ใครหลายคนคงคิดที่จะหาช่องทางการลงทุนว่า เราจะลงทุนอะไรดีให้ได้ผลตอบแทนสูงโดยใช้เงินลงทุนให้ต่ำที่สุด แต่สุดท้ายแล้วยังไม่มีเงินทุนเพียงพออยู่ดี หรืออาจจะมีทุนเยอะพอแต่อยากได้ผลตอบแทนสูง ไม่อยากเสี่ยงอะไรมากมายนัก  ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ คือ วิธีทำเงินแบบ “จับเสือมือเปล่า” ไม่ใช่หมายความว่า ให้เราไปจับเสือด้วยมือเปล่านะ แต่เป็นการลงทุนที่เราไม่ต้องใช้เงินต่างหาก ส่วน “จับเสือมือเปล่า” ก็แตกต่างกับ “เสือนอนกิน” เช่นกัน “เสือนอนกิน” คือไม่ต้องทำอะไรเลย ขอแค่มีทุน ก็จะมีกระแสเงินสดไหลเข้ามาให้ใช้ทุกเดือน (Passive) แต่ “จับเสือมือเปล่า” จะหมายถึง เราต้องทำอะไรบางอย่าง (Action) ถึงจะได้เงินสดเข้ามาซักก้อนหนึ่ง โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเลยแต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น ไอเดีย “จับเสือมือเปล่า”  มีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย

1.นายหน้า (Agent) นายหน้าอสังหาริมทรัพย์เป็นอาชีพที่เป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้เกิดการซื้อขายขึ้นแล้วกินค่าธรรมเนียมหรือค่านายหน้า (Commission) ยิ่งเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ถ้าเป็นโครงการใหญ่ๆ แล้วสามารถขายได้จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่นายหน้าผู้นั้นได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว นายหน้าบางคนประกาศขายบวกราคาเพิ่มเองจากเจ้าของทำได้กำไรแบบไม่ต้องออกแรงอะไรมากเลย ธุรกิจนายหน้าจึงเป็นธุรกิจที่หลายๆคนให้ความสนใจและมีแนวโน้มทำกันมากขึ้น ยิ่งเป็นคนที่นำเสนอเก่ง ชักจูงคนเก่ง ขายของเก่งยิ่งได้เปรียบ แต่นายหน้าจะมีต้นทุนเล็กๆน้อยๆในการติดต่อเพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงซื้อขายกันได้สำเร็จเท่านั้น

อ่านบทความเพิ่มเติม : 9 เคล็ดลับ นายหน้าอสังหาฯ รวยทางลัด อย่างไร

2.ขายสินค้าจากสินค้าร้านคนอื่น  ปัจจุบันมีช่องทางเทคนิคการค้ารูปแบบหนึ่งที่อาศัยช่องทาง Internet ในการซื้อขายจากการกินส่วนต่างจากการซื้อมาขายไป โดยเจ้าของไม่ต้องใช้ทุนอะไรเลย ตัวอย่างเช่น “มีผู้เล่น 3 คน คือ ก.(คนซื้อ) ข.(คนกลาง) ค.(คนขาย) โดย ค. ขายสินค้า A ราคา 150 บาท แล้ว ข. เห็นว่าสินค้าชิ้นนี้น่าสนใจน่าจะขายได้จึงตั้งหน้าร้านทาง Internet ว่าขายสินค้า A ในราคา 200 บาท ต่อมาผู้ซื้อ ก สนใจสินค้าจากการดูผ่านหน้าร้านของ ข. ใน Internet  จึงติดต่อขอซื้อสินค้า A กับนาย ข  นาย ข. ได้กำไรชิ้นละ 50 บาท โดยที่ไม่ได้มีสินค้า A อยู่ในมือเลย หลังจากตกลงซื้อขายเสร็จ นาย ข. สั่งซื้อของจาก นาย ค. ให้ส่งไปที่บ้านนาย ก. โดยไม่ต้องผ่าน นาย ข.” จะเห็นว่านาย ข. เป็นคนจับเสือมือเปล่า ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ลงทุนแค่เวลาในการเจรจาซื้อขายเท่านั้น นี่ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง

Note : คล่องแคล่ว ติดกระแส Online 24 ชม.

