แค่พูดคำว่ากระแสเงินสด เจ้าของธุรกิจหลายคนก็เบือนหน้าหนีแล้วอาจจะบอกว่า “ให้บัญชีดูละกัน” หรือ “สิ้นปีเดี๋ยวดูทีเดียว”


ผมขอบอกเลยครับว่าความคิดแบบนี้อันตรายมาก ๆ และจะอันตรายมากขึ้นไปอีกถ้าคุณอยู่ในธุรกิจที่ใช้เงินหมุนเยอะๆ 

ก่อนเข้าเรื่องขอเล่าทฤษฏีก่อนนิดเดียวครับ
กระแสเงินสดมี 3 ประเภท ได้แก่

  1. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงาน
  2. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน
  3. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาแหล่งเงินทุน

แต่เพื่อความง่ายของบทความนี้เราจะขอโฟกัสไปที่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนนะครับ ซึ่งธุรกิจแต่ละประเภทก็มีการไหลเวียนของกระแสเงินสดไม่เหมือนกันนะครับ

อย่างธุรกิจร้านอาหาร คุณอาจจะรับเงินสด และจ่ายเงินเจ้าหนี้ (supplier) เป็นเครติด แบบนี้จะทำให้กระแสเงินสดของคุณอยู่ในเกณฑ์ดีมากครับ เพราะรับก่อนจ่ายทีหลัง ซึ่งถ้าไม่ได้ขายขาดทุน หรือขยายกิจการอะไรแบบเกิoตัว ธุรกิจแบบนี้มักไม่มีประเด็นปัญหาเรื่องเงินสดครับ

ธุรกิจแบบขายเงินเชื่อปรกติ อันนี้เช่นบริษัททั่วไป ๆ คือเวลาออกบิลขายไปนี่ยังไม่ได้เงินนะครับ ต้องรอไปวางบิลรับเช็คก่อน ในขณะเดียวกันเราก็ได้เครติดจากเจ้าหนี้เช่นกัน ทีนี้ส่วนต่างของเงินเข้ากับออกก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ และความเร็วที่เราเก็บเงินได้

ยิ่งถ้าเก็บเงินได้ช้ามากเท่าไหร่ ในขณะที่รายจ่ายไม่ได้ช้าลง แบบนี้เราก็ต้องหาเงินมาหล่อเลี้ยงบริษัทให้มากขึ้นครับ

แบบสุดท้ายจะเป็นการให้เครติดลูกค้ายาวนานเป็นพิเศษ เช่น งานราชการบางประเภท งานโครงการขนาดใหญ่ ฯลฯ ซึ่งธุรกิจแนวนี้ถ้าสายป่านไม่ยาว เงินกู้ธนาคารไม่มี เหนื่อยแน่นอนครับ

อันนี้มองมิติเรื่องการซื้อกับการขายเพียงอย่างเดียวนะครับ ยังไม่นับรวมมิติในแง่ของการลงทุน การกู้ยืม ฯลฯ หรือการขายแบบที่ต้องทุ่มเงินเยอะมหาศาลแบบพร้อมขาดทุน เช่น ธุรกิจ e-commerce รายใหญ่ในบ้านเรา เป็นต้น

ผมเคยได้มีโอกาสคุยกับนักธุรกิจรุ่นใหญ่มาก ๆ ท่านนึง ผมยังจำคำสอนของท่านได้ดีจนถึงวันนี้เลยครับ นักธุรกิจใหญ่ท่านนี้สอนผม 3 เรื่อง

  1. ธุรกิจขาดทุนยังอยู่ได้ แต่ธุรกิจขาดเงินสดอยู่ไม่ได้
  2. มีธุรกิจมากมายที่เป็นธุรกิจที่ดีมาก ๆ ทำกำไรได้ด้วย แต่ต้องเจ๊งไปเพราะบริหารกระแสเงินสดไม่เป็น
  3. ถ้าทั้งวันไม่ได้ดูตัวเลขอะไรเลย ขอให้ดูกระแสเงินสดแค่อย่างเดียวก็ยังดี

นี่คือคำสอนสามอย่างเกี่ยวกับกระแสเงินสดที่ผมยึดถือมาก ๆ ในชีวิตครับ

กระแสเงินสดเป็นเรื่องที่สำคัญมากถึงขั้นเปรียบเปรยกันว่าคือเส้นเลือดใหญ่สำหรับการทำธุรกิจกันเลยทีเดียว

แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น? นั้นก็เป็นเพราะ...
ถ้าไม่มีเงินสดจ่ายเงินเจ้าหนี้ช้า ความน่าเชื่อถือ จะลดลงอย่างมหาศาล
ถ้าไม่มีเงินสดจ่ายเงินเดือนพนักงาน อันนี้ขวัญกำลังใจ กระเจิงแน่นอนครับ
ถ้าไม่มีเงินสดจ่ายธนาคาร เครดิตเสีย อาจจะถึงขั้นทำให้เกิดการฟ้องร้องกันได้


ความน่าเชื่อ เครดิต และขวัญกำลังใจ เป็นของที่ใช้เวลานานมากกว่าจะสร้างได้ แต่สามารถถูกทำลายได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กระแสเงินสดจึงมีความสำคัญมาก

อย่างที่บอกไปข้างต้นครับ บริษัทขาดทุน เรายังพออยู่ได้ แต่เราขาดเงินเราอยู่ไม่ได้

และผมคิดว่านี่คือ 5 ข้อสำคัญในการบริหารจัดการเงินสดที่คนทำธุรกิจควรดู

  1. ติดตามดูกระแสเงินสดให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ : โดยปกติควรจะดูทุกวันครับ
  2. เข้าใจการเข้าและออกของเงิน : เราต้องรู้ว่าเงินสดเราเข้าทางไหน และออกทางไหนบ้าง อันนี้ดูเหมือนจะเป็นเบสิคนะครับ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่สนใจจนกระทั่งมารู้ตัวอีกทีก็เป็นปัญหาไปแล้ว
  3. เข้าใจถึงต้นทุนของเงิน : ขอยกตัวอย่างแบบเว่อร์ ๆ หน่อยนะครับ สมมติว่าเราสามารถเลือกการขายของได้สองรูปแบบ
    - แบบที่ 1. ขายของ 100 บาทแต่รับเงินเลยวันนี้
    - แบบที่ 2. ขายของ 105 บาท แต่รับเงินอีก 10 ปีข้างหน้า
    คุณจะเลือกแบบไหนครับ….
    แน่นอนทุกคนต้องเลือกแบบแรกกันใช่ไหมครับ นี่แหละครับ คือ “ต้นทุนทางการเงิน”
  4. แยกเงินส่วนตัวกับเงินของกิจการอย่างเด็ดขาด : อันนี้เรื่องใหญ่เลยครับ ถ้ามีการใช้เงินปนกัน หยิบเงินของกิจการไปใช้ก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยเอามาเคลียร์ทีหลัง การทำแบบนี้ทำให้มีแนวโน้มที่จะขาดกระแสเงินสดในวันข้างหน้าได้ครับ
  5. เตรียมแหล่งเงินสำรองไว้เสมอ : อย่าคิดว่าเดี๋ยวจะใช้แล้วค่อยหานะครับ เพราะถ้าจะใช้แล้วหาเนี่ย มันอาจจะหาไม่ได้ก็ได้ หรือถ้าหาได้ก็อาจจะมีต้นทุนที่แพงมาก ๆ ดังนั้น คนทำธุรกิจควรที่จะเตรียมไว้ตั้งแต่ที่ยังไม่ต้องใช้เนี่ยแหละครับ ดีที่สุด เช่น ปรึกษาธนาคารเพื่อเตรียมวงเงินสินเชื่อ หรือเลือกธนาคารมีทั้งบริการทางการเงินและบริการ ด้านข้อมูล ความรู้ และเครือข่ายธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ เป็นต้น


ขอย้ำอีกครั้งครับว่ากระแสเงินสดคือเส้นเลือดใหญ่ ขาดเมื่อไรไม่สาหัสก็ตายลูกเดียวครับ

เคยได้ยินคำว่า Cash is King ไหมครับ จริง ๆ แล้วมันมาจากประโยคนี้ครับ

“Revenue is vanity, profit is sanity, but cash is king.”

รายได้คือความภูมิใจ กำไรคือความปรกติทางใจ แต่เงินคือที่สุดของทุกอย่างนั่นแหละครับ

SOURCE : www.krungsri.com