ในห้องครัวมีข้าวของเครื่องใช้มากมายที่มีประโยชน์มากกว่าการเป็นอาหารของเราๆ และของสดบางอย่างเราก็ไม่รู้ว่ายังสดอยู่ หรือใช้การได้อยู่หรือไม่อย่างไร ทางทีมงาน TerraBKK ได้รวบรวม 31 เคล็ด (ไม่) ลับที่ซ่อนอยู่ในห้องครัว จาก housebeautiful มาฝาก ดังนี้


1.ไข่สดหรือไม่ ? หากคุณไม่แน่ใจเรื่องความสดของไข่ ลองเอามันลงแก้วที่มีน้ำเต็ม ไข่สดจะจม ส่วนไข่ไม่สดจะลอย


2.ยืดอายุให้ผักสดนานขึ้น เอากระดาษทิชชู่แบบหนาวางปูในชั้นตู้เย็น กระดาษทิชชู่จะช่วยดูดซับความชื้น ที่เป็นต้นเหตุให้ผักเน่าเปื่อยได้


3.เก็บแชมเปญไว้ คงความซ่า อย่าทิ้ง แชมเปญ หรือ สปาร์กกิ้งไวน์เมื่อมันไม่ซ่าอีกต่อไป คุณสามารถทำให้มันกลับมาซ่าได้อีกเพียงหย่อนลูกเกดลงไปในขวด น้ำตาลธรรมชาติจากลูกเกดจะช่วยให้มันกลับมาซ่าอีกครั้ง


4.อย่าใช้มะนาวอย่างสิ้นเปลือง หากคุณต้องการน้ำมะนาวเพียงไม่กี่หยด พยายามหลีกเลี่ยนอย่าตัดมะนาวครึ่งซีก เพราะมันจะแห้งอย่างรวดเร็ว เพียงแค่คุณใช้ของมีคมเจาะไปที่มะนาวและบีบออกมาเล็กน้อยตามที่ต้องการ


5.เก็บสมุนไพรให้สดใหม่ วิธีเก็บสมุนไพรให้ได้นานเป็นเดือน ล้างสมุนไพรให้สะอาด เก็บใส่ถุงพลาสติกจากนั้นใส่เข้าไว้ในช่องฟรีสเซอร์ เมื่อคุณต้องการใช้มันก็เพียงแค่ตัด และน้ำแข็งที่เกาะมันก็จะละลายแทบจะทันทีเมื่อโดนกระทะร้อนๆ


6.ป้องกันแมลงวิถีธรรมชาติ เพียงแค่คุณใส่ ใบกระวาน ในบรรจุภัณฑ์ที่คุณใช้เก็บ แป้ง พาสต้า หรือข้าว เท่านี้คุณก็สามารถป้องกันอาหารจากแมลงได้แล้ว


7.ป้องกันเห็ดไม่ให้มีเมือกเหนียว เพียงแค่ห่อมันด้วยกระดาษทิชชู่แบบหนาก่อนเอาเข้าตู้เย็น เท่านี้เห็ดของคุณก็จะไม่เป็นเมือกแล้ว


8.คืนชีพให้มัฟฟินแข็งปั้ก เพื่อคืนชีพให้มัฟฟินที่เก็บไว้ข้ามคืนจนแข็ง เพียงแค่พรมน้ำลงไป ใส่มันไว้ในถ้วยอบ หรือ เวฟแบบมีฝาปิด จากนั้นเอาเข้าตู้อบหรือไม่โครเวฟ 5 ถึง 10 นาที ไอน้ำจะช่วยให้มัฟฟินของคุณกลับมานุ่มน่าทานอีกครั้ง


9. เก็บชีสไม่ให้แห้ง โดยการเอาเนยหรือมาการีนทาให้ทั่วส่วนที่ตัด เนยและมาการีนจะช่วยเก็บความชุ่มชื่นของชีสเอาไว้ นี่เป็นวิธีที่ดีสำหรับชีสที่เป็นชีสแบบเคลือบแว๊กซ์


10.การทำให้ผักกรอบ ผักเช่น หัวผักกาด หัวไช้เท้า ก้านเซลอรี่และแครอท หมดความกรอบ เพียงเอามันไปจุ่มในน้ำที่มีน้ำแข็ง และมีมันฝรั่งแล่บางใส่ลงไปด้วยจำนวนหนึ่ง เพียงเท่านี้คุณก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผัก ว่ามันจะกลับมากรอบอีกครั้ง