3.ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant) การที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับใครนั้นจำเป็นต้องมีความรู้ มีประสบการณ์คลุกคลีอยู่กับธุรกิจประเภทนั้นจนเกิดความเชี่ยวชาญ เข้าใจอย่างถ่องแท้และมีชื่อเสียงในวงการจนเป็นที่ยอมรับ การเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่บุคคลทั่วไปจะทำได้

Note : ต้องรู้ลึก รู้จริง แบบสัญชาตญาณหยังรู้ จึงสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

4.ปล่อยเช่าคอนโด สำหรับในกรณีที่สามารถกู้ซื้อได้ 100% เท่านั้นการปล่อยเช่าคอนโดโดยไม่ใช้เงินตัวเองและคอนโดห้องที่เราซื้อมาสามารถสร้างรายได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ เช่น สมมุติค่าเช่าห้องตกเดือนละ 20,000 บาท แต่ต้องผ่อนชำระกับธนาคารเดือนละ 16,000 บาท ต่อเดือน ทำให้ได้รายได้สุทธิแบบคร่าวๆประมาณ 4,000 บาท เป็นต้น ซึ่งการจะหาอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนเช่นกัน

Note : ฉกฉวยช่วงธุรกิจขาขึ้น ดอกเบี้ย 0%, กู้ 100%, Promotion Free ค่าธรรมเนียม, Fully-furnished

5.ตัวแทนธุรกิจเครือข่าย หรือตัวแทนธุรกิจประกันชีวิต เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง ไม่ต้องสต๊อกของเอาไว้ มีหน้าที่เพียงอย่างเดียว คือ ขายบริการ ทำให้เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำในช่วงทำงาน

Note : รักการบริการ หมั่นเพิ่มพูนความรู้ด้านการบริหารการเงิน

6.ขายไอเดียให้นายทุน อาทิธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องอาศัยการลงทุนค่อนข้างเยอะ บางครั้งเราอาจจะลงทุนไม่ไหวแต่พอมีไอเดียที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ชิ้นนั้นได้ เราสามารถนำมันสมองของเราขายไอเดียให้กับนายทุนที่มีเงินทุนพร้อมที่จะลงทุนถ้าหากได้รับผลตอบแทนที่ดีคุ้มค่า มีเหตุผลที่ดีให้น่าลงทุนด้วย วิธีนี้เป็นแนวทางที่บางกลุ่มใช้แล้วประสบความสำเร็จ

Note : กล้าที่จะคิดต่าง กล้าทำ และขยันที่จะนำเสนอ หาช่องทางใกล้ชิดกับนายทุน

TerraBKK ได้รวบรวมช่องทางการลงทุนแบบ “จับเสือมือเปล่า” มาประมาณ 6 ช่องทาง ซึ่งแต่ละช่องทางก็มีความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป และยังมีรูปแบบการลงทุนอีกหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับไอเดีย และประสบการณ์ชีวิตของแต่ละบุคคล

“อย่าคิดว่าทำไม่ได้ แต่ให้คิดว่าจะทำมันอย่างไร”

หมายเหตุ ทุกๆมิติของการลงทุน ย่อมมีทั้งขาดทุนและกำไร ดังนั้นท่านต้องคิดให้รอบด้าน วางแผนทั้งระยะสั้น กลาง ยาว หรือคิดคำนวณทั้ง Base Case, Best Case และ Worst Case เสมอ - เทอร์ร่า บีเคเค

10 มหาเศรษฐี "รวยที่สุด" ในประเทศไทย ทำธุรกิจอะไร TerraBKK Research นำเสนอ Top10 มหาเศรษฐีในประเทศไทย" จากการจัดอันดับของ "Forbes Thailand" ใครแต่ละคนทำธุรกิจอะไรกัน ติดตามได้ดังต่อไปนี้...

อันดับที่ 1 “ครอบครัว จิราธิวัฒน์” มีมูลค่าทรัพย์สิน 413,956.50 ล้านบาท

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก