ศักยภาพพระราม 2 - ประชาอุทิศ- สุขสวัสดิ์ สู่การเป็นเจ้าทำเลของ ‘แสนสิริ’

เมื่อพูดถึง ‘พระราม 2’ เป็นอีกโซนหนึ่งของกรุงเทพมหานครที่ไม่เพียงเป็นทำเลสุดฮิตของนักลงทุนแต่ยังเป็นย่านที่เหมาะแก่อยู่อาศัย ซึ่งนับวันจะมีกลุ่มคนทำงาน และ กลุ่มครอบครัวเข้ามาจับจองพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเป็นเพราะการพัฒนาศักยภาพของการคมนาคมบนทำเลพระราม 2 ที่ทำให้ทุกวันนี้การเดินทาง จากพระราม 2 เข้า-ออกตัวเมืองได้ง่ายดายจากเดิมมาก
 

พระราม 2 ทำเลน่าอยู่ เดินทางสบาย ใกล้ CBD นิดเดียว

ในอดีตเมื่อพูดถึงทำเลพระราม 2 – สุขสวัสดิ์ หลายคนอาจนึกถึงบรรยากาศการจราจรติดขัด จะไปไหนมาไหนต้องเผื่อเวลานานกว่าปกติ แต่ทุกวันนี้ภาพจำเหล่านี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะด้วยระบบโครงข่ายคมนาคมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เช่น การสร้างถนนเพิ่มจาก 10 เลน เป็น 14 เลน บนถนนพระรามที่ 2 (ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว)  ทำให้การจราจรคล่องตัวยิ่งขึ้น ช่วยให้รถติดน้อยลง และหากพูดถึงการเดินทาง เข้าสู่ใจกลางเมืองอย่าง CBD สีลม สาทร เพียงแค่ใช้เส้นทางข้ามสะพานภูมิพล หรือทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนดาวคะนอง) ที่จะเชื่อมต่อการเดินทางจากพระราม 2 – สุขสวัสดิ์ ก็เข้าเมืองง่ายๆ เพียงแค่ 20 นาที เท่านั้น นี่ยังไม่นับรวมเครือข่ายคมนาคมในอนาคตที่จะยกระดับศักยภาพการเดินทางให้กับทำเล
 

พระราม 2 ที่จะช่วยให้การเดินทางไปสู่จุดหมายต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็น

• โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงหัวลำโพง-มหาชัย เส้นทางรถไฟฟ้าที่เชื่อมกับสายอื่นถึง 4 สาย ได้แก่ สายสีน้ำเงิน, สายสีทอง, สายสีม่วง และสายสีเขียวเข้ม เชื่อมใจกลางเมืองสู่ตะวันตก ระยะทางรวม 38 กม. จำนวน 17 สถานี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเปิดประมูลโครงการ
• โครงการถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เส้นทางเชื่อมเหนือใต้ของโซนตะวันตก เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, สายสีเขียว ระยะทางรวม 23.6 กม. จำนวน 17 สถานี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดเปิดให้บริการปี 2570
• ทางด่วนพระราม 3 - สุขสวัสดิ์ โครงการทางพิเศษ พระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกตะวันตก ซึ่งจะช่วยลดปริมาณจราจรบนถนนพระราม 2 ได้อย่างมาก เพราะมีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างถนนพระราม 2 สู่พระราม 3 ระยะทางประมาณ 18.7 กม. คาดแล้วเสร็จในปี 2567
• ถนนตัดใหม่ เพชรเกษม-สุขสวัสดิ์ ถนนในอนาคตที่ถูกบรรจุในแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งมวลชนของกรุงเทพมหานคร โดยเป็นถนนขนาด 6 ช่องจราจร จุดเริ่มต้นบริเวณถนนเพชรเกษม ผ่านถนนกัลปพฤกษ์ ถนนเอกชัย ถนนพุทธบูชา จนสิ้นสุดที่ถนนสุขสวัสดิ์ ระยะทางประมาณ 17.2 กม

ทำไมต้อง พระราม 2 ณ เวลานี้

ไม่ต้องไปร่ายยาวถึงโครงข่ายการเดินทางในอนาคต เอาแค่ซิกเนเจอร์ความเป็นพระราม 2 ในปัจจุบัน ก็มีศักยภาพที่น่าสนใจเพียงพอจะดึงดูดสำหรับคนที่สนใจอยากซื้อบ้านในย่านนี้แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว ไม่ว่าจะด้วยการเดินทางที่เข้าสู่ใจกลางย่านเศรษฐกิจ (CBD) หรือมุ่งหน้าออกสู่ต่างจังหวัด เช่น สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี หรือจะวิ่งบนเส้นวงแหวนกาญจนา เข้าบูรพาวิถี ไปชลบุรีก็ง่าย 

