ออมยังไงให้ลดภาษี ในวันที่ไม่มี LTF
หากใครที่กำลังมองหาการออมในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ต้องบอกไว้ก่อนว่า สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ถึงปี 2562 นี้เท่านั้นนะครับ หรืออีกนัยนึงก็คือ จะมียกเลิกการใช้กองทุนรวมหุ้นระยะยาว LTF มาลดหย่อนภาษี ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไปนั่นเอง แต่ก็ไม่ต้องตกใจไปนะครับ เพราะถึงแม้ว่า LTF จะถูกยกเลิก ในการนำมาลดหย่อนภาษีได้ แต่ก็ยังมีการออมอีกหลายๆ ประเภท ที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ และวันนี้ เรามีวิธีเหล่านั้นมาฝากครับ
1. ออมในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ – RMF
ถึงแม้ว่า LTF จะถูกยกเลิกสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีแต่สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ยังคงสามารถใช้ได้ครับ หากใครที่ต้องการออมเงินในระยะยาวๆ หรือต้องการเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณก็ต้องบอกว่า กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF นั้นตอบโจทย์เลยทีเดียว และที่สำคัญค่าซื้อหน่วยลงทุน RMF สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทด้วยนะครับ
2. ออมเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก็คือ กองทุนที่นายจ้าง และลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นมาด้วยความสมัครใจ เพื่อให้ลูกจ้างมีเงินออมเก็บเอาไว้ใช้เมื่อเกษียณอายุ หรือออกจากงาน และนอกจากคุณจะได้ออมเงินในแต่ละเดือนแล้วคุณยังได้เงินสบทบจากนายจ้างอีกด้วย และที่สำคัญสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ในอัตราไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
3. ประกันชีวิต
การทำประกันชีวิตก็เป็นการออมในอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากเป็นการออมแล้วแถมยังได้รับความคุ้มครองอีกด้วย และการซื้อกรมธรรม์ที่มีกำหนดเวลาตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปนั้น สามารถนำเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยนะครับ โดยจะแบ่งเบี้ยประกันชีวิตไว้ 2 ประเภท ก็คือ
1. ประกันชีวิตแบบทั่วไป สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
2. ประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
ถึงแม้ว่ากองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือ LTF จะถูกยกเลิกไปแล้วแต่ก็ยังมีอีกหลายๆ วิธีที่สามารถออมเงิน พร้อมนำมาลดหย่อนภาษีได้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการออมเงินและเป็นวิธีที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ง่ายๆ ที่เรานำมาฝากครับ ลองนำวิธีดีๆ แบบนี้ไปเลือกและปรับใช้ให้เหมาะกับตัวคุณดูกันนะครับ
SOURCE : www.moneyguru.co.th