ประเดิมส่งออก ม.ค. ยังขยายตัวต่อเนื่องแม้มีสัญญาณชะลอตัวระยะสั้นจากผลของโอมิครอน สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังไม่ส่งผลแต่ยังคงต้องจับตา
มูลค่าการส่งออกเดือนมกราคม 2022 ขยายตัว 8%YOY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 24.2% ในขณะที่การนาเข้าสินค้าขยายตัว 20.5% ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 33.4% ทาให้ดุลการค้าในเดือนแรกของปี 2022 ขาดดุลที่ 2,526.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในเดือนนี้กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลการส่งออกและนาเข้ารายสินค้าในเดือนมกราคมเนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับปรุงรหัสสถิติสินค้าตามพิกัดศุลกากร ซึ่งดาเนินการในทุก ๆ 5 ปี ซึ่งในครั้งนี้จะดาเนินการเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2022 สาหรับการส่งออกสินค้ารายตลาดกระทรวงพาณิชย์รายงานว่าการส่งออกไปอินเดีย รัสเซีย สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ เป็นตลาดที่ขยายตัวได้มากที่สุดเป็น 5 ลาดับแรก
การส่งออกในเดือนแรกของปี 2022 ขยายตัว 8% ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 24.7% โดยหากพิจารณาเทียบกับเดือนธันวาคม (ปรับผลของฤดูกาล) การส่งออกจะหดตัวมากถึง -15.2% (MOM, SA) สอดคล้องกับมูลค่าการส่งออกของประเทศสาคัญหลายประเทศทั่วโลก (รูปที่ 1 ซ้าย) รวมถึงกิจกรรมในภาคการผลิตที่ชะลอลง ในเดือนมกราคม ซึ่งสะท้อนจากดัชนี Global Manufacturing PMI – export orders ที่ปรับลดลงสู่ระดับต่ากว่า 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือน และดัชนี Manufacturing PMI ที่ลดลงทั้งในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกาลังพัฒนา (รูปที่ 1 ขวา) ซึ่งคาดว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโอมิครอนทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การส่งออกในระยะถัดไปยังมีแนวโน้มที่ดี สะท้อนจากตัวเลขล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ดัชนี Global Manufacturing PMI – export orders กลับมายืนเหนือระดับ 50 ได้อีกครั้ง และมูลค่าการส่งออกของเวียดนามและเกาหลีใต้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่กลับมาเร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนมกราคมแบบปรับฤดูกาล
รูปที่ 1 : การส่งออกของไทยในเดือนมกราคม 2022 ขยายตัวในอัตราชะลอลง สอดคล้องกับหลายประเทศทั่วโลกและดัชนี Manufacturing PMI ที่ปรับตัวลดลงในเดือนมกราคม
ดุลการค้าของไทยอาจปรับลดลงในปี 2022 จากมูลค่าการนาเข้าที่ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าการส่งออกในช่วงหลัง ประกอบกับราคาสินค้านาเข้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่าราคาสินค้าส่งออก (รูปที่ 2) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาสินค้าพลังงานที่ยังผันผวนและอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง จากปัญหาทางด้านอุปทานที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และคาดการณ์ความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้นตามการฟื้นตัว ของอุปสงค์โลก
รูปที่ 2 : เปรียบเทียบการนาเข้าและส่งออกของไทยในช่วงที่ผ่านมา
EIC อยู่ระหว่างการประเมินตัวเลขคาดการณ์การส่งออกในปี 2022 ใหม่ โดยคาดว่าการส่งออกของไทยในปี 2022 จะได้รับอานิสงส์จาก (1) การฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจและการค้าโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกาลังพัฒนาที่เศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัว และมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาดไว้ในช่วงก่อนหน้าจากผลกระทบของโอมิครอน ที่รุนแรงน้อยกว่าประมาณการเดิม (2) มูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ามันที่อาจปรับเพิ่มสูงขึ้นตามทิศทางราคาพลังงานโลก และ (2) ในระยะต่อไป จะยังได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งถือเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผลบังคับใช้เมื่อต้นเดือนมกราคม 2022 ที่ผ่านมา
ผลกระทบจากการส่งออกโดยตรงไปตลาดรัสเซียและยูเครนต่อการส่งออกรวมของไทยจะมีจากัด แต่จาเป็นต้องจับตาผลกระทบต่อเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน แม้ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงมาตรการการคว่าบาตรรัสเซียจากนานาชาติจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของไทยโดยตรงมากนัก เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังรัสเซียและยูเครนคิดเป็นเพียง 0.43% ของมูลค่าการส่งออกรวม แต่สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังเป็นปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และอาจส่งผลกระทบกับประเทศไทยได้ในหลายช่องทาง ได้แก่ (1) สงครามและมาตรการคว่าบาตรอาจทาให้เศรษฐกิจโลกและการค้าโลกขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสินค้าสาคัญของไทย โดยการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในยุโรป ซึ่งรวมสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และกลุ่มสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) คิดเป็น 9.9% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย (2) รัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตน้ามัน และก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ รวมถึงสินค้าด้านการเกษตรที่สาคัญ อาทิ ปุ๋ย ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และน้ามันทานตะวัน ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยนาเข้าสินค้าเหล่านี้เพื่อการผลิตอุตสาหกรรม การเกษตร และปศุสัตว์ ในราคาที่แพงขึ้น และอาจทาให้ดุลการค้าปรับตัวแย่ลง (3) รัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตแร่พาลาเดียมและก๊าซนีออนหลักของโลก ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สาคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) จึงอาจทาให้ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ยืดเยื้อกว่าที่คาด ส่งผลต่อการผลิตและส่งออกสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถยนต์ของไทย (4) อัตราค่าระวางเรืออาจอยู่ในระดับที่สูงยาวกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม มาตรการตอบโต้ระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกอาจเป็นโอกาสให้สินค้าของไทยบางประเภทสามารถไปตีตลาดแทนที่การส่งออกสินค้าของรัสเซียและยูเครนได้เช่นกัน เช่น มันสาปะหลัง (เพื่อทดแทนข้าวโพด) และอาหารสาเร็จรูปบางกลุ่ม เป็นต้น
ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว EIC จะทาการประเมินตัวเลขคาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 2022 ใหม่ และเผยแพร่ในช่วงเดือนมีนาคมนี้
รูปที่ 3 : การค้าระหว่างไทยกับรัสเซียและยูเครน
บทวิเคราะห์โดย : https://www.scbeic.com/th/detail/product/8115