สังเกตว่าคนที่นั่งทำงานหน้าคอมฯ ขับรถติดๆ เสพติดการปั่นจักรยาน หรือแม้แต่การถือของหนักๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน มักประสบปัญหาเดียวกัน นั่นคือ กล้ามเนื้อช่วงอกตึง หด เกร็ง เพราะใช้งานมากเกินไป ส่งผลให้ความยืดหยุ่นบริเวณอก ไหล่ และแขนทั้งสองข้างลดน้อยลง การเคลื่อนไหวทำได้ไม่ดีนัก ปัญหาเบาๆ ที่ตามมาคือกลายเป็นคนเดินหลังค่อม ไหล่ห่อ ไม่สง่าผ่าเผย หายใจติดขัด แขนชา เรื่อยไปจนถึงอาการบาดเจ็บแบบฉับพลันที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ท่าเหล่านี้ช่วยยืดลำตัวช่วงบน โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าที่สามารถมองเห็นได้ในกระจก ไม่จำเป็นต้องทำหลังออกกำลังกาย แต่สามารถทำได้ทุกเมื่อ เช่น หลังตื่นนอน หรือก่อนนอน เพื่อคลายความตึงเกร็ง โดยให้ทำท่าละ 15-30 วินาที หรือ 3-5 ลมหายใจ (หายใจเข้า+หายใจออก นับ 1) ทำท่าละ 2-3 ครั้งจนครบทุกท่า  

ไพล่หลังยืด

4 ท่ายืดเส้นให้อกผาย ไหล่ผึ่ง thaihealth

เอามือไพล่ไปด้านหลัง พยายามเอื้อมมือให้จับข้อศอกของฝั่งตรงข้าม ให้รู้สึกว่าช่วงอกถูกขยายออก กดไหล่ทั้งสองข้างลง

แอ่นอกยืด

4 ท่ายืดเส้นให้อกผาย ไหล่ผึ่ง thaihealth

ล็อกแขนทั้งสองข้างไว้กลางศีรษะด้านหลัง บีบสะบักเข้าหากัน ดันศอกและแขนไปด้านหลัง เพื่อให้ช่วงอกเปิดมากที่สุด สามารถประสานไว้บนศีรษะหรือเหนือศีรษะ 1-2 นิ้ว เพื่อให้ยืดได้มากขึ้น

ไต่นิ้วยืด

4 ท่ายืดเส้นให้อกผาย ไหล่ผึ่ง thaihealth

นั่งชันเข่าให้ก้นแนบกับฝ่าเท้า จากนั้นค่อยๆ โน้มตัวลง ไต่นิ้วไปด้านหน้าจนหน้าผากจรดพื้น พยายามให้นิ้วไปไกลมากที่สุดโดยที่สองแขนยังคงเหยียดตรง ฝ่ามือคว่ำตลอดเวลา พยายามอย่าเกร็งคอ ให้รู้สึกว่าไหล่ทั้งสองถูกยืดไปด้านหน้า

พลิกตัวยืด

4 ท่ายืดเส้นให้อกผาย ไหล่ผึ่ง thaihealth

ท่านี้ยืดทั้งอกและไหล่แต่ทีละข้าง เริ่มจากนอนคว่ำหน้า สองแขนกางเป็นตัว T คว่ำฝ่ามือลง จากนั้นพลิกตัวเปิดมาทางซ้ายเพื่อยืดอกและไหล่ฝั่งขวา ใช้มือซ้ายยันพื้นไว้เพื่อช่วยทรงตัว ยกขาซ้ายขึ้น งอเข่า พาดไปทางด้านหลัง ให้ศีรษะแนบลงกับพื้น ทำสลับข้าง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.thaihealth.or.th