MQDC ล้ำไปอีกขั้น เน้นชูเทคโนโลยีเป็นแกนพัฒนา Theme Project & Mixed Use แนวใหม่ พร้อมเชื่อมต่ออาณาจักรโลกเสมือนเต็มรูปแบบ
บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) เผยกลยุทธ์ธุรกิจเน้นใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นการคิดค้นขั้นสูงมาใช้เป็นแกนหลักในการกำหนดแนวทางพัฒนาโครงการรูปแบบธีม โปรเจกต์และมิกซ์ยูส เพื่อให้ได้โครงการอสังหาฯแนวใหม่ ที่ไม่มีใครเหมือน รวมถึงขยายธุรกิจอสังหาฯเชื่อมโยงสู่เมทาเวิร์ส หวังเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนเต็มรูปแบบ
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อป เม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซึ่งขยายธุรกิจไปทั่วโลก เปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังพัฒนาไปอีกระดับ โดยจะกลายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวทางการพัฒนาธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร
“เป้าหมายของ MQDC นั้นไม่ใช่เป็นเพียงแค่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป แต่เราตั้งใจพัฒนาโครงการให้ตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้ครบทุกมิติ และมุ่งสร้างไลฟ์สไตล์ แบบ Sustainnovation Living ซึ่งเป็นแนวทางการอยู่อาศัยแห่งอนาคตที่เรามุ่งมั่นพัฒนาให้ได้ตามที่ตั้งใจไว้” นายวิสิษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ MQDC ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมมาตลอดโดยมีการลงทุนหลายร้อยล้านบาทสำหรับก่อตั้งและพัฒนาศูนย์วิจัยระดับชาติ อาทิ RISC และ FutureTales Lab เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์วิจัยต่าง ๆ ในเครือ MQDC ได้คิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนโครงการอสังหาฯ ในเครือให้มีรูปแบบที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นและตอบสนองวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัทที่ต้องการดำเนินธุรกิจให้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาโลกร้อน (climate change) รวมถึงพัฒนาโครงการที่คำนึงถึงความมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้คนทุกๆกลุ่ม (inclusiveness) และดำเนินธุรกิจที่มอบความสุขอันยั่งยืนให้กับทุกผู้คนได้เป็นอย่างดี (All Well-Being) ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่ทางบริษัทใช้เป็นหลักในการดำเนินธุรกิจและขยายกิจการมาโดยตลอด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ The Forestias (เดอะ ฟอเรสเทียส์) ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 7 ที่มีมูลค่ากว่า 125,000 ล้านบาท ซึ่งทำยอดขายโครงการที่พักอาศัยต่าง ๆ ภายใต้โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2565 ทะลุ 17,200 ล้านบาท เช่น Six Sense Residence (ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์) หรือที่อยู่อาศัยแบรนด์ซิกส์เซนส์โครงการแรกในประเทศไทย โดยสามารถทำยอดขายบ้านไปแล้วเกือบ 80% รวมยอดขายกว่า 4,700 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี The Aspen Tree (ดิ แอสเพน ทรี)โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อคนสูงวัย 50 ปีขึ้นไปแบบ Holistic Lifetime Care หรืการบริการที่พร้อมดูแลตลอดชีวิต และ Mulberry Grove (มัลเบอร์รี โกรฟ) โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับคนทุกเจนเนอเรชั่น ล้วนทำยอดได้เกิน 50% ทั้งสิ้น
โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ถือเป็นต้นแบบของธีม โปรเจกต์ ที่บริษัทจะดำเนินการขยายต่อไป โดยเป็นโครงการที่พัฒนาตามแนวทางที่บริษัทกำหนดไว้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการสร้างเมืองเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีทั้งระหว่างคนในครอบครัว ระหว่างโครงการกับผู้อาศัยในโครงการและชุมชนรอบข้าง ไปจนถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อมรอบตัว
“นับจากนี้ต่อไปบริษัทฯ จะมุ่งขยายโครงการในแบบธีม โปรเจกต์และมิกซ์ยูสอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของโครงการธีม โปรเจกต์จะมีการเปิดตัวในทุก 2-3 ปี เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะมีโครงการขนาดย่อยต่าง ๆ ตั้งอยู่ภายในโครงการ ขณะนี้การก่อสร้างของโครงการทั้งหมดใน pipeline ของเราเป็นไปตามกำหนดการของทุก ๆ โครงการและจะมีการโอนส่งมอบตามกำหนดตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป” นายวิสิษฐ์ กล่าว
นายวิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากธีม โปรเจกต์ และมิกซ์ยูส ที่จะมีการทยอยเปิดตัวให้เห็นในช่วงหลังกลางปี 2022 แล้ว ทางบริษัทฯ กำลังมุ่งต่อยอดการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้ล้ำหน้าไปอีกระดับ ด้วยโครงการพัฒนาเมทาเวิร์ส โดย MQDC ซึ่งเน้นสร้างจักรวาลแห่งใหม่ที่เชื่อมระหว่างโลกความเป็นจริงและโลกเสมือน
ทั้งนี้นายภารุต เพ็ญพายัพ ผู้อำนวยการโครงการเมทาเวิร์ส ของ MQDC กล่าวว่านับตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ศูนย์วิจัยในเครือ MQDC และส่วนพัฒนาธุรกิจของ MQDC ทำงานอย่างหนักเพื่อศึกษา คิดค้นจนได้รูปแบบโครงการเมทาเวิร์ส ที่จะมีรูปแบบและมอบประสบการณ์เหนือจินตนาการ ที่ไม่เหมือนใคร
นับตั้งแต่เดือน มีนาคม ที่ผ่านมา MQDC ได้ทำงานร่วมกับเอคเซนเชอร์ บริษัทผู้เชี่ยวชาญการออกแบบคิดค้นรูปแบบเมทาเวิร์สแบบครบวงจรอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้โครงการเมทาเวิร์ส ที่สามารถมอบประสบการณ์สุดพิเศษกับลูกบ้านของ MQDC และบุคคลทั่วไปที่สนใจได้อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้พันธกิจหลักที่ MQDC ยึดถือคือ การสร้างสังคมให้มีความสุขและมีความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือน
นอกจาก เอคเซนเชอร์แล้ว MQDC ยังทำงานร่วมกับพันธมิตรหลักอย่าง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตแอนิเมชั่นซีรี่ส์ชั้นนำของโลก อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ที แอนด์ บี เป็นเจ้าของและผู้พัฒนาจักรวาลเมทาเวิร์สระดับโลก ทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์ส ซึ่งโครงการเมทาเวิร์ส ของ MQDC นี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของจักรวางทรานส์ลูเซีย เช่นกัน
“โครงการเมทาเวิร์ส ของ MQDC และทรานส์ลูเซียเองก็ยังมีพันธมิตรระดับแนวหน้าของโลกในด้านต่างๆ ต่างก็ทยอยกันเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงการนี้ เพราะโครงการนี้เรียกได้ว่าเป็นดรีมโปรเจกต์ของผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเหล่านี้ นับจากช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป เราจะมีการเปิดเผยความคืบหน้าในการพัฒนาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง”
“เราไม่เพียงแค่สร้างอสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือนจริง แต่สิ่งที่เราทำนั้นจะต้องแตกต่างไม่เหมือนใคร
เราต้องการมอบประสบการณ์เหนือจริง สิ่งที่เราอยากมอบให้ผู้คนที่เราอาจทำไม่ได้ในโลกความจริง จะเป็นจริงได้ในโลกเมทาเวิร์ส ของเรา” คุณภารุต กล่าว