ถอดรหัสวาทะ 'ทรัมป์' รับตำแหน่งตัวแทนรีพับลิกันชิง ปธน. สมัย 2
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงรับตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 ท่ามกลางความตึงเครียดด้านสีผิวและชาวอเมริกันต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากการระบาดของโควิด-19
ประธานาธิบดีทรัมป์ อดีตนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง แถลงรับตำแหน่งที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพฤหัสบดี (27 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีจัดงานประชุมที่ทำเนียบ โดยใช้สนามหญ้าด้านใต้ของทำเนียบขาวเป็นสถานที่จัดงาน ตามด้วยการจุดพลุอลังการที่เนชันแนลมอลล์
ทรัมป์จัดเวทีงานประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันคืนสุดท้ายอย่างตระการตา ผิดธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาอย่างยาวนาน ที่ประธานาธิบดีต้องแยกทำเนียบขาว ซึ่งเป็น “บ้านของประชาชน” ออกจากการหาเสียง
ที่นั่งสีขาวราว 1,500 ตัววางเรียงรายหน้าเวที ตกแต่งด้วยแถวธงชาติสหรัฐ พร้อมติดตั้งจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ 2 จอมีการจุดพลุขนาดมหึมาเป็นชื่อทรัมป์แบบลายมือเขียนปรากฏอยู่บนท้องฟ้า
ก่อนที่ทรัมป์และเมลาเนีย ภริยา เคียงคู่กันออกมาจากทำเนียบขาวสู่เวทีด้วยอารมณ์แบบฮอลลีวูด คนดังของพรรคหลายคนปราศรัยเรียกน้ำย่อยไปก่อน หนึ่งในนั้นคือ อิวานกา ลูกสาวผู้ทรงอิทธิพลของประธานาธิบดีเมื่อถึงคราวเขาปราศรัยก็รัวไม่ยั้ง
ถ้อยแถลงความยาว 70 นาที ทรัมป์พยายามเล่นงาน “โจ ไบเดน” คู่แข่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอ่ยชื่อไบเดนหลายสิบครั้ง เรียกอดีตรองประธานาธิบดีสายกลางว่าเป็นพวกซ้ายสุดโต่ง
“จะไม่มีใครปลอดภัยในอเมริกาของไบเดน การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการตัดสินว่า เราจะปกป้องความฝันแบบอเมริกันเอาไว้หรือไม่ เขาเป็นผู้ทำลายการจ้างงานของอเมริกา และถ้าได้รับโอกาส เขาจะเป็นผู้ทำลายความยิ่งใหญ่ของอเมริกา” ทรัมป์ปราศรัยโจมตีไบเดนที่มีคะแนนนิยมนำก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย.
“ถ้าพวกฝ่ายซ้ายได้อำนาจ พวกเขาจะทำลายชานเมือง ยึดปืนของคุณ” ทรัมป์กล่าวพร้อมตั้งฉายาให้ไบเดนว่าเป็นคนที่เคยมีประวัติ “ทรยศ” และ “งุ่มง่าม”
วาจาก้าวร้าวไม่หยุดหย่อนของทรัมป์แตกต่างกับตอนที่ไบเดนแถลงรับตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่กินเวลา 25 นาที วิจารณ์การทำหน้าที่ประธานาธิบดีของทรัมป์โดยเลี่ยงเอ่ยชื่อตรง ๆ
แม้ถ้อยแถลงทรัมป์จะเตือนให้ระวังความโกลาหล แต่การหาเสียงสมัย 2 ของทรัมป์ก็เกิดขึ้นท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวายมากที่สุดในรอบหลายสิบปีของสหรัฐ
ประเทศชาติเจ็บปวดกับความอยุติธรรมทางสีผิว สะท้อนผ่านการประท้วง Black Lives Matter (ชีวิตคนดำสำคัญ) ที่นอกรั้วทำเนียบขาว เสียงตะโกนและแตรดังข้ามรั้วเข้ามาถึงในทำเนียบขาว
แมตต์ แมคโรวิแอค นักยุทธศาสตร์ประจำพรรครีพับลิกัน เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า พรรคทำได้ดีมากในการประชุม 4 วัน “สัปดาห์นี้ทรัมป์ได้แนวร่วมเพิ่มขึ้น เขาจะได้รับการตอบรับอย่างมากมาย”
แต่ไบเดนกลับเยาะเย้ยคำเตือนอันไร้เหตุผลของทรัมป์
“ตอนที่โดนัลด์ ทรัมป์บอกว่า คุณจะไม่ปลอดภัยในอเมริกายุคโจ ไบเดน ลองมองไปรอบๆ แล้วถามตัวเอง คุณรู้สึกปลอดภัยในอเมริกายุคโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างนั้นเหรอ” ไบเดนทวีตตอบโต้
ข้อความเดือดจากไบเดนเกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐ กำลังช็อกกับคลิปตำรวจยิงชายอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ขณะพยายามจับกุมเขาต่อหน้าลูกๆ จุดชนวนให้เกิดการประท้วงรุนแรงตามมาในเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน เมืองเล็กๆ ที่กลายมาเป็นสมรภูมิตึงเครียดเรื่องความอยุติธรรมด้านเชื้อชาติ ตำรวจใช้ความรุนแรง และสิทธิในการครอบครองปืน เมื่อวัยรุ่นรายหนึ่ง ที่มีรายงานว่าเป็นแฟนคลับทรัมป์ ตั้งศาลเตี้ยสังหารประชาชน 2 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คนในการประท้วงเมื่อคืนวันอังคาร (25 ส.ค.) ยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดสุดๆ
เมื่อพรรคเดโมแครตกล่าวหาว่า ตำรวจทั่วประเทศต้องตกที่นั่งลำบากจากการเหยียดผิวในสถาบันตำรวจ ทรัมป์จำต้องเป็นหัวหอกพรรครีพับลิกันตอบโต้ด้วยแนวคิดที่ว่า ชาวอเมริกันน่าจะไม่พอใจกับความโกลาหลมากกว่าถูกตำรวจละเมิดสิทธิเสรีภาพ
ตอนนี้ คะแนนนิยมของทรัมป์ตกต่ำมาก ชาวอเมริกันเกือบ 2 ใน 3 บอกว่า ไม่พอใจการรับมือวิกฤติโควิด-19 ของเขา แต่ทรัมป์ก็ยังมุ่งมั่นในยุทธศาสตร์ “กฎหมายและความเป็นระเบียบ” ที่ใช้รับมือกับการประท้วง
ขณะที่ทีมไบเดนกล่าวหาว่า ทรัมป์กำลังใช้เรื่องเชื้อชาติมาบดบังประเด็นโควิด ส่วนตัวไบเดนกล่าวกับช่องเอ็มเอสเอ็นบีซีเล่นงานทรัมป์โดยตรง “เขามองว่าความรุนแรงส่งผลดีทางการเมืองกับตนเอง จึงชอบให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น ไม่ใช่จะลดความรุนแรงลง เขากำลังราดน้ำมันลงกองไฟ”
ด้าน จูดี กุยลิอานี อดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก และทนายความส่วนตัวทรัมป์ปราศรัยนำร่องก่อนทรัมป์ขึ้นเวที
“ถ้าไบเดนได้รับเลือกตั้ง พร้อมๆ กับสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ไม่อยากพูดถึงความวุ่นวายแบบนี้ เมื่อนั้นกระแสอาชญากรรมจะยิ่งเข้มข้น ขยายจากเมืองใหญ่เมืองเล็กไปจนถึงชานเมืองและที่อื่นๆ แต่ถ้าประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับเลือกตั้งกลับมาอีกล่ะก็ เมื่อนั้นความเสียหายจะหยุดลง”
นอกเหนือจากความตึงเครียดด้านเชื้อชาติ สหรัฐกำลังรับมือการการระบาดของโควิด-19 พร้อมๆ กับการเปิดโรงเรียนและธุรกิจให้กลับมาดำเนินการได้เต็มที่ โควิด-19 คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 180,000 คน
แต่ทรัมป์พูดบนเวทีย้ำว่า รัฐบาลของตนสำเร็จอย่างต่อเนืื่อง คาดว่าวัคซีนโควิดพร้อมใช้ในปีนี้
“แล้วเราจะบดขยี้ไวรัสด้วยกัน” ทรัมป์ย้ำ
งานประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันที่สนามหญ้าด้านใต้ของทำเนียบขาว เห็นได้ชัดว่าไม่มีความพยายามรักษาระยะห่างกันเลย หลายคนไม่ได้สวมหน้ากากเสียด้วยซ้ำ
SOURCE : www.bangkokbiznews.com