เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) ขยายพอร์ตรีเทลเจาะกลุ่มสตาร์ทอัพ เปิดจองพื้นที่ Silom Edge แซนด์บ็อกซ์ กลางเมืองแห่งเดียวที่เข้าใจทุกธุรกิจหน้าใหม่อย่างแท้จริง

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) หรือ “FPCT” เผยกลยุทธ์พร้อมแผนธุรกิจรีเทลปี 2565 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจภายใต้ กลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ในปีที่ผ่านมา FPCT ได้ขยายขีดความสามารถในการรองรับดีมานด์ตลาดด้วยแนวคิด Fluid Approach ที่ปรับตัวตามเทรนด์อย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่สดใหม่ให้แก่ลูกค้า (Customer Experience) การันตีความสำเร็จจากแคมเปญการตลาดที่เกาะกระแสนิยมแบบ Real Time ตลอดทั้งปีของ ‘สามย่านมิตรทาวน์’ จนเป็นหนึ่งในเดสติเนชันที่ต้องมาเช็คอินของคนกรุงเทพฯ สำหรับปี 2565 นี้ FPCT เตรียมเดินหน้าสร้างสีสันใหม่ให้แก่วงการธุรกิจรีเทล กับโครงการล่าสุด สีลมเอจ (Silom Edge) ที่จะเป็นสังคม แซนด์บ็อกซ์ แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพที่เข้าใจสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการหน้าใหม่อย่างแท้จริง

นางสาวธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) กล่าว “FPCT ต้อนรับศักราชใหม่ด้วยความพร้อมทางด้านกลยุทธ์และแผนงาน พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจสายรีเทล ทั้งยังมีฐานลูกค้าจำนวนมากและพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง จึงมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามโรดแมป เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯได้อย่างแน่นอน”

FPCT ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการเนรมิตพื้นที่รีเทลเพื่อสร้างประสบการณ์ผสานแรงบันดาลใจได้ทุกวัน หรือ “Inspiring Everyday Experiences” สอดคล้องกับแนวคิดของกลุ่ม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายหลายประเภททั่วโลก โดยมีธุรกิจรีเทลเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของกลุ่มฯ ครอบคลุม 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เวียดนาม และ ประเทศไทย ด้วยการผสานประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ FPCT เข้ากับแนวคิดและเทรนด์การพัฒนาพื้นที่รีเทลของกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ทำให้โครงการในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯมีความแตกต่างจากโครงการของผู้พัฒนารายอื่นๆ สะท้อนได้จากแนวทางการดำเนินงานทั้ง 4 ด้าน ดังนี้

1. ลื่นไหลไปกับกระแสนิยมแบบ Real Time (Fluid Approach) การตลาดแบบทันท่วงทีคือหัวใจสู่ความสำเร็จในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การปลดล็อคข้อจำกัดและรูปแบบการดำเนินงานแบบเดิมๆ ทำให้สามารถเอาชนะใจลูกค้าและทำให้กลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

2. กำหนดนิยามใหม่ในการใช้ประโยชน์จากสถานที่ (Redefine Physical Location) ด้วยการพัฒนาพื้นที่ที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างสเปซให้เกิดประโยชน์กับชุมชนเป็นสำคัญ ส่งเสริมบทบาทศูนย์การค้าที่เป็นเดสติเนชัน

3. ยกระดับการใช้เทคโนโลยีในพื้นที่รีเทล (Leverage Digital Technology) เตรียมรองรับการชำระค่าบริการด้วยเงินดิจิทัล เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า พร้อมยกระดับคุณภาพการบริการด้วยแอพพลิเคชัน MitrCare โดยล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมมือกับ KBTG เพิ่มฟังก์ชั่นระบบจัดซื้อ หรือ E-Catalogue อำนวยความสะดวกขั้นสูงสุดให้แก่ร้านค้าตลอด 24 ชั่วโมง

4. ส่งเสริมสุขอนามัยของผู้ใช้บริการและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง (Hygiene and Safety Practice) ตามมาตรการ PREVENTIVE ด้วยการคงความเข้มงวดในการคัดกรองผู้ใช้บริการ ณ จุดตรวจวัดอุณหภูมิ การรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสม การบังคับสวมหน้ากาก และการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนด

ในปีนี้บริษัทฯเตรียมรุกขยายพอร์ตรีเทลด้วยโครงการใหม่ล่าสุดบนหัวมุมถนนสีลม ทำเลทองทางเศรษฐกิจ สีลมเอจ (Silom Edge) ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ พร้อมเป็นแพลตฟอร์มให้ทุกธุรกิจเริ่มต้นได้ง่าย ด้วยบริการที่ตอบโจทย์ ครอบคลุมทุกความต้องการ (All Inclusive Services) ปัจจุบันสีลมเอจอยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ และจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายนปีนี้ โดยพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการทุกช่วงเวลา ด้วยโซนรีเทลที่ทำการเปิดตั้งแต่ 11:00 น. ถึงเที่ยงคืน และโซนพิเศษ 2 ชั้นแรกที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และเครื่องจำหน่ายสินค้าคุณภาพด้วยระบบอัตโนมัติ

“หัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและ ความไม่แน่นอน คือการทลายทุกข้อจำกัด และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อยู่เสมอ ด้วยการปรับกลยุทธ์และแผนการตลาดอย่างทันท่วงที จะทำให้สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ เรายังปรับการดำเนินธุรกิจแบบ B2B เป็นแบบ Partnership ที่ช่วยให้เราใกล้ชิดกับลูกค้ามายิ่งขึ้น เราจึงเข้าใจถึงปัญหาและความต้องการที่แท้จริง ทำให้สามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจของกลุ่มฯ จะสามารถสร้างสีสันให้กับวงการรีเทลด้วยรูปแบบการให้บริการและกิจกรรมทางการตลาดที่น่าจับตามอง ซึ่งการเพิ่มโครงการใหม่อย่างสีลมเอจเข้ามาในพอร์ตรีเทล จะช่วยขยายขีดความสามารถในการรองรับดีมานด์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้และกระจายความเสี่ยงให้แก่บริษัทฯอีกด้วย” นางสาวธีรนันท์ เสริม

 

ภาพรวมการดำเนินงานของศูนย์การค้าในพอร์ตโฟลิโอของ FPCT ในช่วงปีที่ผ่านมา 
สามย่านมิตรทาวน์ ถึงแม้ในปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อ แต่ FPCT ก็ยังคงรักษาอัตราผู้เช่าไว้ในระดับสูงที่ 98% โดยหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศคลายล็อคดาวน์ โครงการสามย่านมิตรทาวน์ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า มีจำนวนผู้เข้าใช้บริการในโครงการเพิ่มขึ้นทุกวันเฉลี่ย 55,000 คน/วัน สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการ ประกอบกับการดำเนินงานเชิงรุก หรือ Fluid Approach ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการดึงดูดทราฟฟิคให้กับศูนย์การค้าฯ เน้นการจับกระแสอย่างรวดเร็ว แล้วลงมือสร้างกิจกรรมทางการตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ อย่างทันท่วงที สำหรับปี 65 นี้ สามย่านมิตรทาวน์ ก็ได้เตรียมแคมเปญใหญ่ เรียนทาวน์ เพื่อตอกย้ำการเป็นแหล่งอาหารและการเรียนรู้

สีลมเอจ โครงการมิกซ์ยูสที่จะเป็นสังคมแซนด์บ็อกซ์แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ ภายในโครงการจะประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานและรีเทล 7 ชั้น รวมพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร พร้อมโซนเปิดให้บริการถึงเที่ยงคืนทุกวัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ รองรับกลุ่มผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพที่ต้องการทดสอบตลาดและวางจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มแซนด์บ็อกซ์ด้านรีเทล ทั้งยังส่งเสริมการทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัล (Cashless Society) และสนับสนุนการชำระค่าบริการด้วย คริปโตฯ