ถอดบทวิเคราะห์ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เผยมุมมองขยายพอร์ต สู่ 4 จุดยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ กาญจนาภิเษก - พุทธมณฑล – พัฒนาการ – รามคำแหง
บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชูรีและคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet Family Residences) ศึกษาและวิเคราะห์พื้นที่ศักยภาพสูงเพื่อการอยู่อาศัย เผย 4 จุดยุทธศาสตร์เพื่อบาลานซ์พอร์ตโครงการอสังหาริมทรัพย์ “กาญจนาภิเษก - พุทธมณฑล – พัฒนาการ – รามคำแหง” พร้อมเผยโครงการใหม่เตรียมเปิดในครึ่งปีแรก
คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยนโยบายของกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับแนวคิด “Satellite City” เพื่อต้องการสร้างพื้นที่พัฒนาเชิงศูนย์พาณิชยกรรมควบคู่กับย่านที่อยู่อาศัย เพื่อลดความแออัดและขยาย Workplace จากพื้นที่ชั้นในและชั้นกลางของกรุงเทพฯ ไปยังกรุงเทพฯ รอบนอก (Suburban) ภายใต้การขยายตัวของเส้นทางคมนาคมรถไฟฟ้าของกรุงเทพฯ รอบทิศทาง ด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สายสีน้ำเงิน สายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีเขียว และสายสีม่วง ทำให้พื้นที่บริเวณใกล้เคียงและการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมเกิดการขยายตัวและมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยในแนวราบบริเวณกรุงเทพฯ รอบนอกได้เพิ่มขึ้น โดยเมเจอร์ฯ มองว่าพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกที่มีศักยภาพการเติบโตทั้งในเชิงพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยสำคัญๆ อาทิ พื้นที่กาญจนาภิเษก พื้นที่พัฒนาการ พื้นที่พุทธมณฑล และพื้นที่รามคำแหง เป็นต้น ทำให้เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้วางแนวทางในการพัฒนาและดำเนินการโครงการต่างๆ ในพื้นที่ศักยภาพเหล่านี้ในอนาคต”
พื้นที่กาญจนาภิเษก และพุทธมณฑล ศักยภาพประตูเศรษฐกิจสู่ภาคตะวันตก นับว่าเป็นพื้นที่เชื่อมต่อของกรุงเทพฯ รอบนอก สู่จังหวัดอื่นๆ ในส่วนภาคตะวันตกและภาคกลาง เรียกว่าเป็น “ประตูเศรษฐกิจสู่ภาคตะวันตก” บนพื้นที่นี้ยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังโซนต่างๆ ด้วยทางด่วนเพื่อเข้าศรีรัช และเพื่อเข้ากรุงเทพฯ ชั้นใน อย่างย่านเพชรบุรี เอกมัย ทองหล่อ และอโศกได้ หรือสามารถใช้เส้นทางต่อเนื่องเพื่อไปภาคตะวันออกด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี นอกจากนี้ ยังมีระบบโครงข่ายคมนาคมอย่างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน รถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และโครงการที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มกำลังการขยายตัวที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว และบ้านหรูที่มีที่ดินขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ซึ่งข้อดีคือสภาพแวดล้อมยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก
พื้นที่พัฒนาการ สู่การพัฒนาเรสซิเดนซ์ระดับลักชูรี ด้วยการพัฒนาของสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ “ย่านพัฒนาการ” มีการเติบโตของสภาพแวดล้อมบนทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัยและการซื้อเพื่อลงทุน ด้วยปัจจัยอย่างการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่โอบล้อมพื้นที่ทั้ง สวนหลวง ร.9 ที่มีเนื้อที่มากกว่า 500 ไร่ โครงการป่ากลางกรุงที่ใช้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน เป็นต้น เส้นทางคมนาคมหลายสายที่เชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางพื้นที่ CBD ทั้งถนนเพชรบุรี ถนนสุขุมวิท อย่างเอกมัย-ทองหล่อ เพียง 10 นาที พร้อมทั้งมีเส้นทางรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปัจจุบันอย่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน และ Airport Rail Link เป็นต้น ในด้านสิ่งแวดล้อมที่อำนวยความสะดวกต่อไลฟ์สไตล์ ทั้งศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล และสถาบันศึกษาต่างๆ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์สนใจเข้ามาพัฒนาพื้นที่ย่านพัฒนาการ เป็นเพราะบนพื้นที่ของย่านนี้ คือ ที่ดินแปลงใหญ่ มีความเป็นธรรมชาติ ใกล้เมืองชั้นใน และสังคมคุณภาพ ปัจจุบัน ที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวเริ่มต้นเฉลี่ยที่ 35 ล้านบาท โดยราคาที่ดินปรับขึ้นกว่า 7-15% ต่อปี ทั้งนี้ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้พัฒนาพื้นที่พัฒนาการภายใต้พอร์ตใหม่ คือ Major’s Subtle Luxury Collection พร้อมเปิด
แบรนด์ใหม่ ‘10 & Only (เทน แอนด์ โอนลี่)’ แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักชูรี (Ultra Luxury) โดยเริ่มพัฒนาโครงการแรก คือ 10 & Only พัฒนาการ 20 มูลค่าโครงการรวม 1,100 ล้านบาท บนที่ดินซอยพัฒนาการ 20
พื้นที่รามคำแหง ที่อยู่อาศัยสู่ฮับแห่งครีเอทิวิตี้ พื้นที่ที่นับว่าเนื้อหอมในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ นั่นคือ ย่านรามคำแหง ที่นับเป็นฮับใหญ่แห่งกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก โดยถูกวางบทบาทให้เป็นพื้นที่ที่รองรับการขยายตัวของประชากรจากย่านเศรษฐกิจสำคัญอย่างสุขุมวิท อโศก และพระราม 9 ทำให้พื้นที่นี้เข้า-ออก จากจุดศูนย์กลางกรุงเทพฯ ได้สะดวกสบาย และด้วยคาแรคเตอร์ของย่านรามคำแหงที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่นแต่ดั้งเดิมและมีสถาบันศึกษาหลายแห่ง ย่านนี้จึงเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายล้อมรอบทำเล ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าและไลฟ์สไตล์มอลล์ แหล่งช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่อย่างตลาดนัด และร้านอาหาร เรียกว่าครบครันและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักศึกษาและผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการเข้ามาถึงของศูนย์กลางระบบรถไฟฟ้า ทั้งสายสีส้มที่เชื่อมกรุงเทพฯ ตะวันออก-ตะวันตก สายสีเหลือง เชื่อมต่อกรุงเทพทางเหนือ สู่ตะวันออกและตอนใต้ และในอนาคตกับสายสีน้ำตาล นับเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพพื้นที่และรองรับการขยายตัวเพื่อให้การเดินทางไปยังพื้นที่อื่นมีความสะดวกสบายขึ้น สิ่งเหล่านี้ ทำให้ที่ดินบริเวณย่านรามคำแหงขยายตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 6.25 – 40.12% หรือราคาประเมินที่ดิน 110,000 - 170,000 บาทต่อตารางวา ในรอบ 10 ปี ข้อมูลจากกรมธนารักษ์ ทั้งนี้ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้วางแผนเตรียมเปิดแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ Milford ลาดพร้าว – รามคำแหง Private Luxury Townhome หนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญบนที่ดิน 12-0-8.2 ไร่ ตัวบ้านมีพื้นที่ตั้งแต่ 24.5 – 72 ตารางวา สร้างสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “English Eclectic Design” มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท
โดยเชื่อมั่นว่า “พื้นที่ดินของกรุงเทพฯ รอบนอก จะสามารถสร้างสรรค์พื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยที่รายล้อมด้วย สาธารณูปโภคที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ และเป็นจุดยุทธศาสตร์ให้กับผู้อยู่อาศัยสามารถเชื่อมโยงทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนและใช้ไลฟ์สไตล์ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งนี้ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ยังคงมุ่งมั่นและพร้อมที่จะสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยคุณภาพพรีเมี่ยม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบในอนาคตอันใกล้เช่นกัน” คุณเพชรลดา กล่าวสรุป