ยานยนต์ไฟฟ้า จะมาแน่เหรอ
ในยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า อุตสาหกรรมรถยนต์จะต้องเปลี่ยนแปลงจากระบบ เครื่องยนต์สันดาบภายใน ไปเป็นเครื่องยนต์ในระบบอื่น ซึ่งระบบที่กำลังมาแรงและเขย่าอุตสาหกรรมรถยนต์โลก ก็คือระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหลายๆ บริษัทรถยนต์ชั้นนำก็ได้มีการยกเลิกสายการผลิตเครื่องยนต์สันดาบภายใน และ เปลี่ยนตัวโรงงานมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียว แบบที่ Volkswagen ยกเลิกสายการผลิตเครื่องยนต์สันดาบภายในที่มีมายาวนานกว่า 116 ปีในเมือง Zwickau ประเทศเยอรมันนี และทุ่มทุนกว่า หนึ่งพันสองร้อยล้านยูโร สร้างสายการผลิตรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ก็เป็นสัญญานบ่งบอกถึงทิศทางการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
เมื่อหันมามองดูที่อุตสาหกรรมรถยนต์ในเมืองไทย ที่ได้ชื่อว่าเป็น ดีทรอยต์แห่งเอเชีย ซึ่งประเทศไทยเรามีกำลังการผลิตรถยนต์ได้ถึงปีละมากกว่า สองล้านคัน และมีการส่งออกไปยังต่างประเทศถึงมากกว่า หนึ่งล้านคัน แต่ตัวเลขนี้ก็เป็นตัวเลขจากการผลิตรถยนต์ในระบบเครื่องยนต์สันดาบภายในเท่านั้น อุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศไทยยังต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปตามทิศทางรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรักษาความเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ต่อไป ซึ่งในตอนนี้การลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้นได้รับการส่งเสริมจากนโยบายของภาครัฐ โดยภาครัฐตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2573 ประเทศไทยจะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ถึง 30% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด ทาง BOI ได้เปิดเผยว่าในตอนนี้ มีผู้ประกอบการกว่า 16 บริษัท ที่ได้ขอการส่งเสริมการลงทุนรวม 26 โครงการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและก่อสร้างศูนย์อัดประจุ ซึ่งถือเป็นสัญญานที่ดีของการพัฒนาและเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้ตอบรับกับความต้องการการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของโลก
ในปัจจุบันนี้ในส่วนของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ก็เริ่มได้พบเห็นการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ และรถยนต์ไฟฟ้าก็เริ่มมีราคาที่ลดลงเรื่อยๆ แต่อุปสรรคใหญ่ที่ทำให้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นไม่แพร่หลายคือ ในส่วนของสถานีอัดประจุ ที่ยังไม่มีครอบคลุมตามพื้นที่หลักๆ ในประเทศไทย ถึงแม้ทางบริษัทรถยนต์จะทำการแถมที่อัดประจุมาให้กับรถยนต์ไฟฟ้าก็ตาม ก็ช่วยได้แค่ผู้ที่มีที่จอดรถภายในตัวบ้าน ส่วนผู้ที่ต้องจอดรถไว้ริมถนนก็ไม่สามารถติดตั้งที่อัดประจุไว้ตามแนวฟุตบาทได้ ส่วนการติดตั้งที่อัดประจุตามบ้านก็ต้องมีกาปรับระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ดังนั้น ถึงแม้กำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะเพิ่มขึ้น แต่การใช้งานในประเทศก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ จำนวนฐานอัดประจุที่ยังมีอยู่อย่างจำกัด เมื่อใดที่ประเทศไทยมีฐานอัดประจุครอบคลุมระยะทางทั่วประเทศไทยมากพอ เราก็จะได้เห็นการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างแพร่หลายแน่นอน