และหากพูดถึงที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ส่วนใหญ่มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เรียบง่าย เหมาะ สำหรับคนที่มีสไตล์การใช้ชีวิตในตัวเมือง แต่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สงบ ไม่วุ่นวาย เหมาะแก่การพักผ่อนได้เต็มที่ 

แต่ถึงแม้ว่าจะเงียบสงบ แต่ก็ยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ ที่ช่วยให้การใช้ชีวิต สะดวกสบายมากขึ้น ทั้งสถานพยาบาลคุณภาพมาตรฐานหลายแห่ง เช่น รพ.บางปะกอก อินเตอร์เนชันแนล, รพ.นครธน, รพ.มหาชัย, รพ.สมิติเวช ธนบุรี เป็นต้น รวมถึงสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง เช่น Norwich International School, โรงเรียนเลิศหล้า กาญจนาภิเษก ม.พระจอมเกล้าธนบุรี, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา, โรงเรียนอัสสัมชัญ พระราม 2 ตลอดจนแหล่งช้อปปิ้ง และคอมมูนิตี้มอลล์ชั้นนำ อย่าง Icon Siam, Asiatique The Riverfront, เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล มหาชัย เป็นต้น ที่จะสามารถครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด

แต่หากจะให้เจาะจงว่า ทำไมต้องเป็นทำเลพระราม 2 ในเวลานี้ นั่นเพราะ

1.ที่อยู่อาศัยบนทำเลพระราม 2 กำลังกลายเป็นของหายาก (Rare Item) : การขยายของเมืองเข้ามาในพื้นที่พระราม 2  ทำให้ผู้คนขยับขยายเข้ามาจับจองที่อยู่อาศัยในโซนนี้เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับที่ดินที่สามารถพัฒนาเป็นโครงการแนวราบในทำเลใกล้เมืองแบบนี้ได้นั้นมีจำนวนน้อยลงและมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ 

2.พระราม 2 กำลังเป็นทำเลที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง : เนื่องจากพระราม 2 เป็นเมืองขยายที่ได้รับการจับตามองเป็นอับดับต้นๆเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งจากภาครัฐ

และเอกชน ไม่ว่าจะเป็นโครงข่ายการคมนาคมจากการเพิ่มถนนหนทาง รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายต่างๆ จากที่ได้กล่าวไป หรือแม้แต่ภาคเอกชนที่เล็งเห็นศักยภาพของทำเล ตั้งแต่การมาถึงของเซ็นทรัล พระราม 2 ที่นำเอาท็อปแบรนด์ต่างๆ มาขยายลงในย่านนี้ ซึ่งจะสร้างการความเจริญให้กับพื้นที่มากขึ้นไปอีก

3.อสังหาริมทรัพย์บนทำเลพระราม 2 ยังอยู่ในราคาที่จับต้องได้ : หากมองหาบ้านในราคาที่ไม่สูงเกินไปช่วง 2-20 ล้านบาท ในทำเลที่เข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดายอย่างโซนนี้ บ้านในโซนพระราม 2 ถือว่ายังอยู่ในราคาที่จับต้องได้และคุ้มค่าต่อการลงทุนซื้อบ้านสักหลัง ถ้าเทียบกับทำเลบริเวณชานเมืองโซนอื่นๆ      

เมื่อนึกถึง ‘พระราม 2’ ต้อง ‘แสนสิริ’

การเติบโตอย่างต่อเนื่องของทำเลพระราม 2 จึงไม่แปลกที่จะมีค่ายอสังหาริมทรัพย์เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อพัฒนาอยู่หลากหลายโครงการ แต่ค่ายที่โดดเด่นเป็นพิเศษ จนเรียกได้ว่าต้องยกเป็นเจ้าตลาดของทำเลนี้ ต้องยกให้ ‘แสนสิริ’ ที่อาจกล่าวได้ว่าถ้านึกถึง ‘ทำเลพระราม 2’ ต้อง ‘แสนสิริ’ ไม่ใช่แค่เพราะว่าแสนสิริมีโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายแบรนด์ และ หลากSegment      กระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ของพระราม 2 เท่านั้น แต่แสนสิริยังมีความแข็งแกร่งในมิติอื่นๆอีกด้วย ได้แก่

