จากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์อย่างเห็นได้ชัด ผู้คนต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ ทั้งในเรื่องการทำงานที่บ้าน พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย กิจกรรมระหว่างกักตัวอยู่ในบ้าน การดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากไวรัส ทำให้สิ่งที่ทำกันอยู่ในช่วงนี้จะกลายเป็นความเคยชินแล้วเกิดพฤติกรรมใหม่ หรือวิกฤตครั้งนี้จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในระยะยาว TerraBKK ขอพาทุกท่านไปดูกันว่าแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่คาดว่าจะเกิดขึ้น หลังจากพ้นวิกฤต Covid-19 มีอะไรบ้าง เพื่อที่ธุรกิจต่างๆจะได้เตรียมความพร้อมที่จะปรับสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมเหล่านี้

ผู้บริโภคต้องการสิ่งที่ช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้น

                   การระบาดของ Covid-19 เป็นอันตรายต่อระบบต่างๆ ภายในร่างกาย อีกทั้งยังส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคม ทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปจากเดิม ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทำให้ผู้คนมีความเครียดและวิตกกังวล บางคนต้องกักตัวเพื่อเฝ้าระวัง 14 วัน รวมถึงการทำงานแบบ Work from home ที่ไม่ต้องออกไปนอกบ้าน ลดการพบปะผู้คน เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส ทำให้เกิดความเครียด หดหู่ และเบื่อ มีความอยากที่จะออกไปกินข้าวนอกบ้าน พบเจอเพื่อนฝูง เสริมความงามหรือออกกำลังกาย

                   เมื่อผ่านช่วง Covid-19 ไป ธุรกิจที่จะฟื้นตัวเป็นอันดับแรกๆและได้รับความนิยมอย่างมากก็คือ ธุรกิจร้านอาหาร หรือธุรกิจบริการ ที่ช่วยให้ผู้คนคลายเครียด เพลิดเพลินและมีความสุขมากขึ้น แต่ในช่วงระยะแรก ผู้คนยังมีความหวาดระแวงและยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยของสถานที่บันเทิงต่างๆที่มีผู้คนรวมตัวกันเยอะๆ เช่น คอนเสิร์ต โรงหนัง อาจจะยังเป็นที่ที่ผู้คนยังกลัวและหลีกเลี่ยงที่จะไป จึงทำให้ผู้คนมองหาความบันเทิงที่เป็น Home entertainment ภายในบ้านมากขึ้น ดังนั้นธุรกิจเกี่ยวกับความบันเทิง ควรเข้าใจปัญหาของลูกค้าภายหลังจากเจอวิกฤต Covid-19 ให้ได้ เพื่อที่จะสามารถสร้างสินค้าและบริการที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีขึ้น

ผู้บริโภครักสุขภาพมากขึ้น

                   แม้ว่าที่ผ่านมาเทรนด์รักสุขภาพจะเป็นที่นิยมในยุคนี้อยู่แล้ว แต่หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ผู้คนจะตระหนักว่าการมีภูมิคุ้มกันที่ดีเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ทำให้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสต่างๆ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพจะเติบโตเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน อีกทั้งผู้คนจะให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการออกกำลังกายที่สามารถใช้ได้ภายในบ้าน ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะว่าผู้คนอาจจะไปฟิตเนสน้อยลง หลีกเลี่ยงการรวมตัวของผู้คน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคต่างๆ

ผู้บริโภคใส่ใจความสะอาดของสินค้าและบริการมากขึ้น

                   ในช่วงนี้ผู้คนก็ระมัดระวังเพราะกลัวที่จะได้รับเชื้อ จึงทำให้ใส่ใจในความสะอาด ล้างมือและใช้เจลฆ่าเชื้อโรคกันบ่อยๆ แม้จะพ้นจากไวรัส Covid-19 แล้ว ก็ถือได้ว่าวิกฤตนี้ได้เป็นบทเรียนที่ทำให้คนหันมาใส่ใจความสะอาดมากขึ้นเพื่อป้องกันเชื้อโรคหรือไวรัสที่จะเข้าสู่ร่างกายอีก ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจที่จะสร้างความมั่นใจด้านความสะอาดในสินค้าและบริการได้

                   หลายธุรกิจเริ่มมีการปรับตัวตั้งแต่ช่วงนี้ ตัวอย่างเช่น ผู้พัฒนาอสังหาฯหลายรายที่สร้างความมั่นใจด้านความสะอาด โดยทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในทุกโครงการและสำนักงานขาย หรือแม้แต่ร้านอาหารที่ในตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็น take home ก็ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นในความสะอาดและสุขอนามัยของร้านให้แก่ลูกค้าให้ได้ อาจกล่าวได้ว่าพฤติกรรมของผู้คนที่ใส่ใจความสะอาดจะอยู่กับเราในระยะยาว ทำให้ธุรกิจต่างๆต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมเหล่านี้

