ปี 2025 ชะตากรรมที่คนทำงานไม่อาจหลีกเลี่ยง คือ การใช้ AI ให้เป็น
AI คือ ชะตากรรมที่คนทำงานไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้วครับ!
จากที่ผมได้ร่วม Community Event ในช่วงที่ผ่านมาในปีนี้ พบว่า AI นับว่าเป็นประเด็นที่ร้อนแรงมาก
ทำให้ผู้นำในองค์กรก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้ AI ในการทำงานแล้วล่ะครับ แต่ว่า AI ในปัจจุบันมีหลายแบบไปหมด จะเริ่มยังไงดีล่ะ
หลายคนอาจคุ้นกับ ChatGPT Gemini (หรือ เดิมก็คือ Bard) เป็นหลัก แต่จริงๆ แล้ว AI มีมากกว่านั้นและผู้นำควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ผมจึงขอแชร์ AI ที่ผู้นำควรให้ความสนใจ (ทั้งเพื่อใช้เองและให้ทีมงานใช้) แบบคร่าวๆ ตามลักษณะการใช้งานดังนี้
1. เอไอเชิงวิเคราะห์และทำนาย (Analytic AI หรือ Predictive AI) คือ ตัวช่วยสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า หรือ การนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการทำงาน หรือ อาจใช้เพื่อพยากรณ์ผลลัพธ์ได้ เช่น การวิคราะห์พฤติกรรมลูกค้า หรือ การนำผลการวิเคราะห์นั้นมาทำนายพฤติกรรมในการซื้อ แแล้วจึงวางแผนกลยุทธ์ หรือ วางแผนการทำงานที่เหมาะสม
2. เอไอเชิงสร้างสรรค์ทางเลือก (Generative AI) คือ ตัวช่วยคิดให้เรามีทางเลือก โดยการหาข้อมูล หรือ ไอเดีย ให้ครอบคลุม เพราะ เขาจะช่วยให้ข้อมูลที่เรียนรู้มาให้เราได้รวดเร็ว และสร้างสรรค์ข้อความ ออกแบบภาพ สไลด์ หรือ VDO ได้เร็วมากๆ นอกจากนี้ยังช่วย Organize งานต่างๆ อื่นๆ ให้เราได้ด้วย เช่น การค้นหาข้อมูลเที่ยวบิน และจองตั๋วในทันที ซึ่ง ChatGPT, Gimini, DALL-E, Mid-journey ก็จะอยู่ในส่วนนี้
3. เอไอเชิงทำงานซ้ำๆ (Automation AI) อาจมีส่วนผสมของการทำงานของสองตัวข้างต้น แต่เน้นที่การช่วยทำงานซ้ำๆ จะช่วยลดเวลาในการทำงานที่ต้องใช้เวลามากๆ เช่น การตอบคำถาม การจัดการเองสารต่างๆ การประกอบชิ้นส่วน หรือ การตรวจจับเชิงคุณภาพต่างๆ การบันทึกประชุมและสรุปการประชุม เป็นต้น
เพื่อให้นำเวลานี้ไปใช้กับงานที่สำคัญมากกว่าเดิม
สรุปได้ว่า AI มีทั้งแบบที่จะเน้นการเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจ (ข้อ 1 และ 3) และ AI ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคคล ก็ได้ครับ เพราะมีลักษณะที่เป็นผู้ช่วยในการทำงานของพนักงานแต่ละคนในทุกระดับได้เลย (ข้อ 2 และ 3)
ดังนั้น เตรียมพัฒนาคนไว้ได้เลยครับ ให้เขารู้จัก เข้าใจ และใช้ AI ในการทำงานให้เหมาะสม
ซึ่งผมคิดว่า หลายองค์กรน่าจะได้เริ่ม หรือ เตรียมเริ่มทำ AI Transformation เพื่อให้คนขององค์กรใช้ AI ได้คล่องในชีวิตการทำงาน ไว้เรียบร้อยแล้วล่ะครับ แต่หากยังก็เริ่มได้แล้ว เพราะ AI จะกลายเป็นสมองที่สองของคนในองค์กรในไม่ช้าครับ