• SANSIRI BRANDING อย่างที่รู้กันดีว่าแสนสิริเป็นค่ายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในวงการมานาน มีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ จนเชื่อมั่นได้ในคุณภาพในแบบฉบับของแสนสิริ ทั้งวิสัยทัศน์ในการเลือกทำเลที่ดี การบริการ วัสดุ การออกแบบ ไปจนถึงความปลอดภัย 

• SANSIRI PRODUCT DESIGN LEADER ความเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ของวงการอสังหาริมทรัพย์      ทำให้แสนสิริไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องดีไซน์ การเลือกที่ดิน  การทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อมาออกแบบฟังก์ชั่นที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในทุกมิติ เพื่อให้บ้านเป็นมากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย
• SERVICE & SECURITY แสนสิริเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญและเอาจริงเอาจังกับบริการตั้งแต่ก่อนและบริการหลังการขายมาโดยตลอดจะเห็นได้จากแนวคิดในการจับมือกับพันธมิตรหลากหลายธุรกิจ เพื่อนำนวัตกรรมและบริการต่างๆ มาใช้ในตัวโครงการ เพื่อสร้างความสะดวกสบายและมายกระดับคุณภาพชีวิตของลูกบ้านให้ดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการต่อยอดโมเดลต่างๆ เพื่อมาตอบสนองบริการให้กับผู้อาศัย อย่าง Plus property มาช่วยในการบริหารนิติบุคคล หรือ LIV-24 ระบบเสริมสร้างความอุ่นใจ ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
• GOOD COMMUNITY แสนสิริให้ความสำคัญกับการสร้างชุมชมและสังคมที่ดี สามารถตอบโจทย์ รสนิยมการใช้ชีวิตได้ทุกรูปแบบ โดยแสนสิริตั้งเป้าว่า อยากพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เป็น Good Community ภายใต้แนวคิด ‘พื้นที่ความสุขของทุกคน’ ได้เห็นผู้อยู่อาศัยในคอมมูนิตี้ได้ออกมาใช้ชีวิตจริงๆ ฉะนั้นการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับครอบครัวแสนสิริจึงไม่ใช่เพียงการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี แต่ลูกบ้านต้องรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแสนสิริด้วย

12 โครงการ 6 แบรนด์ บนทำเลพระราม 2 ของแสนสิริ

การบอกว่าแสนสิริเป็นเจ้าทำเลของโซนพระราม 2 ไม่ใช่เรื่องเกินจริงไปนัก เพราะหากมาสำรวจทำเลย่านพระราม 2 จะพบว่ามีโครงการของแสนสิริกระจายตัวครอบคลุมอยู่ทั่วพื้นที่ของพระราม 2 ตั้งแต่ในโซนพันท้ายนรสิงห์-พระราม 2 ,พระราม2-ท่าข้าม-เทียนทะเล และโซนประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ ที่มีให้เลือกหลากหลาย ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เน้นทำเลการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน เข้าเมืองง่าย และมีแหล่งไลฟ์สไตล์รอบด้าน 

มีให้เลือกตั้งแต่บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม แบ่งออกเป็น 6 แบรนด์ โดยมีจำนวนโครงการที่ขายอยู่ ณ ปัจจุบัน มากถึง 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งหมดกว่า 14,659 ล้านบาท จำนวนยูนิตกว่า 2,900 ยูนิต ได้แก่ 

1.สิริ เพลส : ทาวน์โฮมสไตล์ Modern Loft และ Amsterdam อยู่ในช่วงราคา 2.39 – 5 ล้านบาท* ด้วยราคาที่จับต้องได้ รับเทรนด์อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ขยายทุกความชอบให้เป็นไปได้ ตอบโจทย์กลุ่มพนักงานบริษัท เจ้าของร้านค้าออนไลน์ และกลุ่มอาชีพอิสระ โดยปัจจุบันมีโครงการที่เปิดขายในโซนพระราม 2 ถึง 5 โครงการ ได้แก่  สิริ เพลส พระราม 2 - วงแหวน ราคา 2.39 - 4 ล้านบาท*, สิริ เพลส ประชาอุทิศ 90 ราคา 2.49 – 4 ล้านบาท*, สิริ เพลส ประชาอุทิศ 75 ราคา 2.99 - 5 ล้านบาท*, สิริ เพลส พุทธบูชา 39 ราคา 3.59 – 5 ล้านบาท* และ สิริ เพลส เพชรเกษม - สาย 4 ราคา 2.59 -4 ล้านบาท*

2.ฮาบิเทีย : บ้านแฝดสไตล์ Biophilic ด้วยแนวคิดการออกแบบที่มีสไตล์การใช้ชีวิตเฉพาะตัว เน้นเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ Younger Modern ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ดี โดยปัจจุบันมีโครงการที่เปิดขายในโซนพระราม 2 ได้แก่ ฮาบิเทีย พราวด์ ประชาอุทิศ 72 ราคา 6.59 - 9 ล้านบาท*

3.คณาสิริ : บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ Mid Century 70’s เน้นเข้าถึงผู้อยู่อาศัยที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัวอบอุ่น ทำให้สไตล์การออกแบบและฟังก์ชั่นภายในบ้านเน้นทุกพื้นที่ทั้งภายในตัวบ้านและพื้นที่ส่วนกลาง สามารถสร้างความสุขให้ทุกคนในครอบครัว โดยปัจจุบันมีโครงการที่เปิดขายในโซนพระราม 2 ได้แก่ คณาสิริ พระราม2 – วงแหวน ราคา 5.39 ล้านบาท*

4.อณาสิริ : บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ Mediterranean จุดเด่นของอณาสิริอยู่ตรงที่มีรูปแบบครอบคลุมทุกความต้องการของการอยู่อาศัย เพราะมีให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ที่คิดอย่างเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน ต้องการบาลานซ์ระหว่างชีวิตทำงาน และชีวิตครอบครัว โดยปัจจุบันมีโครงการที่เปิดขายในโซนพระราม 2 ได้แก่ อณาสิริ พระราม 2 - วงแหวน ราคา 5-7 ล้านบาท*

5.สราญสิริ : บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Farmhouse ที่เริ่มต้นขึ้นจากแนวคิด Built for Love โดยเชื่อว่าความสุขเริ่มต้นจากความรัก การสร้างแบรนด์สราญสิริจึงเน้นใส่ใจในทุกรายละเอียด เพิ่มพื้นที่ความสุข เพื่อให้สมาชิกทุกคน ทุกรุ่น ทุกวัย ได้ใช้ชีวิตกับช่วงเวลาดีๆ ร่วมกัน โดยปัจจุบันมีโครงการที่เปิดขายในโซนพระราม 2 ได้แก่ สราญสิริ พระราม 2 ราคา 9-12 ล้านบาท*, สราญสิริ เทียนทะเล 30 ราคา 12-15 ล้านบาท*, สราญสิริ ประชาอุทิศ 90 ราคา 5.89 - 8 ล้านบาท*

6.บุราสิริ : จุดเด่นสำคัญของบุราสิริอยู่ที่การเป็น “บ้านบรรยากาศรีสอร์ท” กลุ่มเป้าหมายของบุราสิริจึงเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบบ้านบรรยากาศเงียบสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติได้มากกว่า เสมือนว่าได้พักอาศัยในรีสอร์ททุกๆ วัน สามารถใช้ชีวิตทำงานและพักผ่อนได้ในบ้านหลังเดียวกัน โดยปัจจุบันมีโครงการที่เปิดขายในโซนพระราม 2 ได้แก่ บุราสิริ พระราม 2 ราคา 8.99 – 15 ล้านบาท*

เจาะลึก 7 ดีไซน์บ้านแสนสิริ ที่คิดมาแล้ว เพื่อทุกรสนิยมของผู้อยู่อาศัย

นอกจากมีโครงการที่เปิดขายมากถึง 12 โครงการในโซนพระราม 2 แล้ว อีกประการหนึ่งน่าสนใจในโครงการแสนสิริ คือ เรื่องของดีไซน์ ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าโครงการแสนสิริมีการนำเสนอดีไซน์ที่มีสไตล์ผ่านรูปแบบบ้านที่