ผู้บริโภคมองหาสิ่งที่ช่วยสอนทักษะต่างๆมากขึ้น

                   ในช่วงการระบาดของ Covid-19 ทำให้ผู้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ใช้เวลาในการทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองมากขึ้น เช่น การทำอาหารหรือขนม จากกระแสใน Social media ที่มี challenges สอนทำอาหารต่างๆ มีการเปิดคลิปสอนทำอาหารและฝึกทำตาม การทำความสะอาดบ้าน จัดบ้านให้ดูดีและสะอาด มีการหา Content เกี่ยวกับ การทำของ DIY เพื่อเพิ่มไอเดียในจัดการหรือการตกแต่งบ้าน งานฝีมือ งาน Handmade ต่างๆ หรือแม้แต่กิจกรรมที่เคยใช้บริการต่างๆจากศูนย์บริการภายนอก เช่น การล้างแอร์ การล้างรถ การซ่อมของใช้ในบ้าน ฯ ผู้คนเองก็เริ่มหันมาทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง โดยเรียนรู้ทักษะจาก Internet หรือคลิปตาม Youtube จากการที่ผู้คนทำกิจกรรมเหล่านี้ด้วยตัวเอง อาจทำให้มีคนที่สนุกกับการทำกิจกรรมและมองว่าทักษะเหล่านี้มีความจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้หลังจากผ่านพ้น Covid-19 ธุรกิจเปิดสอน คอร์สเรียนต่างๆ หรือสินค้าต่างๆ ที่มีคู่มือการใช้ จะเป็นที่นิยมมากขึ้น

ผู้บริโภคมองหาประสบการณ์เสมือนจริงในการซื้อสินค้ามากขึ้น

                   ในวันที่คนไม่สามารถออกไปซื้อสินค้าข้างนอกได้ ทำให้คนมาซื้อสินค้าออนไลน์ (E-Commerce) ผ่าน Platform ต่างๆ มากขึ้น แน่นอนว่าหากพ้นวิกฤต Covid-19 นี้ คนก็คุ้นชินกับการซื้อของออนไลน์ แต่ในขณะเดียวกันผู้คนก็ยังต้องการเห็นสินค้าด้วยตัวเอง จึงเริ่มมองหาประสบการณ์เสมือนจริงมากขึ้น เทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยให้เราเห็นภาพเสมือนจริง ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้ไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ เราจึงขอยกตัวอย่างธุรกิจ E-Commerce ในต่างประเทศที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น

                   L’Oreal ใช้ AR Application เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางค์ของแบรนด์ผ่านแอพ

                   รองเท้า Converse มีแอพที่ใช้ AR ทำให้ลูกค้าสามารถนำภาพรองเท้าจากแคตตาล็อกมาส่องที่เท้าให้เหมือนว่าใส่รองเท้านั้นอยู่ เพื่อให้ลูกค้าเห็นชัดเจนว่าใส่แล้วดูดีหรือไม่

                   แม้กระทั่งอสังหาริมทรัพย์ที่เมื่อก่อนใครๆ ก็คิดว่า ต้องไปซื้อถึงที่เท่านั้น ก็ปรับตัวมาขายทางออนไลน์เช่นกัน เช่น แสนสิริ, AP Thailand, อนันดา, เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ และ Grand Unity ที่ให้ลูกค้าสามารถเยี่ยมชมโครงการและห้องตัวอย่างผ่านช่องทางต่างๆ ทั้ง Live Streaming, Video call ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ไม่สะดวกมาดูพื้นที่จริง การนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสบการณ์ซื้อของออนไลน์จะช่วยให้ให้ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่เหมือนไปซื้อของจริงๆ เห็นสินค้าใกล้เคียงกับของจริง ซึ่งช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ผู้บริโภคมองหาความเป็นอัตโนมัติมากขึ้น

                   จะเห็นได้ว่า ระบบ AI (Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์) มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและใช้กันอย่างแพร่หลาย ในขณะที่ Covid-19 กำลังแพร่ระบาด ก็มีการใช้ AI ที่ช่วยในการตรวจหาเชื้อและช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส และคาดว่าหลังจากวิกฤต Covid-19 นี้ AI จะถูกนำมาพัฒนาเพื่อใช้ในธุรกิจที่ต้องติดต่อและปฏิสัมพันธ์กัน โดยในอนาคตจะได้มาทำงานแทนที่มนุษย์อย่างเต็มรูปแบบ แม้จะมีการระบาดของไวรัสอีก ธุรกิจเหล่านี้ก็ยังดำเนินต่อไปได้

                   ซึ่งจะขอยกตัวอย่างธุรกิจร้านอาหารที่มี delivery อย่าง Domino’s Pizza ที่ใช้รถยนต์อัจฉริยะในการส่งพิซซ่าและมีคนขับควบคุมรถจากระยะไกลSource : Trend Watching

                   เราเชื่อว่าหลังช่วงวิกฤตนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน Digital transformation เข้ามาเร็วมากขึ้น ผู้คนจะหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น และมองหา Home entertainment เพิ่มขึ้น ซึ่งเทรนด์เหล่านี้จะเป็นแนวทางให้ธุรกิจต่างๆ ปรับตัว พัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคได้ TerraBKK เองก็หวังวิกฤต Covid-19 นี้ จะผ่านพ้นไปโดยเร็ว และหลังจากนั้นก็ขอให้ทุกภาคธุรกิจสามารถฟื้นตัวได้เร็วๆ

Source : www.skift.com