“เดอะ ฟอเรสเทียส์” กวาดยอดขายใน 3 เดือน เพิ่มสองเท่า พุ่งทะลุ 13,000 ลบ.
โควิด-19 มีส่วนสำคัญทำให้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ช่วยดึงดูดผู้ซื้อมาที่ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ด้วยจุดเด่นที่เป็นโครงการเมืองเพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีและมีความสุขยิ่งขึ้น ผสานเข้ากับสิ่งที่โครงการที่พักอาศัยต่างๆ ใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ นำเสนอ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ของคนหลากหลายช่วงวัย เป็นการผสมผสานที่โดนใจผู้ซื้ออย่างแท้จริง
ภาพโครงการต่างๆ ใน “เดอะ ฟอเรสเทียส์”
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผย ยอดขายโครงการที่พักอาศัยต่างๆ ใน “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา สามารถขายได้มากกว่า 7,000 ล้านบาท ทำให้ล่าสุดยอดขายโครงการ ทะลุ 13,000 ล้านบาท
นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าวว่า ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จำนวนผู้ซื้อโครงการที่พักอาศัยใน “เดอะ ฟอเรสเทียส์” มีจำนวนมากกว่าผู้ซื้อโครงการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เราประกาศความตั้งใจที่จะสร้างโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ให้เป็นเมืองที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพของผู้อยู่อาศัยเป็นอันดับแรก และได้รับการออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น”
ซึ่งการที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น มีผลมาจากสถานการณ์โควิด - 19 รวมถึงการได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับครอบครัวมากขึ้น จากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ล้วนตอบโจทย์แนวคิดสำคัญของโครงการของเราที่ผสานธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวัน และการออกแบบที่ส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวจากหลากหลายเจเนอเรชั่นได้มาอยู่ใกล้ชิดกัน อย่างลงตัว
บรรยากาศป่าใน “เดอะ ฟอเรสเทียส์”
ล่าสุดที่โครงการ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ได้เปิด ฟอเรสต์ พาวิลเลียน ซึ่งออกแบบโดย Foster+Partners โดยจัดแสดงห้องตัวอย่าง 11 ห้องจาก 3 โครงการที่อยู่อาศัยในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยให้เข้ามาเยี่ยมชมภายในโครงการ และยังช่วยให้ผู้สนใจเห็นภาพแนวคิดสำคัญในการพัฒนาโครงการของเรา รวมทั้งคุณภาพของการออกแบบและรูปแบบของที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
สำหรับ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ภายในประกอบด้วย ที่อยู่อาศัยทั้งหมด 7 แบบ ซึ่งได้รับการออกแบบในหลายระดับราคา ให้สอดคล้องสำหรับช่วงวัยต่าง ๆ และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย โดยเน้นการได้อยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน พร้อมเลือกใช้วัสดุและการออกแบบด้วยมาตรฐานคุณภาพสูงสุด โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 5 ล้านบาท ไปจนถึง 250 ล้านบาท
ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’
ในช่วงที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ และ ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ เป็น 2 โครงการที่อยู่อาศัยภายใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ สามารถทำยอดขายสูงสุด ด้วยยอดขายมากกว่า 6,300 ล้านบาท ตามมาด้วยคอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘วิสซ์ดอม’ ที่มียอดขายมากกว่า 3,000 ล้านบาท
โดยที่อยู่อาศัยแบรนด์ “มัลเบอร์รี โกรฟ” ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบครอบครัวคนไทย ที่มีหลากหลายเจนเนเรชั่นอาศัยอยู่ร่วมกัน โดยบ้านแต่ละหลังจะมีขนาดที่แตกต่าง เชื่อมถึงกันได้ด้วยทางเดินพิเศษ ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ให้สามารถใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด แต่ยังคงมีความเป็นส่วนตัว และมีพื้นที่ที่แยกออกจากกัน
คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’
“เป็นแนวคิดรูปแบบใหม่ที่มีการออกแบบให้บ้านหลายขนาดเชื่อมต่อถึงกันเป็นคลัสเตอร์โฮม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของครอบครัว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
โดย ‘มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า’ ขายได้แล้วจำนวน 10 หลัง” นายกิตติพันธุ์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 398 ไร่ บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ EEC บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ พื้นที่สีเขียว และสวนสาธารณะ มีองค์ประกอบสำคัญที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ ป่าขนาดใหญ่พื้นที่ 30 ครอบคลุมพื้นที่ใจกลางของโครงการ นอกจากนั้น ยังมีทางเดินยกระดับความยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร ซึ่งรวมทางเดินที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆ และทางเดินที่ทอดตัวอยู่เหนือผืนป่าซึ่งอยู่บริเวณใจกลางโครงการ
พื้นที่สำหรับกิจกรรมชุมชน และพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับร้านค้าและสำนักงาน โดย เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการอสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่พัฒนาโดยบริษัทเอกชน มีกำหนดสร้างเสร็จสมบูรณ์ทุกโครงการ ต้นปี 2567
คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘วิสซ์ดอม’
โครงการที่พักอาศัยใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้แก่
- คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ คอนโดมิเนียมแบบ low-rise ที่มุ่งตอบโจทย์ที่ไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จำนวน 6 อาคาร โดยมีห้อง 16 แบบ ขนาดตั้งแต่ 63 ตารางเมตร ไปจนถึง 1,027 ตารางเมตร
- ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม ที่มุ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่หลากหลายเจนเนเรชั่น จำนวน 37 หลัง 3 ขนาด ตั้งแต่ 4-6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นประมาณ 1,000 ตารางเมตร ถึง 1,600 ตารางเมตร
- คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘วิสซ์ดอม’ แบบ high-rise จำนวน 3 อาคารที่มุ่งตอบโจทย์คนวัยเริ่มต้นทำงาน วัยสร้างครอบครัว ครอบครัวใหม่ และคนรักสัตว์เลี้ยง โดยมีห้อง 7 แบบ ขนาดตั้งแต่ประมาณ 35 ไปจนถึง 205 ตารางเมตร
- ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ดิ แอสเพน ทรี’ โครงการที่พักอาศัยพร้อมมอบบริการดูแลตลอดชีวิต สำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการใช้ชีวิตในระยะยาว ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีทั้งแบบ Active Living Condominiums และ Sky Villa Residences เพรียบพร้อมทั้งที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก การบริการอย่างครบครัน และการดูแลด้านสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญอย่างครบวงจร
- ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ซิกส์เซนส์’ วิลล่าระดับซูเปอร์ ลักชัวรี่ ที่บริหารและจัดการโดยซิกส์เซนส์แบรนด์เซอร์วิสระดับโลก
ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ดิ แอสเพน ทรี’
ขอบคุณข้อมูล-ภาพ : MQDC