เส้นทางการสร้างแบรนด์คอนโดระดับพรีเมียม “CHAPTER”
เมื่อเราพูดถึง “พฤกษา” ภาพที่เราคุ้นชินกัน คือโครงการแนวราบโดยเฉพาะทาวน์โฮมเป็นหลัก แต่เมื่อตลาดเปลี่ยน เบอร์ 1 อย่างพฤกษาก็ต้องเปลี่ยนตาม พฤกษาจึงรุกตลาดคอนโดมิเนียมมากขึ้น และเปิดแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุก Segment โดยเฉพาะ “กลุ่มพฤกษาพรีเมียม” ที่ผ่านผลงานมาตั้งแต่ Chapter One ที่เป็นที่นิยมและส่งแบรนด์ที่กลายเป็น Luxury Segment ให้กับพฤกษา คือแบรนด์ The Reserve ทำให้ภาพลักษณ์ของพฤกษาเข้าสู่ตลาดพรีเมียมอย่างแท้จริง และวันนี้ “พฤกษา” ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ล่าสุด TerraBKK จะมาเล่าให้ฟังถึงคอนโดมิเนียมภายใต้กลุ่มพฤกษาพรีเมียม ว่าจะน่าสนใจอย่างไร
Pruksa Premium คือกลุ่มทำคอนโดมิเนียมภายใต้พฤกษาที่โดดเด่นมากที่สุด
แรกเริ่มเดิมทีก่อนจะมาเป็นกลุ่มพฤกษาพรีเมียมอย่างทุกวันนี้ เราจะรู้จักทีมงานนี้ภายใต้ชื่อทีม Stylish Residences ที่ฝากผลงานพัฒนาคอนโดมิเนียม Luxury Segment ไว้หลายโครงการ ภายใต้แบรนด์ The Reserve และ Chapter One ซึ่งจุดแข็งของทีมพฤกษาพรีเมียมคือ “การดีไซน์ที่โดดเด่น” ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ภายใต้กลุ่มพฤกษาพรีเมียมทั้งหมดประมาณ 13 โครงการ บวกกับแบรนด์ The Editor สะพานควาย อีก 1 โครงการ ซึ่งทั้งหมดทำให้พฤกษาก้าวข้ามความเป็นแมส รวมถึงเสียงตอบรับในวงการคอนโดมิเนียมเองก็ยอมรับว่าฝีมือของทีมนี้พรีเมียมทั้งเรื่องคุณภาพวัสดุ การก่อสร้าง และบริการหลังการขาย สมคำว่า “พรีเมียม” อย่างแท้จริง
การันตีด้วยรางวัลระดับโลก
พรีเมียมแค่ไหน ให้รางวัลที่ทีมนี้ได้รับแทนคำตอบแล้วกัน จากข้อมูลในรายงานประจำปีของบ.พฤกษา TerraBKK แอบเห็นว่าโครงการคอนโดภายใต้กลุ่มพฤกษาพรีเมียมกวาดรางวัลไปเยอะมาก และเป็นรางวัลระดับนานาชาติด้วย
- โครงการ The Reserve 61 Hideaway ได้รับรางวัล Best Residential Award 2018 จากการออกแบบดีไซน์ โครงการที่โดดเด่น เป็นแบรนด์ลักซ์ชัวรี่ที่มีเอกลักษณ์ ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์
- โครงการ The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ และ โครงการ Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง ได้รับรางวัล Asia Pacific Property Award 2018
- โครงการ Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง ได้รับรางวัล International Property Awards 2018 - 2019 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเป็น Regional Winner ในรางวัล Best Development Marketing Asia Pacific จากภาพรวมโครงการ คุณภาพการก่อสร้าง สถาปัตยกรรมภายในและ ภายนอก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ
- โครงการ The Reserve Sathorn ได้รับรางวัล Best Luxury Condo Development (Bangkok) จากการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นหรูหราเป็นเอกลักษณ์สะท้อนคาแรกเตอร์ของกลุ่มลูกค้าพรีเมียม
ทำไมถึงมาเป็นแบรนด์ CHAPTER
เดิมกลุ่มพฤกษาพรีเมียม มีแบรนด์คอนโดมิเนียมที่ยัง Active อยู่ทั้งหมด 2 แบรนด์ คือ The Reserve และ Chapter One หากเคาะกันดีๆ แล้วจะเห็นว่าหากพฤกษาจะครองตลาดคอนโดมิเนียมให้ได้ทุก Segment ยังมีช่องว่างระหว่าง 2 แบรนด์นี้อยู่คือ ระดับราคา 140,000-200,000 บาทต่อตร.ม. ถ้าจะว่ากันไปแล้วแบรนด์ CHAPTER คือแบรนด์ที่เข้ามาเติมช่องว่างระหว่าง The Reserve และ Chapter One นั่นเอง
