆ แตกไลน์สู่แบรนด์รองเท้าที่น่าหลงใหล จากนี้ คือ เคล็ดลับในการปั้นธุรกิจร้อยล้านที่ผู้บริหารคนเก่งไม่ได้บอกตรงๆ แต่สรุปจากเรื่องราวที่เธอถ่ายทอดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักธุรกิจกล้าที่จะฝันได้นำมาปรับใช้มานับครั้งไม่ถ้วน
1.แค่มีหัวการค้าไม่พอ ใจ(ก็)ต้องมา บทเรียนสำคัญที่คนมีฝันอยากจะสร้างธุรกิจให้ปังได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน คือ ต้องมีแพชชั่นในสิ่งที่ทำ ในฐานะนักธุรกิจร้อนล้านเธอยืนยันอีกเสียงว่า จริงแท้ 100% เพราะเธอก็เคยเป็นคนหนึ่งที่พลาดมาแล้วจากการทำธุรกิจที่ตัวเองไม่อิน คิดแค่ว่าเห็นช่องว่างในตลาดก็ทำ สุดท้ายแค่ 6 เดือนก็พังไม่เป็นท่า ต้องปิดกิจการเสื้อผ้าเด็ก โชคดีที่เธอไม่ยอมแพ้หันมามองหาธุรกิจใกล้ตัวที่มีแพชชั่น อย่างสินค้าแฟชั่น เพราะเธอเรียนจบป.ตรีด้านการออกแบบแพ็คเกจจิ้ง จากศิลปากร ก่อนจะไปเรียนต่อโทด้านธุรกิจแฟชั่นที่มิลาน โดยเหตุผลที่เธอเลือกทำกระเป๋า เพราะมองว่าเป็นไอเท็มที่ไม่ต้องมีไซส์ สต็อกไม่บาน ที่สำคัญความตั้งใจในการขับเคลื่อนธุรกิจที่แพ้ไม่ได้อีกแล้วนี้มาด้วยหัวใจเกินร้อย เหนื่อยก็สู้ หนักก็ยอม
2.ศึกษาเทรนด์ของตลาด จะเรียกว่าเป็นความโชคดีก็ไม่ผิดนักที่โอแอนด์บีเลือกเจาะตลาดออนไลน์ก่อนใคร ทำให้ทุกวันนี้กลายเป็นแบรนด์ที่สตรองบนโลกออนไลน์อย่างไม่ต้องสงสัย เหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้าเลือกเจาะตลาดออนไลน์ทั้งทีเมื่อ 7 ปีก่อนยังไม่เป็นที่นิยม เพราะทุนทรัพย์ที่น้อย (มีเงินทุนแค่ 9 หมื่นบาท) ประกอบกับการคาดคะเนที่แม่นยำว่า การค้าขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์จะเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งในเวลานั้นเริ่มมีเว็บอี-คอมเมิร์สยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาเปิดตลาดบ้างแล้ว
3.ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ทำธุรกิจ ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง ต้าไม่ใช่เจ้าของธุรกิจที่เป็นสายเปย์ไปซะทุกอย่าง เธอใช้จ่ายอย่างรอบคอบ จวบจนกระทั่งธุรกิจเริ่มอยู่ตัว สินค้าล็อตแรกขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนเธอเล็งเห็นแล้วว่า กระเป๋าอาจไม่ใช่สินค้าที่จะฝากธุรกิจไว้ได้อีกต่อไป เพราะเธอคิดจากพื้นฐานง่ายๆ ว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มเปลี่ยนกระเป๋าไม่บ่อยเท่ารองเท้า ไอเท็มจำเป็นที่ใส่แล้วมีโอกาสสึกหรอ ต้องเปลี่ยนบ่อยกว่า เธอจึงเลือกที่จะแตกไลน์มาผลิตรองเท้าบัลเลต์แบบที่เธอชอบ
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ รองเท้าบัลเลต์ธรรมดาๆ ที่แบรนด์ไหนก็มี แต่สำหรับ O&B นอกจากฟังก์ชั่นความนุ่มสบาย ไม่กัดแล้ว ยังมีให้เลือกถึง 50 เฉดสี ซึ่งต้าให้สัมภาษณ์ไว้อย่างน่าสนใจว่า ด้วยความที่มาทางสายศิลป์ มองอะไรเป็นภาพ นึกถึงความสวยงามไว้ก่อน เพราะฉะนั้นถึงจะเปิดตัวมา 5 สี แต่แค่ปีเดียวเธอเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าด้วยการผลิตออกมาถึง 50 เฉดสี ต้าบอกว่า เธอไม่ได้มองทุกอย่างเป็นตัวเลข ไม่เช่นนั้นไอเดียนี้คงไม่เกิด เพราะถ้าคิดว่า 50 เฉดสีคูณกับจำนวนไซส์ต่อสี หมายถึงสต็อกที่มหาศาล แต่โชคดีที่เธอไม่คิดเยอะ แถมคิดออกมาแล้วยังขายได้ดีทีเดียว เรื่องสต็อกเลยไม่ใช่ปัญหา
4.ไม่คอยฟ้าบันดาล แต่พร้อมคว้าทุกโอกาส O&B ไม่ได้เป็นเพียงรองเท้าสัญชาติไทยที่โด่งดังแค่ในประเทศ แต่ยังสร้างชื่อให้คนทั่วโลกจับจ้อง นอกจากเมื่อต้นปีที่แล้วจะประเดิมด้วยการเฉิดฉายในโชว์ทั้งหมดของแฟชั่นตัวแม่อย่างแอนนา เดลโล รุสโซ่ ซึ่งมีการนำชุดที่เป็น key pieces ในคอลเลคชั่นชุดสะสมแบรนด์เนมของแอนนามาโชว์พร้อมประมูล ยังได้รับคัดเลือกจากกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2018 ให้ออกแบบรองเท้าคอลเล็กชั่นพิเศษให้กับสาวงามผู้เข้าประกวดจากทั่วโลกสวมใส่ งานนี้แม้จะกดดัน เพราะภายในคืนเดียวผลงานจะได้ประจักษ์แก่สายตาคนทั้งโลก แต่ต้าก็สู้ขาดใจ จนสามารถผ่านด่านหินมาได้ กลายเป็นแบรนด์รองเท้าที่เข้าไปนั่งในใจแฟนนางงามทั่วโลก
5.คิดต่างอย่างสร้างสรรค์ ในขณะที่ทุกแบรนด์พากันมุ่งหน้าสู่ถนนสายออนไลน์ แต่ O&B กลับเลือกที่จะสร้างนิยามใหม่บนโลกแฟชั่นด้วยการรุกเปิดสาขาออฟไลน์ ประเดิมด้วยแฟล็กชิฟสโตร์อย่าง เอ็มโพเรียม ซึ่งผู้บริหารชี้ชัดเลยว่า ยังมีอีกหลายสาขาตามมาแน่นอนในปีนี้ เพราะเป้าหมายจากนี้ คือ การเปิดสาขาเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่ขาช็อปออนไลน์ให้มากขึ้น ถือเป็นการเพิ่มสนามแข่งให้ตัวเองไปในตัว
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงสูตรสำเร็จที่สกัดจากไอเดียในการทำปั้นธุรกิจต้นทุนหลักหมื่นสู่ร้อยล้าน ไม่ว่าใครก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ไม่ยาก ขอเพียงออกสตาร์ทด้วยแพชชั่น ปั้นแบรนด์ด้วยความมุ่งมั่น ไม่หยุดที่จะต่อยอดและไขว้คว้าโอกาส ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม