Siamese Exclusive Queens ดื่มด่ำ คุณภาพชีวิต กลางเมือง

              คุณภาพชีวิต หมายถึงอะไร ? สำหรับคนกรุงเทพแล้ว ปัจจัยสะท้อนคุณภาพชีวิตในด้านที่อยู่อาศัยกลางเมืองแล้ว  คงเป็นเรื่องการอยู่อาศัยที่สามารถรองรับการดำเนินชีวิตได้จริง ทำเลใกล้สถานที่ทำงาน ความสะดวกสบายในการเดินทาง หรือ พื้นที่สีเขียวที่หาได้ยากเหลือเกินในพื้นที่กลางเมือง การมองหาทำเลกลางเมืองที่สามารถตอบสนองเรื่องราวเหล่านี้ได้ หนึ่งทำเลนั้นคือ สุขุมวิท 16 – ไผ่สิงโต

               ผู้ประกอบการ Siamese Asset พัฒนาที่ดินขนาด 2-0-44 ไร่ บริเวณซอยไผ่สิงโต ขึ้นเป็นคอนโดมิเนียม High-rise สูง 33 ชั้น สร้างสังคมชีวิตคุณภาพกลางเมือง ในนาม “Siamese Exclusive Queens” ไม่เพียงแต่ คุณภาพการก่อสร้างโครงการ แต่หมายรวมถึง สิ่งแวดล้อมคุณภาพ ที่ลูกบ้านจะได้รับจากการอยู่อาศัย อีกด้วย

พื้นที่ปอดสีเขียวกว่า 519 ไร่ ในระยะรัศมี 2 กิโลเมตร

              ความสบายตาจากการมองพื้นที่สีเขียว เป็นหนึ่งสิ่งที่คนกรุงเทพมองหา และภายใต้ระยะรัศมี 2 กิโลเมตร จากโครงการ Siamese Exclusive Queens เป็นพื้นที่สีเขียวกว่า 519 ไร่ ประกอบด้วยสวนสาธารณะ  3 แห่ง

สวนเบญจกิติ ขนาด 130 ไร่  ที่มีพื้นที่ 2 ใน 3 เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ หากลองมาเดินเล่น, วิ่ง หรือปั่นจักรยาน 1 รอบ คิดเป็นระยะทาง 1.8 กิโลเมตร เรียกเหงื่อได้ดีทีเดียว นอกจากกิจกรรมกลางแจ้งแล้ว ปัจจัยสำคัญอย่าง Value ของสวนเบญจกิติและโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตให้ลูกบ้านอย่างแท้จริง ลูกบ้านโครงการ Siamese Exclusive Queens สามารถ take view สวนเบญจกิติ จากห้องนอน ได้ตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไป ชื่นชมบรรยากาศพื้นที่สีเขียว คุณภาพชีวิตที่คุณสามารถเลือกได้เอง  และแน่นอนว่าพื้นที่สวนสาธารณะภายในกรุงเทพฯมีจำกัด  นั้นอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยผลักดันราคาปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตก็เป็นได้  ปัจจุบันภาพรวมคอนโดมิเนียมย่านนี้ สามารถสร้าง Passive Income ในรูปแบบค่าเช่า ด้วยค่าเฉลี่ย Rental Yield ราว 4.5-5.8% ต่อปี

นอกจาก สวนเบญจกิติ แล้วยังมี อุทยานเบญสิริ (สถานีพร้อมพงษ์) ขนาด 29 ไร่ และ สวนลุมพินี (สถานีสีลม) ขนาด 360 ไร่ รองรับกิจกรรมออกกกำลังกาย เพลินตากับพื้นที่สีเขียวที่เข้ามาเพิ่มเติมคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพ

รูป 1 – พื้นที่สีเขียวกว่า 519 ไร่ กลางเมืองกรุงเทพ

 

 

ลดเวลาเดินทางได้ ก็เท่ากับ เพิ่มเวลาชีวิตของคุณ

              ถนนสายหลัก รองรับการเดินทางของคนกรุงเทพฯ เมื่อเวลาเดินทางส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินทางไปทำงานและแหล่งงานสำคัญของกรุงเทพฯส่วนใหญ่ล้วนเชื่อมโยงกับ “ถนนสุขุมวิท” และ “ถนนพระราม 4”  คงจะดีไม่น้อย หากเราอยู่อาศัยในทำเลที่สามารถเลือกเส้นทางเดินทางได้ในแต่ละวัน

              ถนนสุขุมวิท เส้นทางสู่แหล่งงานสำคัญอย่าง อโศก, เพลินจิต, ชิดลม เป็นต้น ขณะเดียวกัน ถนนพระราม 4 เชื่อมโยงไปสู่แหล่งงานหลักของกรุงเทพฯอย่างลุมพินีและสีลม นอกจากการเดินทางโดยรถยนต์แล้ว ระบบขนส่งสาธารณะอย่าง MRT และ BTS ก็สร้างความสะดวกสบายในการเดินทางของผู้คนย่านนี้มาอย่างช้านาน

