ปัจจุบันการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในหลากหลายธุรกิจ นอกเหนือจากระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว ตอนนี้รุกเข้ามาในธุรกิจบริการแม่บ้าน “เมทเธียร์”  หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการ Smart Facility Management อันดับต้นๆ ของไทย ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีรวมถึงอัพเดทหุ่นยนต์ใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้กับลูกค้าได้มากขึ้น

นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทเรามีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแพลตฟอร์มดูแลระบบรักษาความปลอดภัย โดยมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันนี้ความต้องการ Smart Facility Management เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งลูกค้าหลักจะอยู่ใน 7 กลุ่มใหญ่ คือ อาคาร Mixed-Use, ช้อปปิ้ง มอลล์, โรงพยาบาล, การศึกษา, ภาคธุรกิจการเงิน, โรงงานอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้า และภาครัฐบาล ซึ่งการพัฒนาระบบให้บริการโดยมีหุ่นยนต์เข้ามาร่วมทำงาน จะเป็นการเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ดี โดยในระยะยาวจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของแม่บ้าน อุปกรณ์ทำความสะอาด รวมไปถึงกระดาษทิชชู ลงได้ราว 5%

 “เมทเธียร์” จะเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจร ดูแลตั้งแต่การวางระบบ วิธีการใช้งานหุ่นยนต์การสั่งงาน รวมไปถึงการดูแลฐานข้อมูล ซ่อมบำรุง โดยมีทีมงานให้บริการตลอด24 ชั่วโมง โดยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทจะเร่งต่อยอดในทุกมิติ โดยใช้ฐานข้อมูล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าปัจจุบัน “เมทเธียร์” ให้บริการหุ่นยนต์ทำความสะอาดภายในศูนย์ราชการ และโรงพยาบาล โดยมีหุ่นยนต์ให้บริการแล้วกว่า 10 ตัว รวมไปถึงมีการเพิ่มหุ่นยนต์ลาดตระเวนทั้งภายในและภายนอกอาคารทดสอบใช้งานภายในห้างสรรพสินค้าเพื่อช่วยป้องกันเหตุ รวมไปถึงโดรนขนาดใหญ่ ที่จะเข้ามาใช้ลาดตระเวนพื้นที่ภายในโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่เป้าหมายปีนี้เตรียมขยายหุ่นยนต์บริการไปสู่โรงเรียนนานาชาติ รวมไปถึงกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกและภาคเหนือ ซึ่งบริษัทมีที่ตั้งสำนักงานพร้อมรองรับการขยายธุรกิจ

ทั้งนี้มั่นใจว่าในปีนี้เป้ารับรู้รายได้จะอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทต่างๆ มองหาโซลูชั่นที่จะเข้ามาทุ่นแรงและช่วยลดค่าใช้จ่ายในองค์กรมากขึ้น ส่วนในอนาคตบริษัทก็จะมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพื่อเพิ่มบริการอื่นๆ อาทิ เช็ดกระจกอาคารสูง, ธุรกิจรถขนเงินหรือทรัพย์สินมีค่า เป็นต้น