นอกจากการวาง Positioning ด้านราคาแล้ว ภาพลักษณ์ของ CHAPTER ก็ถูกปรับให้ฉีกไปจาก The Reserve และ Chapter One ที่สะท้อนออกมาตั้งแต่การสื่อสาร, โปสเตอร์ และการ PR ต่างๆ ไปจนถึงเมื่อลูกค้า Visit ที่ Sale Gallery ก็ยังสัมผัสได้ถึงการดีไซน์ที่ต่างจากโครงการเดิมๆ ของพฤกษา
“คอนโดฯ มีสไตล์ ทำเลเมือง ในราคาจับต้องได้” คือหัวใจของแบรนด์ CHAPTER
มาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะรับรู้ได้ถึงความแตกต่างของแบรนด์ Chapter One และ CHAPTER ที่ถูกวาง Positioning ให้ต่างกันทั้งด้าน Pricing, Target และ Communication
แบรนด์ Chapter One คือคอนโดมิเนียมสำหรับ First Jobber ที่ต้องการคอนโดฯระดับกลาง สามารถจับต้องได้ อยู่ทำเลที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก สามารถเดินทางได้สะดวก
แบรนด์ CHAPTER คือคอนโดมิเนียมสำหรับ City Lover + Lifestyle seeker อยู่ในทำเลใจกลางเมือง โดดเด่นในเรื่องการตกแต่งที่มีสไตล์ แต่จะแตกต่างกันออกไปตาม Context ของแต่ละทำเล รวมถึงราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าโครงการอื่นๆ ในทำเลเดียวกันในคอนเซ็ปต์ Curated Living Experience ซึ่งตอนนี้กลุ่มพฤกษาพรีเมียมได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ CHAPTER ออกมาแล้วทั้งหมด 3 โครงการ
ซึ่งต้องบอกว่าทั้ง 3 โครงการ แม้จะใช้ชื่อ CHAPTER เหมือนกัน แต่การดีไซน์และสไตล์แตกต่างกันออกไปตามแต่ละทำเล เรามาดูกันว่าแต่ละโครงการทีมพฤกษาพรีเมียมได้วางกลยุทธ์ไว้อย่างไร และมีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
เริ่มกันที่โครงการพี่ใหญ่สุดของแบรนด์ CHAPTER อย่าง Chapter Thonglor 25 ที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 ใน Sales Gallery ของโครงการถูกเปลี่ยนให้เป็น Chapter Café สร้างบรรยากาศสบายๆ เหมือนนั่งกินกาแฟอยู่หลังบ้าน และความพิเศษอยู่ที่ได้ Illustrator ชื่อดังอย่าง คุณก้อง กันตภณ เมธีกุล หรือ “GONGKAN” ที่มาช่วยสร้างสรรค์พื้นที่ในสำนักงานขายให้กลายเป็น Art Gallery รวมกับร้านกาแฟ ยิ่งเพิ่มบรรยากาศ Relax เสมือนเปิดวาร์ปจากทองหล่อที่แสนวุ่นวาย ตัดภาพมายังโครงการที่สงบร่มรื่น ทำให้เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่ม Lifestyle Seeker ที่นิยมเข้ามาเช็คอินผ่าน Social Media และยังมีการ Wrap สติ๊กเกอร์ตกแต่งภายในขบวนไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิทในคอนเซปต์ ‘Curated Thonglor Living’ สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนเมือง ซึ่งทำให้โครงการนี้เป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบที่ไม่เหมือนคอนโดไหนๆ