              นั้นคือ เหตุผลที่ Siamese Asset ทราบดี และเลือกพัฒนาที่ดินขึ้นเป็นคอนโดมิเนียม  Siamese Exclusive Queens ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 16 – ไผ่สิงโต ที่สามารถรองรับการเดินทางของลูกบ้านได้ทั้ง “รถยนต์” สามารถเข้าออกได้หลายทาง มีซอยลัดเลาะหลีกเลี่ยงรถติดจากถนนใหญ่ได้ และ “รถไฟฟ้า” ลดระยะเวลาในการเดินทางเพื่อเพิ่มเวลาให้ชีวิต

              เพราะคนกรุงเทพฯ ไม่ได้เดินทางเพื่อไปทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังไปชอปปิ้ง ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าตาม Lifestyleของแต่ละบุคคลในวันหยุดสุดสัปดาห์ แน่นอนว่า บนถนนสุขุมวิทเชื่อมต่อถนนเพลินจิตและถนนพระรามที่ 1 ล้วนเป็นแหล่งชอปปิ้งดังของคนกรุงเทพ อาทิ เอ็มควอเทียร์, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน เป็นต้น

รูป 2 – การเดินทางและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ Siamese Exclusive Queens

 

มากกว่าการอยู่อาศัย คือ ผลตอบแทนเฉลี่ย Capital Gain 6.5-8% และ Rental Yield 4.5-5.8%

              การตัดสินใจลงทุนคอนโดมิเนียมสักแห่ง นอกจากการพิจารณาคุณภาพการก่อสร้างบนทำเลคุณภาพแล้ว ยังไม่ควรลืม “ตัวเลขผลตอบแทน” ที่มีความเป็นไปได้ เมื่อถือครองคอนโดมิเนียมแห่งนั้น  ปกติแล้วจะพิจารณา 2 อัตราส่วนหลัก นั้นคือ

              ผลตอบแทนจากช่วงเวลาของการถือครองคอนโดมิเนียม เรียกว่า Capital Gain โดยภาพรวมทำเลนี้ มีตัวเลขเฉลี่ย  6.5-8%  ราคาตลาดมือสองเฉลี่ยขายอยู่ในช่วง 110,000-160,000 บาทต่อตารางเมตร

              และผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจากการปล่อยเช่า เรียกว่า Rental Yield  หากเป็นโครงการที่มีระดับเดียวกันกับ Siamese Exclusive Queens อย่าง Ashton Asoke, Park 24 เป็นต้น ที่มีระยะเดินถึงรถไฟฟ้าไม่เกิน 200 เมตร และเป็นโครงการใหม่ อาจจะสามารถปล่อยเช่าได้เฉลี่ยสูง 1,000 บาท/ตร.ม ก็เป็นได้

              ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยภาพรวมตลาดปล่อยเช่าทำเลนี้ ที่มีเฉลี่ยอยู่ที่ราว 500-670 บาทต่อตารางเมตร เนื่องจากภาพรวมทำเลนี้ จะมีบางโครงการเป็นโครงการเก่า, ไม่ใกล้รถไฟฟ้า , ไม่ได้ take view Lake และบางโครงการเป็น Low rise เป็นต้น ซึ่งพบได้ 3 ประเภทห้องพัก อย่าง ประเภท 1 ห้องนอน ขนาดเฉลี่ย 30-55 ตารางเมตร ประกาศเช่าเฉลี่ย 20,000 - 35,000  บาทต่อเดือน  , ประเภท 2 ห้องนอน ขนาดเฉลี่ย 65-120 ตารางเมตร ประกาศเช่าเฉลี่ย  40,000 – 65,000  บาทต่อเดือน   และ ประเภท 3 ห้องนอน ขนาดเฉลี่ย 135-200 ตารางเมตร ประกาศเช่าเฉลี่ย 60,000-100,000  บาทต่อเดือน   

              ภาพรวมค่าเฉลี่ย Rental Yield ราว 4.5-5.8%ต่อปี เป็นผลตอบแทบจากการลงทุนคอนโดมิเนียมเพื่อการปล่อยเช่า นั้นเอง

รูป 3 – ผลตอบแทนคอนโดมิเนียม

 

Siamese Exclusive Queens Luxury คอนโดมิเนียม รองรับคุณภาพชีวิตกลางเมือง

              Siamese Exclusive Queens  คอนโดมิเนียม  High Rise 33 ชั้น พร้อมอาคารจอดรถอัตโนมัติ สูง 12 ชั้น (และ 6 ชั้นใต้ดิน) สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 230 คัน โดดเด่นด้วย 4 ฟังก์ชั่น ดังนี้

