ลูกบ้านแอชตัน อโศก ไลฟ์เฟซบุ๊กถาม “ใครจะรับผิดชอบ ถ้าต้องทุบตึก?”
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกลุ่มลูกบ้าน โครงการแอชตัน อโศก ที่ได้รับผลกระทบจากคำตัดสินศาลปกครองกลาง หลังจากวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2564 ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศก คอนโดมิเนียมหรูสูง 50 ชั้น มูลค่าโครงการทั้งหมด 6,481 ล้านบาท เนื่องจากความกว้างของถนนไม่ถึง 12 เมตร ซึ่งผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารชุด พ.ศ.2522 นั้น
วันนี้ ตัวแทนลูกบ้าน ของโครงการแอชตัน อโศก ได้ออกมาพูดถึงผลกระทบ ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ : ลูกบ้านแอชตันอโศกที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของศาลปกครองกลาง โดยใจความสำคัญส่วนใหญ่ ระบุถึง ผลกระทบหลังจากที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศก ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงทันทีกับกลุ่มลูกบ้านจำนวนกว่า 578 ครอบครัว ในนี้เป็นลูกบ้านชาวต่างชาติด้วยอีกราว 140 ครอบครัว ใน 3 ด้าน คือ ด้านจิตใจ, ความมั่นคงในชีวิต และกระทบด้านการเงิน และสอบถามหาความชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ หากโครงการนี้ต้องถูกทุบ!!
โดยลูกบ้านกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นการซื้อแบบผ่อนชำระกับธนาคาร ซึ่งตอนนี้บางรายก็กำลังเตรียมรีไฟแนนซ์ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ธนาคารปฎิเสธที่จะรีไฟแนนซ์ให้กับลูกบ้านในทันที
ด้านความมั่นคงในชีวิต ต้องยอมรับว่าหลังจากคำสั่งศาลออกมา ทำให้ห้องชุดในโครงการแอชตัน อโศก ถูกแช่แข็ง หลายคนมองว่าเป็นโครงการคอนโดฯเถื่อน ทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมโอน, ซื้อ-ขายกับห้องชุดภายในโครงการได้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของลูกบ้าน
และด้านจิตใจ โดยเฉพาะลูกบ้านชาวต่างชาติ หลังจากที่ได้ทราบข่าว ก็ยอมรับว่าตกใจมาก ซึ่งลูกล้านคนไทยก็ได้พยายามหาข้อมูลเพื่อช่วยชี้แจงกับเพื่อนบ้านชาวต่างชาติได้เบื้องต้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ากรณ๊นี้ทำให้คนต่างชาติที่เป็นเจ้าของร่วม เสียความรู้สึก และขาดความเชื่อมั่นต่อการซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยในทันที
คำถามสำคัญของลูกบ้านในโครงการแอชตัน อโศก ส่วนใหญ่กังวลเรื่องของการผ่อนชำระกับธนาคาร ที่ยังไม่รู้ว่าหากผ่อนชำระไปแล้วจะเป็นการผ่อนเปล่าหรือไม่ ? รวมถึงเรื่องเงินค่าส่วนกลางจะเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาต่างๆ นี้หรือไม่? เพราะที่ผ่านมาลูกบ้านไม่รับทราบความคืบหน้าทางคดีเลย จนเกิดกระแสข่าวขึ้น ทำให้ลูกบ้านลงมติเห็นชอบว่า จะมีการจ้างที่ปรึกษาทางกฎหมายที่จะเป็นตัวแทนของลูกบ้านในโครงการแอชตัน อโศก เพื่อเข้ารับฟังปัญหา และเป็นกระบอกเสียงตัวแทนของกลุ่มลูกบ้านในโครงการแอชตัน อโศก และที่สำคัญเงินค่าส่วนกลางจะสูญเปล่าหรือไม่หากโครงการแอชตัน อโศก ถูกทุบทิ้ง
ทั้งนี้ ลูกบ้านในโครงการแอชตัน อโศก ได้วิงวอน ถึงหน่วยงานภาครัฐ – บริษัท และสังคม ดังนี้
1. ใครจะเป็นผู้เยียวยากลุ่มลูกบ้าน ทั้งในระยะสั้น เช่น การรีไฟแนนซ์, ความเชื่อมั่นในการพักอยู่อาศัย รวมถึงเรื่องคดีความต่างๆ ในระยะยาว
2. ในฐานะประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หากในอนาคตมีคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ให้ดำเนินการเพิกถอนโครงการแอชตัน อโศก และทุบโครงการทิ้ง ถึงตอนนั้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น จะเป็นหน่วยงานภาครัฐ หรือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพราะบริษัทที่ลูกบ้านทำการซื้อขายด้วย คือ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด หากถึงเวลานั้นบริษัทจะเข้ามาดูแลลูกบ้านอยู่อีกหรือไม่ หรือจะปิดบริษัทหนี และในระหว่างนี้ บริษัท อนันดา จะมีการตั้งสำรองหนี้เพื่อลูกบ้านในโครงการแอชตัน อโศก หรือไม่ เพราะจากข้อมูลที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีการตั้งสำรองหนี้ไว้ในส่วนนี้
ทั้งนี้ ลูกบ้านในโครงการแอชตัน อโศก ที่ได้รับผลกระทบ ยืนยันว่า เคารพในคำตัดสินของศาลปกครอง กฎหมาย และความถูกต้อง ซึ่งในอนาคตหากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ยืนยันว่าโครงการมิชอบด้วยกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อการเพิกถอนอาคาร ลูกบ้านก็ยังเคารพในคำตัดสินของกฎหมาย
ทางด้าน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ฯ ในนามผู้บริหารโครงการ แอชตัน อโศก ได้มีการประชุมหารือกับเจ้าของร่วมในการสร้างความเข้าใจและร่วมกันหาแนวทางในการแก้ปัญหาจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยบริษัทฯ ขอแจ้งความคืบหน้าแผนการดำเนินการระหว่างบริษัทฯ และเจ้าของร่วม โดยในขั้นแรกเจ้าของร่วมได้จัดตั้งทีมกฎหมายและคณะทำงานขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อทำงานกับบริษัทฯ ในการร่วมกันหาแนวทางในการเรียกคืนความยุติธรรม ให้โครงการแอชตัน อโศก
ซึ่งบริษัทฯ รับทราบถึงความเดือดร้อนของเจ้าของร่วมในด้านสินเชื่อ ซึ่งมี 348 ครอบครัวที่ใช้สินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก 9 สถาบันการเงิน มีมูลค่ารวมเกือบ 3,000 ล้านบาท บริษัทฯ จึงได้มีการหารือกับธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อดังกล่าวเพื่อเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเจ้าของร่วมทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยมี 9 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรี ธนาคารยูโอบี ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน โดยมาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้าที่จะทำการ Retention จะมีการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
เจ้าของร่วมสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ที่เจ้าหน้าที่โครงการ คุณอุมาภรณ์ แพรสมบูรณ์ 087-550-3952