โครงการที่ 2 ทำเลเด็ดไม่แพ้กัน กับโครงการ Chapter Chula-Samyan ที่ตั้งอยู่บนถนนสี่พระยา มาในคอนเซ็ปต์ “Modern Eccentric” มาพร้อม Chapter Café อีกเช่นเคย ที่ครั้งนี้ได้ Illustrator สาย Minimal ชื่อดังอย่าง “ซันเต๋อ” มาร่วมแจมวาดภาพรั้วล้อมโครงการ กลายเป็น Street Art ตรงหัวมุมแยกนเรศที่เปิดตัวมาในช่วงงาน Bangkok Design Week ย่านบางรัก - เจริญกรุง มาพูดถึงตัวโครงการกันบ้าง ที่ครั้งนี้ทีมพฤกษาก็เอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบทำอะไรๆ แบบ Flexible ไม่ต้อง Fix กับเวลา ทำให้เกิดเป็น Facilities ที่เปิด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับลูกบ้านตลอดเวลา และการดีไซน์ห้อง 1Bedroom 44 ตร.ม. ที่มีพื้นที่ Flexible Edge ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน ไม่ว่าจะใช้เป็นห้องนอนที่ 2 ห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงานก็สามารถทำได้ พร้อมด้วยเทคโนโลยี Smart Mirror กระจกที่มาพร้อมแอปพลิเคชั่นให้สามารถเล่นอินเทอร์เน็ต ดูยูทูป หรือ Application อื่นๆ ก็ทำได้ แถมยังมี Muvmi รถไฟฟ้าสาธารณะที่เพิ่มจุดรับ-ส่ง ณ หน้าโครงการและยังสามารถเรียกรถผ่าน Application เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านโดยเฉพาะ
มาถึงโครงการที่ 3 หรือโครงการสุดท้ายในปีนี้ที่กำลังจะเปิดให้ชม Sale Gallery เดือนมิถุนายนนี้ คือ Chapter Charoennakhon – Riverside ที่ตั้งอยู่ฝั่งเจริญนครริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับ ICONSIAM ที่มาในคอนเซ็ปต์ “Urban Riverside Condominium” แต่ที่ Chapter Charoennakhon – Riverside ออกแบบให้เหมือนโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาระดับ 5 ดาว โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์ Minimal Luxury ที่แฝงความหรูหราและความอาร์ท เน้น Landscape ที่ใกล้ชิดธรรมชาติ และ Sky Lounge ที่สามารถ take view แม่น้ำเจ้าพระยาได้ 360 องศา รวมถึงห้องพักอาศัยที่ใส่ใจรายละเอียดออกแบบให้เห็นวิวแม่น้ำทุกห้อง โดยเฉพาะ Facilities จัดเต็มทั้ง 2 ตึก รวมถึงอีกตึกที่แยกออกไปติดริมน้ำเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับบรรยากาศริมน้ำได้อย่างมากที่สุด
มาถึงตรงนี้แล้วผู้อ่านหลายท่านคงเริ่มสัมผัสได้ถึงความโดดเด่นของแบรนด์ CHAPTER ทั้งในเรื่องภาพลักษณ์ที่เข้ากับคนรุ่นใหม่มากขึ้น การจับมือกับ Illustrator ชื่อดังของเมืองไทยเพื่อมาสร้างสีสันให้กับโครงการ และที่สำคัญคือการเปลี่ยนภาพของ “ที่อยู่อาศัย” อย่างคอนโดมิเนียมให้เข้าถึงง่ายมากขึ้น จากเดิมที่การมาดูคอนโดฯ ซักห้องหนึ่งเป็นเรื่องยากเย็น ไม่อยากมาพบกับบรรยากาศสุดเกร็งใน Sales Gallery แต่ทีมพฤกษาพรีเมียมใช้กลยุทธ์นำ Café มาไว้ในโครงการ สร้างบรรยากาศสุด Relax ใครอยากมาชมห้องตัวอย่าง ก็มานั่งพักผ่อนให้ใจสบายๆ ก่อน หรือใครที่อยากมาทานกาแฟอย่างเดียวก็มาเช็คอินเก๋ๆ ต้องถือว่าเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมของพฤกษาเลยทีเดียว
ถือว่า CHAPTER เป็นแบรนด์ใหม่ที่จะมาเขย่าวงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมอีกครั้ง ที่นอกจากจะโดดเด่นเรื่องดีไซน์แล้ว “ราคาที่จับต้องได้” คือกลยุทธ์เด็ดของทีมนี้ เพราะดีไซน์ที่ดีเพียงอย่างเดียวไม่ได้แปลว่าจะทำให้ขายได้ แต่ราคาที่สมเหตุสมผลกับทำเลที่ดีคือสิ่งที่ลูกค้ามองหา จะเห็นได้ว่า CHAPTER ทั้ง 3 โครงการอยู่บนทำเลรองในเมือง นั่นก็คืออยู่ในจุดที่ใกล้กับ CBD ที่แม้ไม่ได้ติดรถไฟฟ้าหรือถนนใหญ่ แต่ก็ยังเป็นจุดที่เดินทางสะดวก รวมถึงราคาขายก็เป็นราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ตรงนี้เองที่ TerraBKK มองว่าคือ “จุดแข็งของ CHAPTER” ที่ไม่มีใครเหมือน