ในช่วงหน้าฝนที่ผ่านมา ฝนมักจะมาพร้อมกับความเปียกชื้น และส่วนใหญ่มักจะตกช่วงเย็นหลังเวลาเลิกงาน หรือเลิกเรียนพอดี ทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่เปียก บางครั้ง ก็เป็นเวลานานๆ หลายชั่วโมง หากดูแลทำความสะอาดไม่ดี นอกจากจะทำให้เสื้อมีกลิ่นอับแล้ว ยังอาจจะทำให้เกิดเชื้อราขึ้นบนเสื้ออีกด้วย ยิ่งถ้าหากเป็นเสื้อผ้าตัวโปรด ที่ใส่อยู่เป็นประจำ หากมีราขึ้น ก็คงสร้างความกลัดกลุ้ม ให้กับคนเป็นเจ้าของอย่างมาก เพราะหากจะให้ใส่เสื้อผ้าขึ้นราออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปเรียน หรือไปเที่ยว ก็คงจะไม่ไหวแน่ๆ
• นำเสื้อผ้าที่ขึ้นราไปแช่น้ำ โดยแช่นานประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้น นำเสื้อขึ้นมาบิดให้หมาดๆ เอาน้ำมะนาวบีบลงไปตรงที่มีเชื้อรา ทิ้งเอาไว้อีกประมาณ 20 นาที แล้วนำเสื้อไปซักด้วยผงซักฟอก หรือ น้ำยาซักผ้า ใช้แรงซักผ้าในการขัดหรือขยี้ผ้า ตรงที่เป็นเชื้อราเน้นๆ ก็จะช่วยให้เชื้อราจางหายไปได้ • นำเสื้อที่ขึ้นราไปแช่ไว้ในนมเปรี้ยว ทิ้งเอาไว้ 1 คืน หลังจากนั้น ก็ให้เอาเสื้อไปตากแดด พอเสื้อแห้งแล้ว ก็ให้ใช้มะนาวผ่าซีก ขัดถูลงไปที่เป็นเชื้อราอีกที แล้วก็นำผงชอล์กโรยทับลงไป ก่อนนำไปตากอีกครั้ง • นำเสื้อที่ขึ้นรา ไปแช่ในน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเดทตอล โดยใช้อัตราส่วนอย่างละเท่าๆ กัน แช่ให้พอท่วม ทิ้งเอาไว้ 1 คืน จากนั้น ก็นำผ้าไปซักด้วยผงซักฟอกตามปกติ ก็จะทำให้ราลดน้อยลง หรือหายไปได้ แต่จริงๆ แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าขึ้นรา ก็จำเป็นต้องทำความสะอาดเสื้อผ้าให้ถูกวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามเอาเสื้อผ้าที่กำลังเปียกชื้น ไปกองรวมกันอย่างเด็ดขาด และไม่เพียงแต่เสื้อผ้าเท่านั้น แม้แต่ในตู้เสื้อผ้าเอง ก็จำเป็นต้องดูแลเรื่องความสะอาดให้ดีด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีการง่ายๆ ก็เพียงแค่นำผ้ามาชุบน้ำส้มสายชู แล้วเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วตู้เสื้อผ้า เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ก็จะช่วยป้องกันเชื้อรา ที่จะมาขึ้นบนเสื้อผ้าได้อีกด้วย ที่มา : plerne