เดอะ พร็อพเพอร์ตี้ เอ. มืออาชีพในวงการบริหารการขายการตลาดโครงการอสังหาฯ Sole Agent กว่า 18 ปี แบบครบวงจร เตรียมขยายไลน์ “ขายทรัพย์มือสอง” ตั้งเป้ารวมปีนี้ โตกว่า 10% เพื่อดันยอดขาย 2,000 ล้านบาท

นางพรพิไร นิจวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ พร็อพเพอร์ตี้ เอ. จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจบริหารการขาย การตลาดโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทางอสังหาริม ทรัพย์ มานานกว่า 18 ปี จากผลงานกว่า 30 โครงการ ที่ได้รับความไว้วางใจทั้งโครงการขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่  โครงการที่พักอาศัย หรือ โฮมออฟฟิศ ด้วยการทำงานที่ใส่ใจ ดูแลตั้งแต่เริ่มโครงการจนโอนกรรมสิทธิ์จบโครงการ มีทีมงานร่วมการวางแผนกลยุทธ์การขายให้คำปรึกษาทางด้านการตลาดและโฆษณากับเจ้าของโครงการ

“จากความสำเร็จของ 18 ปี แห่งความสำเร็จ ด้วยแนวทางการให้บริการ “360° Real Estate Solution” คือการบริการแบบ 360 องศา ครบวงจรในทุกขั้นตอนของอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2567 นี้ เราจึงได้วางแผนดำเนินงานของบริษัทฯ ที่จะรุกตลาดเดิมที่เราทำสำเร็จมาตลอด คือ การบริหารการขาย และการตลาดอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ และบริการที่ปรึกษาการตลาด และบริหารขาย นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเสริมศักยภาพของทีมงานในการขยายไลน์ไปเข้าสู่บริการด้านการขายทรัพย์มือสองอย่างจริงจัง

โดยโครงการที่ทางเดอะ พร็อพเพอร์ตี้ เอ.บริหารอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ โครงการ The Wealth Luxury Klong 9, Noble Above Wireless – Ruamrudee, แอสโทเรีย พหลโยธิน-ลำลูกกา,  ภูผาธารา เขาใหญ่, Casa Vacanza Khao Yai เขาใหญ่, รีวา พูลวิลล่า ชะอำ จ.เพชรบุรี, บ้านบุญยกร เลค พาร์ค รังสิต คลอง 6 จ.ปทุมธานี, อากาศ วิลล่า เขาใหญ่  อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา, บ้านร็อคการ์เด้น สุวินทวงศ์ - อยู่วิทยา, คาราเพซ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์, The Ville Express พหลโยธิน, อาร์ท@ทองหล่อ ซอยทองหล่อ 25, Parc Residence at Phahol 67 ซ.พหลโยธิน 67  กรุงเทพฯ เป็นต้น จำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,500 ล้านบาท

โดยขอบข่ายการทำงาน    ตั้งแต่เริ่มวาง Concept จนถึงกระบวนการขาย / ตรวจรับมอบ / ประสานสินเชื่อกับสถาบันการเงิน จนกระทั่งการโอนกรรมสิทธิ์ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทางอสังหาริมทรัพย์มากว่า 18 ปี เป็นเครื่องพิสูจน์จากผลงานกว่า 30 โครงการ โดยสามารถจัดการดูแลบริหารเพิ่มยอดขายและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการวิเคราะห์และศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดและจัดทำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ ให้คำปรึกษาและแนะนำการพัฒนาโครงการให้ตรงตามความต้องการของเจ้าของโครงการ วางแผนกลยุทธ์การขายและการตั้งราคาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย จัดหาทีมงานขายที่มีประสบการณ์แบบมืออาชีพ รวมถึง รายงานผลจากการบริหารงานขายโครงการอย่างต่อเนื่อง มีการเสนอแผนด้านการตลาดร่วมและการใช้สื่อโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพแก่โครงการ ด้วยการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด ทั้ง Online สื่อดิจิตอลต่างๆ และ Offline ผ่านสื่อต่าง ๆ พร้อมกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขาย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเพื่อให้ปิดการขายโครงการได้อย่างรวดเร็ว

“จากแผนการดำเนินงานที่วางไว้ กับโครงการที่รับบริหารในมือแล้ว และที่จะเพิ่มเข้ามาใหม่ในอนาคตคือ การวางแผนขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่การทำตลาดขายทรัพย์มือสองอย่างจริงจังที่เรามองว่า จะมีทรัพย์เข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมาก และมาตรการของรัฐที่ส่งเสริมเรื่องค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองของทรัพย์มือสองที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ก็จะมีส่วนช่วยผลักดันด้วยส่วนหนึ่งในปี 2567นี้ เราตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะสร้างยอดขายรวมได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตกว่า 10%” กรรมการผู้จัดการ กล่าวปิดท้าย