สถานการณ์ COVID-19 ตอนนี้ลุกลามไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทั้งรายได้ลดลง ภาพรวมเศรษฐกิจ และธุรกิจทุกอุตสาหกรรม ในหัวข้อ "Turn Crisis into Profit" Lead Your Team through Hard Times ตอนนี้ หัวหน้า (leader) เป็นตัวแปรสำคัญที่จะพาองค์กร ทีมงาม ให้ผ่านพ้นวิกฤตในช่วงนี้ ซึ่งสามารถนำความรู้ในบทความนี้ไปปรับใช้ เพื่อสร้างกำไร หรือทำให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดต่อไปได้ ต้องมองหาอะไรภายใต้วิกฤติ จึงจะเปลี่ยนสถานการณ์ให้เป็นกำไรได้

Step ที่1 จะต้องหา identify Challenge  ในภาวะวิกฤต COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อองค์กร ทำให้ผลลัพธ์ออกมาในแง่ลบ แต่ในความเป็นจริงปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดวิกฤต (Challenge) เป็นสิ่งสำคัญที่กระทบองค์กร เช่น มาตรการควบคุมโรคระบาดที่มีคำสั่ง ห้ามรวมกลุ่มคน, การห้ามนั่งทานอาหารที่ร้าน ฯลฯ เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Challenge ที่เกิดขึ้นในภาวะวิกฤต เป็นส่วนสำคัญที่เกิดผลกระทบ ดังนั้นหน้าที่แรกของ หัวหน้า (leader) จะต้องแยกแยะปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้ชัดเจน เช่น ร้านอาหาร ที่ห้ามนั่งทานอาหารที่ร้าน ก็ต้องหาแนวทางในการขายอาหารแบบเดลิเวอรี่ เพื่อหาทางแก้ไขต่อไป เป็นต้น

Step ที่2 หา Impact เมื่อรู้ปัญหาแล้ว จะต้องมาดูต่อว่า ปัญหา (Challenge) เข้ามากระทบกับองค์กร หน่วยงาน  อย่างไรบ้าง ดังนั้นถ้าเราจะสู้กับวิกฤตโควิด19 

Step ที่3 หา How หาวิธีแก้ภายในหน่วยงาน เพื่อเอาชนะ Impact ได้ ก็จะสามารถเอาชนะ Challenge ได้   

ด้วยเหตุการณ์ปัจจุบัน หากคุณไม่มีการปรับอะไรเลย ผลลัพธ์ธุรกิจของคุณอาจจะเป็นลบอย่างแน่นอน จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างกำไรต่อไป

 

 

        “VUCA World” เป็นคำศัพท์ที่เกิดจากการรบของทหารอเมริกา ซึ่งแยกออกมาให้มีความหมายซึ่งนำมาปรับใช้กับยุคปัจจุบันได้ จากความเชื่อมโยงด้วยข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลก คือ

  • Volatility ความผันผวน: ในยุคนี้จะมีความผันผวนสูงกว่าอดีต
  • Uncertainty ไม่แน่นอน เช่น การคาดการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เหมือนการยอมรับในสมัยอดีต
  • Complexity ซับซ้อน เช่น กรณีเรือล่มที่ภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม ซึ่งมีผลกระทบท่องเที่ยววงกว้าง
  • Ambiguity คลุมเครือ: การหาข้อมูลที่ไม่เต็ม 100%

 

แล้ว “VUCA World” เกี่ยวข้องอะไรกับวิกฤต ก็ต้องบอกว่าวิกฤตโควิด 19 เกิดอยู่ในยุค “VUCA World” ทำให้วิกฤต โควิด 19 นี้มีความผันผวนสูง สะท้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด19 ในยุโรป ภายใน 1 เดือน ที่สร้างผู้ติดเชื้อมหาศาล เป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้

ซึ่งการที่วิกฤต ไปอยู่ในยุค “VUCA World” ก็จะทำให้ภาพรวมมีความผันผวน ซับซ้อน ซึ่งความยากของการ identify Challenge  จึงเกิดขึ้น นอกจากโควิด 19 ที่มากระทบกับภาพรวมแล้ว ที่ผ่านมาโลกต้องเผชิญกับ สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ, การเมืองในประเทศ และราคาน้ำมัน ซึ่งเหล่านี้มีผลกระทบกับภาพรวมของไทย

ดังนั้นหน้าที่ของหัวหน้า (leader) คือการ identify Challenge ของภายในหน่วยงาน และต้องยอมรับว่าวิกฤตครั้งนี้ อยู่ใน “VUCA World” โลกที่มีแต่ความไม่แน่นอน ผันผวนสูงและชันมากกว่าเดิม และยังไม่สามารถทำการวิจัยข้อมูลได้ 100%

คำถาม คือ หัวหน้า (leader) จะต้องทำอย่างไร?

        การที่คุณจะระบุ Challenge คุณจะต้องมีความเด็ดขาดเพียง พอที่จะกล้าฟันธง ว่า คุณสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าโดยที่ยังไม่มีข้อมูล 100%  ได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลานั้น ๆ และละเว้นความแม่นยำไว้ทีหลัง

เมื่อคุณค้นหา Challenge เจอแล้ว ต่อไป คือ Impact เมื่อรู้ปัญหาแล้ว ก็ต้องมาดูผลกระทบต่อหน่วยงานของเรา โดยผมได้จัดให้เป็น 3 กลุ่ม โดยสามารถคิดต่อในบริบท ดังนี้

1.Perception

เมื่อ Challenge เกิดขึ้น กระทบกับ Perception ของคน คนในทีมงานก็จะมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งกรณีนี้จะทำให้งานกระจายแบบไร้ทิศทาง และอาจทำให้หน่วยงานไปไม่ถึงเป้าหมาย

2.Direction

เมื่อวิกฤตเกิดขึ้น อาจกระทบกับเป้าหมายขององค์กรที่เปลี่ยนไป ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำ คือ ลองหาสิ่งที่สามารถทดแทน หรือ สนับสนุนธุรกิจ ในส่วนที่ต้องหยุดหรือชะลอไป เพื่อให้ธุรกิจยังขับเคลื่อนต่อได้

3.Operation

วิธีการทำงานที่เปลี่ยนไป เช่น การทำงานแบบ Work From Home

สิ่งสำคัญคือ หัวหน้า (leader) จะต้องแก้ผลกระทบที่เกิดขึ้นในหน่วยงานภายใต้วิกฤต ซึ่งถ้าทำได้ก็จะสามารถพาทีมงานเดินทางไปสู่ Profit ได้อย่างที่ต้องการ แน่นอนว่า หัวหน้า (leader) จะต้องเข้าเพิ่มบทบาทให้สอดคล้องกับ Impact  3 กลุ่มที่กล่าวถึง โดยเรียงลำดับจากกระบวนการเมื่อมีวิกฤตเข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยเลือกให้เหมาะตามโอกาส

ซึ่งในส่วนแรกหัวหน้า จะต้องให้ความสำคัญเข้ามาดูแลในส่วนของ Perception ที่ยังกระจัดกระจาย บทบาทแรกด้วยการเป็น Coach & Mentor ให้กับทีมงานปรับทัศนคติของทีมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง

บทบาทที่ 2 แก้ Direction เมื่อทิศทางขององค์กรเปลี่ยนไป ในฐานะหัวหน้า (leader) คุณต้อง เป็น Strategic Thinkerเป็นคนที่คิดเชิงกลยุทธ์ เลือก How ที่เหมาะสมเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย โดยใช้ทรัพยากรที่จำกัด

และ Controller บทบาทที่จะแก้ปัญหา ใน Operation เป็นสิ่งที่หัวหน้า (leader) จำเป็นต้องมีในภาวะวิกฤต คือ “เด็ดขาด-รวดเร็ว- ชัดเจน” ดังนั้นถ้าคุณกำหนด How ได้แล้ว กำหนดวิธีการทำงานแบบใหม่ได้แล้ว หน้าที่ของหัวหน้า (leader) จะเปลี่ยนบทบาท กลายเป็นคนที่เด็ดขาด รวดเร็ว ในทันที ซึ่งทั้ง 3 บทบาท จำเป็นต้องมีกระบวนการเลือกใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา เพื่อให้ผลลัพธ์ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ

      

         เมื่อวิกฤต อยู่ในช่วง “VUCA World” โลกมีความผันผวนสูง การบริหารของ หัวหน้า (leader) จึงต้องปรับพฤติกรรม (Benaviors) ให้มีความสอดคล้อง โดยหัวหน้า (leader) ที่ทำหน้าที่สวมบทบาท 3 ข้อที่กล่าวไปนั้น ผ่าน 9 Behaviors  

โดย Coach & Mentor จะต้องบอกข้อมูลความจริง เพื่อสร้างชุดข้อมูลที่เป็นความจริงให้ทีมงานเข้าใจ พร้อมสร้างความเชื่อมั่น โดยหัวหน้า (leader) พยายามทำความเข้าใจคนในทีม และกำหนดวัฒนธรรมองค์กรที่จะเดินธุรกิจในช่วงภาวะวิกฤต เช่น ความยืดหยุ่น ที่ทุกคนสามารถทำงานได้ทุกบทบาท หรือ ทำงานทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว

ส่วน Strategic Thinker จำเป็นต้องใช้ข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด ด้วยสัญชาติญาณ พร้อมวางแผนในเวลาอันรวดเร็ว เพราะทุกอย่างในยุค “VUCA World” มีการผันผวนอย่างรวดเร็ว และนำการติชมมารีบปรับปรุงให้ทันเวลา ซึ่งจะสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรที่จะเดินธุรกิจในช่วงภาวะวิกฤต

สำหรับ Controller คือ คิดอะไรได้ต้องรีบทำทันที ซึ่งมีความแตกต่างจากช่วงธุรกิจปัจจุบัน และเมื่อเกิดปัญหา คุณจะต้องตัดสินใจเร็ว ไม่จำเป็นต้องรอข้อมูลที่ชัดเจน กล้ารับความเสี่ยง

      "โควิด 19 วิกฤตที่ยังคาดการณ์ระยะเวลาไม่ได้ โจทย์สำคัญคือการปรับตัวของภาคธุรกิจ ภายใต้ภาวะที่เกิดขึ้น ผม อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถปรับตัว และดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์ที่จำกัดนี้ไปให้ได้ จึงมาร่วมแชร์Webinar ครั้งแรกขึ้นมาในหัวข้อ "Turn Crisis into Profit" Lead Your Team through Hard Times ก้าวแรกนั้น ผู้นำทุกท่านต้องคิดให้ได้ว่า COVID-19 หรือ อะไรกันแน่? ที่กระทบธุรกิจคุณ เพราะจะเป็นส่วนสำคัญที่จะไปสู่การแก้ไขสถานการณ์การทำงานของทีม"