CCP ประกาศงบ Q1/66 รายได้รวม 748.72 ล้านบาท กำไรพุ่ง 309 % คาด Q2/66 โตต่อ แรงหนุนลงทุนรัฐ-เอกชนคึกคัก
CCP เผยผลประกอบการไตรมาส 1/66 รายได้รวม 748.72 ล้านบาท กำไรสุทธิ 39.76 ล้านบาท โต 309 % แย้มทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/66 โตต่อ แรงหนุนจากโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชนคึกคัก เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ตอบโจทย์ความต้องการหลากหลาย ประมูลงานโครงการทั่วประเทศ รักษา Backlog ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท เตรียมปรับปรุงกระบวนการผลิต เสริมศักยภาพ สร้างรายได้เติบโตตามเป้า
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/66 บริษัทมีรายได้รวม 748.72ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 613.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.07 % และมีกำไรสุทธิ 39.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ9.72 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 309 %
ทั้งนี้ ผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้คอนกรีตสำเร็จรูป ในงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการสนามบิน โครงการท่าเรือ โครงการมอเตอร์เวย์ โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) งานถนน รวมถึง งานก่อสร้างภาคเอกชน อาทิ นิคมอุตสาหกรรม โครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น
ด้านธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mix) ลักษณะ Mobile Plant รวมถึงบริการให้เช่ารถขนส่ง รถโม่ผสมคอนกรีต หลังจากเปิดให้บริการในเขตพื้นที่ จ.หนองคาย มีกระแสตอบรับที่ดี เริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาช่วงปลายไตรมาส 1/66 เตรียมขยายพื้นที่ให้บริการภาคตะวันออกและภาคอีสานเพิ่ม
สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/66 คาดเติบโตดี ปัจจัยหนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐโครงการขยายเส้นทางการคมนาคม ดำเนินการก่อสร้างต่อเนื่องตามแผน รวมถึง การลงทุนโครงการก่อสร้างภาคเอกชนอาทิ โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน โครงการที่อยู่อาศัย ที่ขยายตัวตามการฟื้นตัวของการลงทุนในภาคธุรกิจและภาคการท่องเที่ยว
“บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับงานโครงสร้างพื้นฐาน และงาน Landscape อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ บ่อพัก รางระบายน้ำ ท่อระบายน้ำขนาดพิเศษ ท่อร้อยสายไฟใต้ดิน บล็อกปูพื้นทางเดิน บล็อกหญ้า ที่ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ลดต้นทุน รองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้าประมูลงานจากทั่วประเทศเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท
อีกทั้ง เตรียมลงทุนเครื่องจักรใหม่ และปรับปรุงโรงงานผลิต เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ลดจำนวนแรงงาน ลดความผิดพลาด ความสูญเสียในการผลิต สร้างความพร้อมในการประมูลรับงานทั่วประเทศได้อย่างมีศักยภาพ ผลักดันให้รายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” นายอาทิตย์ กล่าว