หลากหลาย สะท้อนให้เห็นว่าแสนสิริไม่เพียงตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชันการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังพยายามตอบสนองรสนิยมของผู้บริโภคในทุกมิติให้ได้มากที่สุดด้วย จึงไม่แปลกใจที่แบรนด์แสนสิริมักจะได้รับรางวัลแบรนด์ยอดนิยม หรือ Top of Mind ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือรางวัลแบรนด์อสังหาฯ ทรงพลัง จากภาคเอกชนอยู่บ่อยครั้ง เพราะการสนองความต้องการในเรื่องงานออกแบบต้องทำการบ้านทั้งเรื่องเทรนด์งานดีไซน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งต้องเข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้บริโภคอีกด้วย

จากการตกผลึกงานดีไซน์ที่มีอยู่มากมาย ท้ายสุดแล้วแสนสิริกลั่นกรองออกมาเป็นผลงานออกแบบบ้าน 7 สไตล์ ได้แก่

1. Modern Loft Style : งานออกแบบที่ผ่านแนวคิดโดยคำนึงถึงความเรียบง่าย ไม่มากหรือน้อยเกินไป แต่ทุกๆ พื้นที่ภายในบ้านใช้งานได้จริง ในบรรยากาศที่อบอุ่น จึงพอดีและลงตัวกับทุกครอบครัว โดยนำมาใช้กับโครงการ สิริ เพลส ประชาอุทิศ 75, โครงการ สิริ เพลส ประชาอุทิศ 90 และโครงการ สิริ เพลส เพชรเกษม - สาย 4

2. Amsterdam Style : งานออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ จุดเด่นของสไตล์นี้ อยู่ที่ความเป็นธรรมชาติ สดใส แฝงไว้ด้วยความซุกซนเล็กๆ ทั้งองค์ประกอบภายในโครงการและการเลือกใช้สี คนที่ชื่นชอบสีสันเรียบง่าย สบายๆ น่าจะถูกใจสไตล์นี้ โดยแสนสิริได้นำมาใช้กับโครงการ สิริ เพลส พระราม 2 – วงแหวน และ โครงการ สิริ เพลส พุทธบูชา 39

3. Biophilic Style : จากแนวคิดการนำธรรมชาติเข้ามาผสมผสานกับการใช้ชีวิตอย่างลงตัว การออกแบบที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว มีพื้นที่รอบบ้าน หน้าต่างกว้างรับแสงได้อย่างเต็มที่ ทำให้บ้านสว่าง โปร่งโล่งไม่อึดอัด เปิดรับลมได้เต็มที่ แถมช่วยประหยัดไฟ ซึ่งแสนสิรินำดีไซน์นี้มาใช้กับโครงการ ฮาบิเทีย พราวด์ ประชาอุทิศ 72

4.Mid Century 70’s Style : สไตล์การแต่งบ้านที่มีอิทธิพลหลักจากเฟอร์นิเจอร์ในช่วงยุคกลางของศตวรรษที่ 20 (1940-1970) เน้นความเรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริง วัสดุทำจากไม้เป็นหลัก รวมถึงส่วนโค้งมนในการออกแบบรายละเอียดต่างๆ ทำให้การออกแบบสไตล์นี้มีกลิ่นอายความวินเทจอยู่ในตัว ซึ่งแสนสิรินำมาใช้ในโครงการ คณาสิริ พระราม 2 – วงแหวน

5. Mediterranean Style : บ้านสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน กับงานออกแบบที่ถูกถ่ายทอดผ่านดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองตากอากาศริมทะเล แถบชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน กับเอกลักษณ์การใช้โทนสีขาว เทา น้ำเงินและสีเขียวน้ำทะเล มาเป็นสีธีมหลักในการออกแบบ ช่วยให้ละมุนตา สร้างสีสันในบ้านด้วยบรรยากาศแสนอบอุ่นและสดใสในพื้นที่ส่วนกลาง ถือเป็นงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งแสนสิรินำมาใช้ในโครงการ อณาสิริ พระราม 2 – วงแหวน

6.Modern Farmhouse Style : สถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากบ้านฟาร์มเฮาส์ในประเทศแถบตะวันตก โดดเด่นด้วยหลังคาทรงจั่วที่เป็นเอกลักษณ์ เพดานห้องยกสูง ทำให้ปลอดโปร่ง ช่วยให้บ้านดูอบอุ่น และโมเดิร์นยิ่งขึ้น โดยแสนสิรินำมาใช้ในโครงการ สราญสิริ พระราม 2, โครงการ สราญสิริ เทียนทะเล 30 และโครงการ สราญสิริ ประชาอุทิศ 90

