สิงห์ เอสเตท รณรงค์การแยกขยะติดเชื้อ ทิ้งให้ถูกประเภท ลดการแพร่เชื้อ-ลดวิกฤตขยะ ในสถานการณ์ COVID-19
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์อย่างเราเท่านั้น หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงว่า นี่จะเป็นวิกฤตขยะครั้งใหญ่ของโลกใบนี้อีกด้วย โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยเมื่อใช้เสร็จแล้วจะกลายเป็นขยะติดเชื้อที่นอกจากจะสร้างความกังวลใจเรื่องของจำนวนที่จะเพิ่มขึ้นมหาศาลแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคจากการทิ้งที่ไม่แยกประเภทให้ถูกต้อง
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราเชื่อว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนทุกคน ต่างต้องมีการปรับตัวตามสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสโควิด19 มีในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะปัญหาขยะ สิงห์ เอสเตท ในฐานะบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญและรณรงค์เกี่ยวกับการจัดการขยะมาอย่างต่อเนื่อง มีความห่วงใยเกี่ยวกับแนวโน้มการเกิดปัญหาขยะจำนวนมากที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมา จึงอยากขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรณรงค์การปรับพฤติกรรมเพื่อลดโอกาสการเกิดวิกฤตขยะติดเชื้อในอนาคต”
ขยะติดเชื้อ ทิ้งให้ถูกวิธีเพื่อเราและเพื่อโลกในภาวะการเกิดโรคระบาดเช่นนี้ ขยะติดเชื้อ เป็นสิ่งที่ควรระมัดระวังในการทิ้งให้ถูกที่ เพราะเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (surgical mask) และกระดาษชำระ อยู่ในกลุ่มขยะที่มีโอกาสติดเชื้อสูง ดังนั้นควรพับตัวหน้ากากที่มีฝอยละลองไว้ด้านในและต้องมีการแยกทิ้งในถังขยะเฉพาะ คือถังขยะติดเชื้อ โดยถุงขยะที่ใส่ควรเป็นถุงใสเพื่อให้เห็นขยะภายในชัดเจน ถ้าเป็นถุงทึบหรือถุงดำควรมีการเขียนให้ชัดเจนว่าขยะติดเชื้อ เพื่อความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะ สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่มีการกำจัดที่ถูกต้อง นอกจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นแล้ว ขยะเหล่านี้อาจหลุดรอดออกสู่สิ่งแวดล้อมและจบลงที่ท้องทะเล และเป็นภัยต่อธรรมชาติ
ใช้อย่างพอดี ทิ้งอย่างมีจิตสำนึก นอกจากขยะติดเชื้อแล้ว การใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคนช่วงนี้ สามารถสร้างขยะจำนวนมากได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น สิ่งทีสำคัญที่สุด คือการลดการสร้างขยะใหม่ด้วยการเลือกซื้อเลือกใช้ของที่จะกลายมาเป็นขยะใหม่ให้น้อยที่สุด แต่หากจำเป็นก็ควรเลือกทิ้งให้ถูกประเภท เพื่อที่จะง่ายต่อการนำไปเข้ากระบวนการกำจัดขยะที่ถูกต้อง รวมไปถึงขยะบางประเภทที่สามารถนำไปที่รีไซเคิลได้ ก็จะเป็นการลดจำนวนขยะที่ต้องกำจัดทิ้งไปได้
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทะเล กล่าวว่า “เราจะเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้ มีขยะที่ใช้แล้วทิ้งเกิดขึ้นมากมาย บางอย่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์โรคระบาด มีทั้งขยะพลาสติก ขยะทั่วไป จนถึงขยะติดเชื้อ หากพวกเราละเลยไม่จัดการขยะอย่างถูกวิธี อาจจะนำไปสู่ผลกระทบมากมาย ทั้งการขยายวงของการแพร่ระบาด รวมไปถึงการหลุดรอดของขยะไปสู่ธรรมชาติทั้งแม่น้ำ ลำคลองและท้องทะเล ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบอื่น ๆ ตามมา เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนจึงต้องตระหนักเสมอว่าโลกใบนี้อยู่ในมือของทุกคน หากเราปล่อยขยะทิ้งขว้างโดยไม่สนใจปลายทาง สุดท้ายผลกระทบต่าง ๆ ก็จะกลับมาที่มนุษย์อย่างแน่นอน”
“ขณะนี้ สิงห์ เอสเตท ได้นำร่องจัดตั้งถังขยะอันตรายสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัย บริเวณทางเข้าออกทุกชั้นของสำนักงานใหญ่ อาคารซันทาวเวอร์ส และมีแผนในการตั้งถังขยะอันตรายที่อาคารสำนักงานทุกแห่งของบริษัทฯ ในอนาคต นอกจากนั้นยังมีการอบรมพนักงานแม่บ้านในการแยกถุงขยะและทำสัญลักษณ์ขยะติดเชื้อให้ชัดเจน ก่อนนำส่งให้กับเจ้าหน้าที่เก็บขยะของทาง กทม. เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป” นายนริศ กล่าวปิดท้าย