9 กิจวัตรประจำวันที่ควรทำเพื่อชะลอวัยสมอง
สมองเป็นอวัยวะหนึ่งในร่างกายของคนเราที่มีความสำคัญมาก ซึ่งสมองของคนเราก็ต้องการการดูแลเช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ หากเปรียบสมองกับเครื่องจักรแล้ว เมื่อเราใช้งานแล้วไม่มีการบำรุงรักษาใช้งานไปนานๆเครื่องจักรก็จะเริ่มเสื่อมสภาพจนกระทั่งใช้งานไม่ได้ ดังนั้นเราควรต้องดูแลรักษาบำรุงสมองกันบ้าง ทางทีมงาน TerraBkk ขอนำเสนอ 9 วิธีการบำรุงสมองง่ายๆ โดยขอให้ปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวันไปเลยดังนี้
1.การออกงานสังคมหรือพบปะพูดคุยกับผู้คน ถือเป็นการออกกำลังกายของสมองที่ดีมากอย่างหนึ่ง เพราะสมองก็เหมือนกล้ามเนื้อที่จำเป็นต้องมีการใช้งานหรือออกกำลังเพื่อคงประสิทธิภาพการทำงานไว้อย่างต่อเนื่อง
2.ฝึกฝนการแก้ปัญหา เช่น การต่อจิ๊กซอว์ การขบคิดปริศนา เล่น sudoku หรือกิจกรรมใดๆ ที่มีการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิดเพื่อแก้ปัญหา เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความทรงจำของสมอง
3.การออกกำลังกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายชนิดแอโรบิก หรือการวิ่งเหยาะๆ เป็นระยะทางพอสมควร และการว่ายน้ำ จะช่วยเพิ่มปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอย่างเป็นธรรมชาติและยังส่งผลทางอ้อมให้มีการเชื่อมต่อเซลล์ประสาทมากขึ้น เมื่อวงจรของระบบประสาททีมีการเชื่อมต่อกันอย่างดีจะทำให้ระบบความคิด ความทรงจำ กลับมาทำงานได้ดีโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาใดๆ ความรู้ข้อนี้ได้รับการวิจัยและศึกษาอย่างเป็นระบบและได้รับคำตอบยืนยันตรงกันว่า ผู้ที่ออกกำลังกายจนแข็งแรงตามวัยจะมีสมองที่เฉียบคมอยู่เสมอ และผู้ที่เคยมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก เมื่อกลับมาควบคุมน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายจะทำให้สมองกลับมาทำงานได้ดีขึ้น
4.กินอาหารบำรุงสมองอย่างถูกต้องและพอเพียง การกินอาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนท์ ซึ่งพบมากได้ในผลไม้และผักหลากสีนั้น นอกจากจะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระซึ่งมีผลต่อสมองอีกด้วย
5.เร่งความเร็วด้วยการฝึกสมอง เช่น Brain Fitness Program ซึ่งมักประกอบด้วยโปรแกรมการฝึกภาษาและการได้ยิน โปรแกรมเหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้สมองกลับมาทำงานได้ดีขึ้นแม้อายุร่างกายจะมากขึ้นแล้ว บริษัท นินเทนโด ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็น บริษัทเกมส์ชื่อดังได้ออกแบบเกมส์สำหรับพกพาที่เรียกว่า “Brian Age “ เราจะเห็นคนจำนวนมากในญี่ปุ่นฆ่าเวลาระหว่างนั่งรอรถไฟหรือรถเมล์ด้วยการนั่งเล่นเกมส์ฝึกสมองเหล่านี้ เชื่อกันว่าเกมส์เหล่านี้เป็นเสมือนเลนส์ที่รวมแสงหรือสมาธิของคนเราให้มาจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และทำให้สมองเกิดการเรียนรู้ (learning mode) และการซ่อมแซมวงจรประสาทของตนเอง
6.สงบเพื่อผ่อนคลาย แม้ว่าการกระตุ้นการทำงานของสมองด้วยกิจกรรมบางอย่างจะมีความสำคัญในการชะลอวัยสมอง แต่การผ่อนคลายเมื่อมีโอกาสอันสมควรก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน เราควรหาเวลาหยุดพัก หายใจอย่างสงบและผ่อนคลายในช่วงระยะเวลาที่เราเครียดจากการทำงาน ความเครียดจากการทำงานไม่ดีต่อเซลล์สมองเลย ความเครียดเหล่านี้จะทำลายกระบวนการเรียนรู้และความจำของเรา โดยเฉพาะสมองส่วนที่เรียกว่า “Hippocampus” ซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นให้เกิดความทรงจำตามมา การหาความสงบเพื่อผ่อนคลายหาได้จากการออกกำลังกายหรือเล่นโยคะ และหากนับถือศาสนาพุทธ การทำสมาธิ (meditation) ก็เป็นวิธีเพื่อให้ได้มาซึ่งความเงียบและผ่อนคลายอย่างดี
7.พักผ่อนให้พอดี จากการศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่านักศึกษาที่อดนอนจะสูญเสียความสามารถในการแก้ปัญทางคณิตศาสตร์ได้อย่างมากเมื่อเทียบกับกลุ่มที่พักผ่อนเพียงพอ
8.หัวเราะ การหัวเราะไปกระตุ้นให้มีการหลั่งสารเคมีไหนสมองที่เรียกว่า โดพามีน (dopamine) เชื่อกันว่าสารเคมีตัวนี้เป็นสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกสบายและผ่อนคลาย (feel good chemical)
9.มองโลกในแง่ดี จะช่วยลดความเครียดที่มาเกาะกินสมองแต่ในขณะเดียวกันทำให้เรามีความสุขสงบได้ง่าย
สิ่งที่ไม่ควร คือ การดูทีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง"ผู้สูงวัย"ควรห่างไกลการนั่งจ้องจอทีวี เป็นกิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง ความเข้าใจผิดที่ว่าการดูทีวีจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองเป็นความเข้าใจที่ผิดๆแท้จริงการนั่งอยู่หน้าจอทีวีเป็นเวลานานนี้จะทำให้สมองทึบยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ต่างกับการดื่มแอลกอฮอล์หรือการติดยาประสาท ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าการนั่งเฝ้าหน้าจอทีวีจะทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้นคือผู้สูงอายุในสังคมตะวันตก ซึ่งมักอยู่ตามลำพังเมื่ออายุมากขึ้นทำให้ต้องหันน่าเข้าหาทีวี เราจะพบว่าผู้สูงอายุเหล่านี้มีการเสื่อมของสมองเร็วกว่ากลุ่มที่มีกิจกรรมพบปะสังสรรค์พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร Health Today สามารถติดตามข้อมูลสาระบันเทิง ข่าวการเงิน การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมได้ที่ : www.TerraBKK.com
Facebook : TerraBKK Facebook
Google+ : TerraBKK Google+
Twitter : TerraBKK Twitter
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.