SENAJ ยกเครื่องครั้งใหญ่ ขยายโอกาสธุรกิจ หลัง บ.แม่ SENA ดัน ทุ่มงบ 485 ลบ.ซื้อหุ้นเพิ่ม
SENA ทุ่มทุน 485 ล้านบาทซื้อหุ้น SENAJ เพิ่ม หวังขับเคลื่อนบิสซิเนสครั้งใหญ่ ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจ เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมขยายพอร์ตอสังหาฯ รุกแนวราบระดับ High End ดึงพันธมิตรลงขันร่วมทุน ปั้นธุรกิจขยายโอกาสในอนาคตตามเมกะเทรนด์ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วย - บริการบริหารนิติโครงการ - ธุรกิจขายบ้านมือสอง - นายหน้าอสังหาฯ ก่อร่างสร้างความแข็งแกร่งหวังเติบโตระยะยาว
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจของทั้งกลุ่มบริษัทในเครือเสนา โดยการปรับโครงสร้างในครั้งนี้เพื่อให้ทุกบริษัทมีความแข็งแกร่ง เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจกับคู่แข่งในตลาด ส่งผลให้ในแต่ละบริษัทต้องมีการปรับวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร
บมจ.เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ มีการปรับวิสัยทัศน์ใหม่คือ “To be the ultimate real estate multi-services company.” เสนาเจคือสุดยอดของบริษัทผู้ให้บริการอย่างครอบคลุมครบทุกด้านของอสังหาริมทรัพย์ และพันธกิจใหม่มุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริการสำหรับกลุ่มเฉพาะ (Niche Market) และกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ รวมถึงผลักดันการขยายบริการด้านที่อยู่อาศัยอย่างครอบคลุมและคุ้มค่า โดยมุ่งตอบโจทย์ Mega Trends ของโลก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยความละเอียดใส่ใจ และจริงจังในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน
ที่ผ่านมา ทาง SENAJ ดำเนินธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องตามแผนงาน และมีแผนร่วมลงทุนพัฒนาโครงการกับพันธมิตรธุรกิจเพิ่มด้วย รวมถึงแผนในอนาคตเตรียมขยายฐานการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในระดับ High End 2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินงาน 2 แห่ง คือ ตลาดแพรกษา และ สำเพ็ง 2 เป็นต้น หลังจากมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ บริษัทได้ดำเนินการขยายการลงทุนเพิ่มในธุรกิจตามเมกะเทรนด์โลก ประกอบด้วย 4 ธุรกิจใหม่ ดังนี้
1.สถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะฟื้นตัว (Nursing Home) SENAJ มีแผนร่วมมือกับทางพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาสถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะฟื้นตัว
2.ธุรกิจบริหารนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัย (Property Management) โดยทาง SENAJ มีแผนเข้าซื้อหุ้นของบริษัท วิคตอรี่ แมเนจเม้นท์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SENA โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้บริการด้านการบริหารนิติบุคคล โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ภายในกลุ่มบริษัท SENA และ SENAJ นอกจากนี้ SENAJ ยังมีแผนเข้าซื้อบริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่ง เพื่อให้บริการและบริหารนิติบุคคลสำหรับโครงการที่นอกเหนือจากโครงการในกลุ่มบริษัท
3. ธุรกิจขายบ้านมือสอง เป็นแผนลงทุนสำหรับในปี 2566 จะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับซื้อที่อยู่อาศัยหรือบ้านมือสองและนำมาปรับปรุงตกแต่งให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อเพิ่มมูลค่าและขายในตลาดต่อไป
4. ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โดยทาง SENAJ มีแผนเข้าซื้อหุ้นบริษัทย่อยของ SENA “แอคคิวท์ เรียลตี้” เพื่อให้บริการนายหน้าขายและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมบริหารการขายโครงการ และให้บริการที่ปรึกษาด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการด้านการเช่าอสังหาฯ ภายในกลุ่มของ SENA และ SENAJ
อย่างไรก็ตาม จากโครงสร้างดังกล่าวของธุรกิจ SENAJ จะเป็นธุรกิจตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลกและเป็นธุรกิจการให้บริการที่ครอบคลุมทุกด้านของอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเติมเต็มให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่ม SENA ได้เป็นอย่างดี โดยทางคณะกรรมการบริษัทของ บมจ.เสนาเจ ครั้งที่ 8/2565 วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติปรับโครงสร้างธุรกิจของ SENAJ เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 มีมติอนุมัติให้ลงทุนเพิ่มในหุ้นสามัญของ บมจ.เสนาเจ พร็อพเพอร์ตี้ หรือ SENAJ จำนวน 300,000,000 หุ้น หรือ คิดเป็น 7.14% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ในราคา 1.618 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 485,400,000 บาท ทำให้ปัจจุบัน SENA ถือหุ้นรายใหญ่ใน SENAJ มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 42.49% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ถือเป็นการเพิ่มอำนาจในการควบคุมบริหารงานใน บมจ.เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ เพื่อสอดรับกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท SENA
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาการปรับโครงสร้างธุรกิจในรูปแบบการประมาณการทางการเงินร่วมกับการศึกษาการประมาณการทางการเงินนั้น ทางที่ปรึกษาทางการเงินได้ให้ความเห็นว่า หากบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามสมมุติฐานที่กำหนด ราคาหุ้นที่เหมาะสมหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจอยู่ในช่วงราคา 1.66 – 1.97 บาท/หุ้น (ตามวิธีมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสด)