เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้  โฮม (ประเทศไทย) เดินเกมรุกตลาดแนวราบ พร้อมก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืน เตรียมลุยตลาดบ้านเดี่ยวเต็มสูบ ส่งโครงการบ้านเดี่ยวแบบใหม่ “แกรนดิโอ” เติมเต็มความแข็งแกร่งทั่วมุมเมืองตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เน้นเจาะกลุ่ม City Home ปักธงทำเลใจกลางเมือง ดันขึ้นแท่นผู้นำตลาดบ้านเดี่ยว พร้อมเปิดโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 29,500 ล้านบาท

 

            นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ เชื่อว่ายังคงเติบโตได้ จากความต้องการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะบ้านแนวราบ ทั้งทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว ทำให้ในปี 2565 บริษัทฯได้ ปรับปรับกลยุทธ์ใหม่ด้วยการเพิ่มสัดส่วนเซกเมนต์บ้านเดี่ยวระดับบน ภายใต้แบรนด์  “แกรนดิโอ” (GRANDIO) และ City Home อย่างแบรนด์ “เดอะ แกรนด์ วิภาวดี 60” (THE GRAND Vibhavadi 60)

            พร้อมปรับแบบบ้านใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้ามีต้องการยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัย ขยายตลาดให้กระจายโครงการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากที่สุด ทั้งนี้บริษัทก็ยังคงที่จะรักษาจุดเด่นของตลาดโครงการทาวน์โฮมที่บริษัทมีอยู่ ให้เข้าถึงคนอยากมีบ้านควบคู่ไปด้วย

            โดยแผนธุรกิจในปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%  จากโครงการที่เปิดขายแล้ว 62 โครงการ และมีการเปิดโครงการ 25 โครงการ มูลค่า 29,500 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์โฮม 10 โครงการ,นีโอ โฮม บ้านแฝด จำนวน 2โครงการ, บ้านเดี่ยว 10 โครงการ และ โครงการต่างจังหวัด 3 โครงการ

 

ในปัจจุบันยอดขายไม่ได้สำคัญมากนัก เพราะก็ไม่สามารถประมาณการรายได้ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่า คือ ความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของลูกค้าในการซื้อบ้าน ที่จะทำให้บริษัทก้าวไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาตลอดในการพัฒนาบ้านให้เป็นบ้านในฝันของลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ที่โดดเด่นสวยหรูถูกใจ ทำเลที่มีศักยภาพสูง พร้อมฟังก์ชั่นครบคุ้มโดนใจ ที่นับเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า

ทั้งนี้การที่บริษัทปรับพอร์ตเพิ่มบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด เพิ่มขึ้นถึง 60% และลดสัดส่วนทาวน์เฮาส์เหลือราว 34% และการเพิ่มโครงการต่างจังหวัดเป็น 12% จะป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตได้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ เพราะบ้านเดี่ยวยังเป็นตลาดที่มั่นคง และลูกค้ามีอัตรากู้สินเชื่อผ่านสูงกว่ามาก

 

 

ส่วนคอนโดฯ คาดว่า จะสามารถเปิดขายโครงการแรกปี 2566 โดยจะปักหมุดลงในทำเลย่านรัชดาภิเษก เพื่อทำคอนโดฯสูง 8 ชั้น ประมาณ 200 ยูนิต เพื่อความเป็นส่วนตัว พื้นที่ส่วนกลางไม่แออัด โดยการพัฒนาคอนโดฯ จะเน้นระดับราคา 3-5 ล้านบาท จับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเจนวายและเจนเอ็กซ์ ซึ่งมีความต้องการอาศัยในคอนโดฯ ที่เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า และต้องการความเป็นส่วนตัวสูง