  • INTELLIGENT PARKING ระบบจอดรถอัจฉริยะ ช่วยยกระดับความสะดวกสบายให้เหนือกว่า
  • NATURAL ROOFTOP สัมผัสความร่มรื่นของสวนสีเขียว พร้อมวิวเมืองแบบ 360องศา
  • FITNESS SPACE ห้องฟิตเนสมาตรฐาน พร้อมห้องสตรีมและซาวน่าอย่างครบครัน
  • SWIMMING POOL สระว่ายน้ำระบบเกลือที่ขนาบเมืองมุมสูง

Siamese Exclusive Queens มาพร้อม “Siamese Technology”  เพิ่มคุณภาพการพักอาศัยอย่างแท้จริงของลูกบ้าน  แบ่งออก  4 ด้านสำคัญ ประกอบด้วย

  • HEAT RESISTANT TECHNOLOGY กระจกที่ช่วยสะท้อนความร้อนแบบ Low-E ป้องกันไม่ให้รังสีความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคาร ทำให้อากาศเย็นสบายและลดการใช้พลังงาน
  • EASY MAINTENANCE TECHNOLOGY ระบบเดินท่อในคอนกรีตที่ง่ายต่อการซ่อมบำรุง ภายในห้องพัก เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้รับความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น
  • SMELL PROTECTION TECHNOLOGY ระบบท่อน้ำที่แยกท่อระบายอากาศของท่อน้ำเสียออกจากกัน เพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ย้อนกลับขึ้นมา ทำให้ห้องพักอาศัยหมดปัญหาเรื่องกลิ่น
  • SOUNDPROOF TECHNOLOGY ระบบกันเสียงรบกวนจากภายนอก ประกอบไปด้วย ประตูกันเสียงและผนัง Insulated Wall ที่ดูดซับเสียงและลดเสียงรบกวนจากภายนอก

 Siamese Exclusive Queens  รองรับการพักอาศัยของลูกบ้านทุกความต้องการ แบ่งห้องพักเป็น  4 ประเภท

  • 1 ห้องนอน ขนาด 34-58 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน ขนาด 76-102 ตารางเมตร
  • 3 ห้องนอน ขนาด 131-133 ตารางเมตร
  • เพนท์เฮ้าส์ ขนาด 154 ตารางเมตร

รูป 4 – Siamese Exclusive Queens 

 

              นอกจากนี้  Siamese Exclusive Queens ยังอยู่ตรงข้ามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกลุ่มเอกชนอย่าง ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่กำลังปิดปรับปรุง เพื่อจะขยายพื้นที่เพิ่ม 5 เท่า คาดว่าจะเปิดบริการในปี 2566 สะท้อนศักยภาพทำเลอนาคต

              ภายใต้งบลงทุนกว่า 11,000 ล้านบาท ของกลุ่มบริษัททีซีซีแอสเซ็ท จำกัด เพื่อขยายพื้นที่จากเดิมราว 20,000 ตารางเมตร เป็น 70,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้คนได้เพิ่มขึ้นกว่า 5 หมื่นคนเป็นอย่างน้อย  วัตถุประสงค์หลักในการลงทุนครั้งนี้ก็เพื่อจะเป็นศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้าขนาดกลาง เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) เรียกได้ว่า เป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย เลยทีเดียว

รูป 5 – การปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

             

              บริเวณใกล้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ยังมีอีกหนึ่งโครงการอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ในนาม The PARQ (เดอะ ปาร์ค) บนพื้นที่กว่า 24 ไร่ ในรูปแบบ Mixed Use จากผู้ประกอบการชั้นแนวหน้าของประเทศไทย บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และบริหารโดยบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายในโครงการประกอบไปด้วยพื้นที่ค้าปลีก พื้นที่สำนักงาน ร้านอาหาร และโรงแรม 

              โดยเฟสแรกจะเป็นการพัฒนาพื้นที่สำนักงานระดับพรีเมี่ยมโครงการแรกในประเทศไทย ที่ออกแบบตามมาตรฐานทั้ง LEED Gold และWELL ขนาด 60,000 ตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี  2562 นี้อีกด้วย

ภาพจาก theparq.com

              ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ลูกบ้าน Siamese Exclusive Queens จะได้รับ พร้อมดื่มดำคุณภาพชีวิตกลางเมือง ครบทุกด้าน และ วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ สามารถลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 1 ลบ. !!!  สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ Siamese Exclusive Queens สามารถสอบถามข้อมูลพร้อมรับเสนอพิเศษเพิ่มเติมได้ที่  http://bit.ly/2PTX9dL หรือ โทร. 1306  เปิดประตูเพื่อดื่มด่ำความสง่างามแห่งการใช้ชีวิตได้ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก Siamese Exclusive Queens