7.Resort Style : งานออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติของป่าชายเลน ผสานกับอัตลักษณ์เฉพาะตัวของทำเลพระราม 2 ถ่ายทอดเป็นงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ทั้งคลับเฮาส์และแบบบ้าน ที่เหนือกว่าด้วยฟังก์ชั่น Sanctuary Space เลือกเปิด-ปิดกระจกระเบียงได้อย่างอิสระ ช่วยให้เปิดรับธรรมชาติได้ตามต้องการ ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ พร้อมให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทส่วนตัว โดยแสนสิรินำมาใช้ในโครงการ บุราสิริ พระราม 2
 

จับตา 4 บ้านโครงการเด่นในโซนพระราม 2 ปี 2566 

สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านอยู่อาศัย ในโซนพระราม 2 นี้ ต้องไม่พลาด 4 โครงการนี้ เพราะในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2566 นี้ ทางแสนสิริได้เปิดตัวโครงการใหม่ในโซนพระราม 2 พร้อมกันถึง 4 โครงการ โดยแต่ละโครงการมีไฮไลต์ความน่าสนใจที่แตกต่างกัน โดยเราได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว ได้แก่

• อณาสิริ พระราม 2 – วงแหวน (New Project) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคาเริ่มต้นที่ 5 – 7 ล้านบาท* ตัวบ้านดีไซน์มาในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน สามารถเข้า-ออก ได้จากถนนพระราม 2 โซนพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักอีกสายที่วิ่งลงสู่ภาคใต้ และยังเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษกวิ่งยาวไปถึงทางพิเศษเฉลิมมหานคร ในอนาคตทำเลบนเส้นพระราม 2 จะเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ สะดวกมากขึ้น

• สิริ เพลส ประชาอุทิศ 75  (New Project) เป็นโครงการทาวน์โฮมสไตล์ Modern Loft ราคาเริ่มต้น 2.99 – 5 ล้านบาท* ตัวโครงการเน้นสังคมส่วนตัวเพียง 99 ครอบครัว กับองค์ประกอบลายเส้น และสีสันที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ออกแบบฟังก์ชั่นลงตัว ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของครอบครัวยุคใหม่ เดินทางสะดวกเชื่อมต่อถนน สุขสวัสดิ์, ประชาอุทิศ, พุทธบูชา ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร เข้าพระราม 3 - สาทร ง่ายเพียง 15 นาที* ฟังก์ชั่น 2-3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1-2 ที่จอดรถ ครบลงตัวพอดีกับสมาชิกในครอบครัว พิเศษห้อง Master Bedroom โปร่งด้วยฝ้าเพดานสูง 3.7 ม. และ Skylight บนชั้น 2 ช่วยให้บ้านสว่างตลอดทั้งวัน

• สิริ เพลส พุทธบูชา 39  (New Project) เป็นทาวน์โฮมสไตล์ Amsterdam ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท* เข้า-ออกได้ทั้งจากฝั่งถนนพุทธบูชาและถนนสุขสวัสดิ์ เชื่อมต่อถนนพระราม 2 และทางด่วนเฉลิมมหานคร เชื่อมต่อสาทร-พระราม 3 ได้อย่างรวดเร็ว และยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง (อนาคต) สถานีบางปะกอก ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ ครบลงตัวพอดีกับสมาชิกในครอบครัว พิเศษห้อง Master Bedroom โปร่งด้วยฝ้าเพดานสูง 3.7 ม. และ Skylight บนชั้น 2 ช่วยให้บ้านสว่างตลอดทั้งวัน

• ฮาบิเทีย พราวด์ ประชาอุทิศ 72 (New Project) บ้านแฝดแนวคิด Biophilic Design ราคาเริ่มต้น 6.59 – 9 ล้านบาท*  สังคมส่วนตัว เพียง 76 ครอบครัว ทำเลดีแค่ 10 นาที* จากทางด่วน ใกล้พระราม 3 สาทร และสีลม พร้อมมุ่งสู่ใจกลางเมือง ฟังก์ชั่นรองรับครอบครัวใหญ่ได้ถึง 4 ห้องนอน จอดรถสูงสุด 3 คัน ที่สำคัญคือที่ดินขนาดใหญ่ถึง 50 ตร.วา ขึ้นไป เทียบเท่ากับที่ดินบ้านเดี่ยวโครงการทั่วไป

ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://siri.ly/1DOqu7A