RML ส่องอสังหาฯ ปี 64 ชะลอตัว มั่นใจรักษาผู้นำตลาดลักซ์ชัวรี่ ชูกลยุทธ์รีแบรนด์ เน้นขายผ่านช่องทาง Online ด้วยวิธี O2O
RML ส่องอสังหาฯ ปี 64 ชะลอตัว มั่นใจรักษาผู้นำตลาดลักซ์ชัวรี่
ชูกลยุทธ์รีแบรนด์ เน้นขายผ่านช่องทาง Online ด้วยวิธี O2O
RML ส่องภาพรวมอสังหาฯ ปี 64 ชะลอตัว มั่นใจรักษาผู้นำอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ชูกลยุทธ์รีแบรนด์เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่เน้นขายผ่านช่องทาง Online ด้วยวิธี O2O กระตุ้นดีมานด์ พร้อมวางแผนเปิด 1 โครงการใหม่ สุขุมวิท 38 ด้านผลประกอบการปี 63 รายได้ 3,171.5 ล้านบาท จากคอนโดหรู The Diplomat 39, The Lofts Asoke และ The Lofts Silom
นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RML) เปิดเผยว่า แม้ทิศทางภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ปี 64 มีปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว แต่บริษัทเชื่อว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ได้อย่างต่อเนื่อง
โดยแผนการดำเนินงานปีนี้ ประกอบด้วย การรีแบรนด์ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ให้เข้าถึงง่ายทันสมัย สอดรับกับการปรับวิสัยทัศน์ใหม่ของไรมอน แลนด์ ที่ต้องการขยายกลุ่มเป้าหมายให้เข้าถึงสไตล์คนรุ่นใหม่ และทุกเจเนอเรชั่นที่มีกำลังซื้อของตลาดระดับบน ซึ่งการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ครั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะนำมาซึ่งมิติใหม่ของการดำเนินงาน ด้วยการพัฒนาคุณภาพคอนโดมิเนียมและบริการ นำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในทุกกระบวนการทำงาน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
อีกทั้ง บริษัทวางแผนส่งเสริมการขาย ด้วยการจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ และเน้นขายผ่านช่องทาง Online ด้วยกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) เพื่อให้ลูกค้าสามารถรับชมโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ผ่านระบบ Online ก่อนตัดสินใจเข้าชมโครงการจริง เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อและเข้าถึงลูกค้าโดยตรง ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายโครงการได้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ ในซอยสุขุมวิท 38 ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนโครงการที่ 3 ระหว่างบริษัท กับ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ ส่วนโครงการอาคารสำนักงานเกรดเอ อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคือ โครงการ วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ (One City Centre – “OCC”) โดยโครงการนี้เป็นการร่วมทุนในสัดส่วน 60:40 ระหว่างบริษัท กับบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย
สำหรับผลประกอบการปี 63 บริษัทมีรายได้รวม 3,171.5 ล้านบาท ลดลง 448.9 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,620.4 ล้านบาท หรือลดลง 12.4% สำหรับยอดขาย (Presales) 3,045.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำไว้ 2,909.0 ล้านบาท จำนวน 136.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.7% จากการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องในราคาพิเศษให้กับลูกค้าที่อยู่ในประเทศไทยตานโยบายที่ต้องการมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้และรักษากระแสเงินสดในมือให้มีสถานะมั่นคง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทนำยูนิตรอขายในโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วพร้อมเข้าอยู่ อาทิ The River, The Diplomat 39, The Diplomat Sathorn, The Lofts Asoke และ The Lofts Silom เป็นต้น
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/63 บริษัทมีรายได้ 666.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167.1 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 499.0 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33.5% มียอดขาย (Presales) 588.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.5 ล้านบาท จากปีก่อน 517.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.6% เนื่องจากจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายของโครงการ The Lofts Silom ให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
ในปี 63 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานตามงบการเงินรวม 724.4 ล้านบาท ลดลง 784.3 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 59.9 ล้านบาทในปีก่อน โดยคิดเป็นขาดทุนสุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 0.172 บาทต่อหุ้น โดยผลขาดทุนที่สูงกว่าปกติ ส่วนหนึ่งเนื่องจากการบันทึกผลขาดทุนรวม 250.2 ล้านบาท จากการขายที่ดินในซอยสุขุมวิท 19 ซึ่งเดิมที่ดินแปลงนี้อยู่ในระหว่างการขอ EIA เพื่อก่อสร้างโรงแรมระดับ 4 ดาว แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวหยุดชะงักทั่วโลกและคาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัวในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทจึงตัดสินใจที่จะขายที่ดินแปลงดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดของบริษัท ทั้งนี้หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว บริษัทจะมีผลขาดทุนสุทธิในปีนี้ 474.2 ล้านบาท
บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ วันที่ 31 ธ.ค. 63 อยู่ที่ 6,565.2 ล้านบาท รวมทั้งหมด 7 โครงการ ได้แก่ โครงการ Tait12 39.2%, โครงการ The Estelle Phrom Phong 34%, โครงการ The Lofts Silom 15.6 %, โครงการ The Lofts Ratchathewi 9.8%, รวมจากโครงการ The Lofts Asoke, The River และ Unixx South Pattaya 1.4%.