บมจ.แอสเซทไวส์ หรือ ASW โชว์ผลงานไตรมาส 2/65 ทำผลประกอบการสร้างสถิติใหม่กวาดรายได้รวมกว่า 1,617 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิ 273 ล้านบาท เติบโต YoY และ QoQ ตอกย้ำศักยภาพการมองตลาดและจับเซ็กเมนต์ลูกค้าได้ถูกต้อง เผยแคมปัสคอนโดฯ แบรนด์ “KAVE” (เคฟ) กระแสตอบรับดี มั่นใจรายได้รวมทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 6,000 ล้านบาท และพรีเซลทะลุ 10,000 ล้านบาท ครึ่งหลังเตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness”  เปิดเผยว่า จากแผนกลยุทธ์ภาพรวมของบริษัทเพื่อต่อยอดความสุขของการอยู่อาศัย และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์โครงการต่างๆ รวมถึงศักยภาพของบริษัทในการมองตลาดและพัฒนาโครงการที่จับเซ็กเมนต์ลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 เติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยมีรายได้รวมที่ 1,617 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 45% YoY และ 27% QoQ และมีกำไรสุทธิ 273 ล้านบาท เติบโต 6% YoY และ 21% QoQ นอกจากนี้ยังสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (GP) อยู่ที่ 44%

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวมที่ 2,887 ล้านบาท กำไรสุทธิ 498 ล้านบาท และในด้านยอดขาย (พรีเซล) กวาดยอดไปกว่า 8,000 ล้านบาท หรือ 80% ของเป้าหมายยอดขายในปีนี้ที่ 10,000 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทำยอดพรีเซลทั้งปีได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้

ปัจจัยความสำเร็จมาจากการขยายธุรกิจเชิงรุก ด้วยการพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงจุดเด่นด้าน Facility ที่บริษัทให้ความใส่ใจ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ผู้อยู่อาศัย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ ตลอดจนการทำแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ ส่งผลให้โครงการส่วนใหญ่ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะโครงการแคมปัสคอนโดฯ ใกล้สถานศึกษา ภายใต้แบรนด์ KAVE” (เคฟ) ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยและกลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า เนื่องจากให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ย 8-10% ต่อปี  เช่น โครงการเคฟทาวน์ โคโลนี ม.กรุงเทพ (Kave Town Colony) ที่มียอดขาย (พรีเซล)  80% หลังจากเปิดตัวโครงการไปเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นด้านการออกแบบโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่ม Young Generation

แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลัง คาดว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง  ขณะที่แนวโน้มราคาเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิตวัสดุก่อสร้างเริ่มทรงตัวและปรับลดลง เช่นเดียวกับราคาเหล็กที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ซึ่งมีผลต่อการปรับตัวลงของวัสดุก่อสร้างหลายๆ ตัวที่ใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบ โดยล่าสุดที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้มีมติเพิ่มกำลังการผลิตซึ่งจะส่งผลดีต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จนถึงสิ้นปี 2565 สำหรับการซื้อขายอสังหาฯ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง

สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจในมิติต่างๆ โดยเตรียมแผนเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ มูลค่าโครงการรวม 6,200 ล้านบาท ได้แก่ 1)โครงการคอนโด Kave Seed Kaset (เคฟ ซี้ด เกษตร) จำนวน 600  ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท 2) โครงการแนบราบ Esta Rangsit Khlong 2 (เอสต้า รังสิต คลอง 2) จำนวน 153 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 4-6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 680 ล้านบาท และ 3) โครงการแนวราบ The Honor Yothin Pattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) จำนวน 128 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 4,170 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัท มี Backlog หรือยอดขายที่รอรับรู้รายได้ในปีนี้รวมมูลค่า 4,282 ล้านบาท โดยหลักๆ มาจาก 3 โครงการได้แก่  1)โครงการคอนโด โมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ (Modiz Collection Bangpho) มูลค่าโครงการ 1,230 ล้านบาท 2) โครงการ เคฟ ศาลายา (Kave Salaya) มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท และ 3) โครงการเคฟ เอวา (Kave Ava) มูลค่าโครงการ 2,380 ล้านบาท  จึงมั่นใจว่าทั้งปีบริษัทจะบรรลุเป้าหมายรายได้รวมที่ 6,000 ล้านบาทได้ตามเป้า

ทั้งนี้ ASW ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 44 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 46,700 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 32 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 12 โครงการ โดยปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 9,218 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง