กะรัต เอ็นเตอร์ไพรส์ เดินหน้ารุกตลาดสุขภัณฑ์รับยุคดิจิทัล แตกไลน์แบรนด์เอสเธอร์ เติมเต็มโซลูชั่นการอยู่อาศัย
กะรัต เอ็นเตอร์ไพรส์ (Karat Enterprise) ผู้ผลิตและจำหน่ายก๊อกน้ำและอุปกรณ์ในห้องน้ำ ครบรอบ 36 ปี ปรับทัพรุกตลาดสุขภัณฑ์ยุคดิจิทัล ชูจุดแข็งสินค้าคุณภาพเยี่ยมผลิตและประกอบเองในประเทศไทย พร้อมบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ เดินหน้าเปิดแบรนด์ ‘เอสเธอร์’ (ESTHER) ส่งสินค้ากลุ่ม Hi-End มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการนวัตกรรมใหม่ๆ มาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้าเป็นแบรนด์ที่จะ Complete Living Solution ให้คนไทยภายใน 3 ปี
คุณพริ้งพราย นิธยานนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กะรัต เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กล่าวว่า “กะรัต เป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอุปกรณ์ในห้องน้ำมายาวนานกว่า 36 ปี มี vision คือ ต้องการ Complete Living Solution ให้กับคนไทย โดยมีก๊อกน้ำและอุปกรณ์ตกแต่งในห้องน้ำเป็น Hero Product ด้วยคุณภาพของสินค้าที่เราผลิตและประกอบเองในประเทศไทยได้รับมาตรฐาน มอก. รวมทั้งการรับประกันที่ยาวนาน เช่น ก๊อกน้ำมีการรับประกันวาล์วตลอดอายุการใช้งาน ชุดสายฉีดชำระมีการรับประกันนานถึง 5 ปี และให้ความสำคัญงานด้านบริการที่รวดเร็ว ตอบโจทย์ลูกค้า เราจึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจนเป็นแบรนด์ก๊อกน้ำ top 5 ของประเทศไทย และน่าเชื่อถือมาตลอด 36 ปี”
“ด้วยไลฟ์สไตล์และยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผู้คนต่างมองหาความสะดวกสบายและกิจกรรมที่เติมเต็มความสุขในทุกๆ เวลาที่พักผ่อนอยู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น แม้กระทั่งในห้องน้ำ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ห้องน้ำเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่ผู้คนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะสร้างความผ่อนคลายและสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้าน จึงทำให้ผู้คนมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อตกแต่งและเติมเต็มความสุขในห้องน้ำกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มฟังก์ชั่นอัตโนมัติของสุขภัณฑ์ หรือเปลี่ยนห้องน้ำให้เป็น Smart Rest Room ทั้งหมด จึงเป็นโอกาสของแบรนด์กะรัตในการส่งผลิตภัณฑ์เข้าไปเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของผู้คนในทุกๆ ความต้องการ เราจึงเดินหน้าปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจ โดยมุ่งเน้น
1) การพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคลุม เช่น การพัฒนาก๊อกเซ็นเซอร์ระบบ Touchless หรือไร้การสัมผัส เหมาะกับยุคสมัย New Normal เพียงเอามือเข้าใกล้ตัวก๊อกไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งทิศทางใดก็ตามระบบสามารถจ่ายน้ำออกจากก๊อกได้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาจากเดิมที่เป็นระบบ infrared ซึ่งหัวอ่านไม่ทำงานทำให้ก๊อกไม่ทำงาน เป็นต้น
2) สื่อสารแบรนด์ไปยังผู้บริโภคผ่านช่องทางที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่ยังมีความสำคัญอยู่
3) จับมือกับพาร์ทเนอร์ อาทิ สถาปนิก นักออกแบบ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าโครงการที่จะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเราในอนาคตมากขึ้น” คุณพริ้งพรายกล่าว
นอกจากนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทคือการ Complete Living Solution กะรัต ได้เดินหน้าแตกไลน์แบรนด์ใหม่ เอสเธอร์ (ESTHER)เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า Smart Living ระดับพรีเมี่ยม นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีระดับสูง ดีไซน์สวยงาม คุณภาพสูง มีกลุ่มสุขภัณฑ์อัจฉริยะและดิจิทัลล็อคเป็นสินค้าหลัก โดยสินค้ากลุ่มสุขภัณฑ์ มีจุดเด่นคือนวัตกรรมและการออกแบบเพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและมั่นใจในคุณภาพอาทิ ระบบการชำระล้างแบบ Siphon Jet และ Siphonic Vortex ที่ชำระล้างได้อย่างสะอาดหมดจดในครั้งเดียว หรือ จะเป็นกลุ่มสุขภัณฑ์อัจฉริยะที่มีระบบการเปิดฝา ชำระล้าง ฟลัชให้อัตโนมัติ Foot sensor และระบบฆ่าเชื้อด้วยแสง UVC พร้อมเทคโนโลยี UFB ที่สามารถทำให้สุขภัณฑ์สะอาดไร้คราบและลดกลิ่นได้ดีเยี่ยมด้วยผลวิจัยและเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น สำหรับกลุ่มดิจิตอลล็อค คือกลอนประตูอัจฉริยะที่สามารถเปิดได้ด้วยลายนิ้วมือ รหัส และบัตร รองรับได้มากถึง 300 ผู้ใช้งาน และมีระบบเปิดประตูฉุกเฉินในกรณีที่แบตเตอรี่หมดโดยการใช้กุญแจ หรือ Power Bank เพื่อจ่ายไฟสำรองเข้าระบบเพื่อเปิดล็อคได้ หรือจะเป็นกลุ่มดิจิตอลล็อคที่สามารถติดตั้งภายนอกได้การรับรอง IP65 โดยมีคุณสมบัติกันน้ำกันแดดได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับติดตั้งกับประตูรั้ว หรือ ประตูภายนอกตัวอาคาร เป็นต้น
คุณพริ้งพราย กล่าวต่อไปว่า “เราได้มีการทำบู๊ทในร้านตัวแทนจำหน่ายหลักในแต่ละเมืองใหญ่ รวมถึงทำสื่อ ณ จุดขาย สื่อออฟไลน์และออนไลน์ต่างๆ เพื่อเป็นการสื่อสารออกไปถึงลูกค้าเป็นวงกว้างให้มากที่สุด บวกกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ Series “Puimsteen” ที่ได้รับเกียรติจากดีไซเนอร์ดังจากประเทศเดนมาร์ค “Mr. Timothy Jacob Jensen” ที่ได้ออกแบบสินค้ากลุ่มนี้ภายใต้แบรนด์ ESTHER ด้วยรูปแบบและฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างโดดเด่นและดึงดูดความสนใจ จึงมองว่า ESTHER เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่สร้างความแตกต่างได้อย่างน่าสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาสินค้าใหม่ๆ ที่มีความต่างและให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน”
“เราต้องการสร้างนวัตกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายไปพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เราภูมิใจที่เป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ในประเทศไทยที่ยังคงผลิตและจัดจำหน่ายก๊อกน้ำและอุปกรณ์ในห้องน้ำซึ่งบริหารและจัดการโดยคนไทย เราหวังว่าจะสามารถเติมเต็มความสะดวกสบายให้แก่คนไทยในการใช้ชีวิตทุกๆ ช่วงเวลา” คุณพริ้งพรายกล่าวทิ้งท้าย
กะรัต เอ็นเตอร์ไพรส์ มียอดขาย 500 ล้านบาทในปี 2565 และในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายอีก 25% และจะขยายตลาดในส่วนของก๊อกน้ำสเตนเลสให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าเป็น Complete Living Solution ในอีก 3 ปีข้างหน้า แบรนด์มีการจัดจำหน่ายอยู่ทั้งในรีเทลสโตร์ 180 แห่งในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วประเทศ อีก 300 แห่งทั่วประเทศ ช่องทางออนไลน์ ทั้ง Karatshoponline, Shopee และ Lazada และ ที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทันที อีกทั้งยังส่งออกไปยังต่างประเทศ อาทิ กัมพูชา บรูไน มัลดีฟส์ ลาว พม่า และเวียดนาม