“ดิ อัมรินทร์” เปิดตัว “อรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น” บุกตลาดคอนโดพรีเมี่ยมบนทำเลศิริราช ชูจุดเด่นเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สาย
ดิ อัมรินทร์ เผยโฉมโครงการล่าสุด “อรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น” คอนโดระดับพรีเมี่ยมบนทำเลศิริราช รองรับกลุ่มบุคคลากรการแพทย์ ออกแบบระดับหรูเหนือกาลเวลา สะดวกสบาย Luxury, Privacy, Greenery ชูจุดขายเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สาย พร้อมเปิดพรีเซลล์ที่สำนักงานขาย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสุทธาวาส วันที่ 2-3 พ.ย. นี้
นายอรรถวุฒิ ธรรมเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิ อัมรินทร์ จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์อรุณ (AROON) กล่าวว่า ศักยภาพการเติบโตของทำเลศิริราช มีโอกาสโตต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวจะกลายเป็นเมืองแห่งการแพทย์ (Medical District) จากแผนพัฒนาโครงการอาคารรักษาพยาบาลสูง 15 ชั้น และเชื่อมต่อกับสถานีศิริราช สถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสายสีแดง ปัจจุบันที่ดินโดยรอบโรงพยาบาลศิริราช ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้อยู่อาศัยเดิมที่อยู่มานานกว่า 30-60 ปี เป็นที่ดินแปลงเล็ก ที่มาพัฒนาโครงการได้ยาก บางโซนเป็นพื้นที่อนุรักษ์ ทำให้มีข้อจำกัดในการพัฒนา
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการพัฒนาโครงการบนทำเลนี้ และมีความเชี่ยวชาญ จึงได้เปิดตัว โครงการใหม่ล่าสุด “อรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น” (AROON Siriraj Triple Station) คอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรซ์ (Low Rise) ขนาดความสูง 8 ชั้น จำนวน 170 ยูนิต มูลค่า 800 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ บนถนนจรัญสนิทวงศ์ 32 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์เพียง 120 เมตร ใกล้โรงพยาบาลศิริราช และแหล่งอำนวยความสะดวก ซึ่งถือเป็น Exclusive Location
โดยโครงการอรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น ตั้งอยู่ใจกลางทำเลรถไฟฟ้า ล้อมรอบด้วยสถานีรถไฟฟ้าถึงสามสถานี คือรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์ที่อยู่ใกล้เพียง 120 เมตร กับอีกสองสถานีในอนาคตคือ MRT สายสีส้ม และ SRT สายสีแดงอ่อน ซึ่งเชื่อมต่อถึงโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์เพียงแค่สถานีเดียวเท่านั้น
สำหรับการออกแบบโครงการอรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น ตอบโจทย์กลุ่มแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล รวมถึงนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยใกล้เคียง และกลุ่มนักลงทุน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในโซนนี้สูงมาก
โดยภายในโครงการ อรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น ออกแบบอย่างพิถีพิถันและเอาใจใส่ทุกๆ รายละเอียดเพื่อมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่าง ความสบายในการอยู่อาศัย มีความกลมกลืนกับธรรมชาติทั้งความสงบ ความเป็นส่วนตัว ความยั่งยืน นำมาสู่ 3 ประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่อาศัย ได้แก่
Luxury การออกแบบมีระดับเหนือกาลเวลา ทั้งสถาปัตยกรรม ความทันสมัย และการเลือกสรรวัสดุที่คำนึงถึงคุณภาพและความสวยงามเป็นหลัก
Privacy ความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยจำนวนยูนิตเพียง 170 ยูนิต ลดความพลุกพล่าน คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยที่ต้องการเป็นเป็นส่วนตัวสูง
Greenery พื้นที่สีเขียว ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น โดยออกแบบให้ยูนิตชั้นล่างสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่เชื่อมต่อไปยังสวน ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์และรูปแบบชีวิตของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก”
โดยมีห้อง 3 แบบ * ตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน คือ แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ 28-43.2 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ 48.1-66.6 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท และแบบ 3 ห้องนอน พื้นที่ 101.7-103.8 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15.1 ล้านบาท (ราคาเฉลี่ยที่โครงการ 1.4 แสนบาท/ตร.ม.)
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ พื้นที่จอดรถมากถึง 47%, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.,บริการรถ Benz Vito ระหว่างโครงการ โรงพยาบาลศิริราช และพรีเมียมซูเปอร์สโตร์ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางระดับพรีเมี่ยมอาทิ ล็อบบี้ต้อนรับ สูงถึง 6 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่งสบาย มีแสงธรรมชาติเข้าถึง รับกับ Concept “อรุณ” ซึ่งเป็นที่มาของแสงพระอาทิตย์ ห้องออกกำลังกายพร้อมรับวิวจากภายนอก Co-Kitchen ที่จัดพื้นที่ไว้ทั้งแบบ dining และ mini bar เพื่อจัดงานสังสรรค์พร้อมเชฟส่วนตัว Co-Working Space Pocket Working ห้องประชุมที่แบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจนทั้งโซน private และโซน public รวมถึงสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้าที่มีล้อคเกอร์และมูนไลท์ซีท (Moonlight Seat) ยกระดับการพักผ่อนพร้อมชมวิวที่เปิดกว้างแบบพาโนราม่า
นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ย่านศิริราช ที่อยู่ในทำเลมิดทาวน์ ถือเป็นทำเลทองในปัจจุบันและอนาคต โดยโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณรอบทำเลศิริราชพบว่ามีซัพพลายเพียง 4,197 ยูนิต โดยโครงการที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ารัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร มีอัตราขายเฉลี่ยสูงถึง 81%
ปัจจัยเรื่องที่ดินหายากและมีราคาสูง รวมถึงข้อจำกัดในการพัฒนาและข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย ทำให้โครงการคอนโดใหม่ออกมาขายจึงได้รับการตอบรับที่ดี เพราะมีความต้องการทั้งจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง และกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือปล่อยเช่า ซึ่งได้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าสูงเฉลี่ย 5-6% ต่อปี