11.อย่าให้เจ้าคุกกี้นุ่มๆกลายเป็นของแข็งไป เก็บเจ้าคุกกี้แบบกรอบและแบบนิ่มไว้แยกกัน เนื่องจากหากเก็บไว้ด้วยกันแล้ว คุกกี้แบบนุ่นเหนียวของคุณอาจจะสูญเสียความชื้นให้กับคุกกี้แบบกรอบและกลายเป็นคุกกี้สุดแข็งได้


12.เก็บรักษาไม่ให้กล้วยดำ อย่าแยกกล้วยออกเป็นผลๆก่อนคุณจะกิน การแยกมันออกจากหวีจะทำให้มันดำเร็วขึ้น


13.ป้องกันไม่ให้เกลือจับกันเป็นก้อน เพียงนำข้าวสารแห้งใส่ลงไปในตัวเหยาะเกลือ(ขวดเกลือ) ข้าวสารแห้งจะช่วยดูดซับความชื้นและป้องกันไม่ให้เกลือจับตัวเป็นก้อน


14. เก็บรักษาเนยให้รสชาติเข้มข้น การซื้อเนยจำนวนมากเมื่อมันลดราคา คุณสามารถเก็บมันเอาไว้ในช่องฟรีซได้นานถึง 6 เดือน เก็บมันเอาไว้ในกล่องสูญญากาศก่อนนำเข้าตู้เย็น เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ดูดกลิ่นอย่างอื่นในตู้เย็น


15.ป้องกันแบคทีเรียเติบโตใน ผลิตภัณฑ์นม วิธีในการป้องกันผลิตภัณฑ์นม อย่าง cottage cheese หรือ sour cream มีเชื้อแบคทีเรียโตขึ้นมา ให้ใส่กล่องปิดสนิทจากนั้นวางกลับหัวในตู้เย็น การวางกลับหัวจะทำให้เกิดสุญญากาศภายในกล่อง และช่วยชะลอโอกาสที่แบคทีเรียจะเติบโต


16.วิธีการทำน้ำผึ้งให้ใส เชื่อหรือไม่ น้ำผึ้งเป็นอาหารอย่างเดียวที่ไม่มีวันหมดอายุ ดังนั้นอย่าทิ้งน้ำผึ้งหากมันเริ่มตกผลึก หรือสีเริ่มขุ่น ลองเอาน้ำผึ้งที่เริ่มขุ่นไปอุ่นในไมโครเวฟที่ความร้อนระดับกลางประมาณ 30 วินาที มันจะกลับมาใสอีกครั้ง


17. คงความชุ่มชื่นในพาสตา ป้องกันพาสต้าแข็งและแห้งหลังจากที่ต้มมันสุกแล้วด้วยการเก็บมันเอาไว้ในถุงหรือกล่องสุญญากาศ เมื่อต้องการที่จะเอามากินเพียงนำมันไปลวกในน้ำร้อนอีกครั้ง มันก็จะกลับมานุ่มชุมชื่นเหมือนเดิม


18.เก็บน้ำตาลเกร็ด(ทรายแดง) ไม่ให้จับกันเป็นก้อน เก็บน้ำตาลไว้ในช่องฟรีซจะช่วยให้น้ำตาลจับตัวเป็นก้อนช้าลง แต่หากน้ำตาลจับตัวเป็นก้อนแข็งไปแล้วล่ะก็ ทำให้มันนุ่มได้ง่ายๆโดย ใส่มันไว้ในถุงที่ปิดสนิทพร้อมกับ ขนมปังหรือแอปเปิ้ล หรืออุ่นมันในไมโครเวฟที่ความร้อนสูง 30 วินาที


19.ทำให้ซุปเค็มน้อยลง ไม่มีอะไรน่าหงุดหงิดไปกว่าการที่คุณเคี่ยวซุปมาทั้งวันแล้วปรากฏว่าซุปนั้นเค็มเกินไปอีกแล้ว ลองใส่ซีกมันฝรั่งดิบหรือซีกแอปเปิ้ลลงไป จากนั้นทิ้งเอาไว้ซัก 10 นาที มันฝรั่งหรือแอปเปิ้ลสามารถช่วยในการดูดซับความเค็มได้ หากยังไม่สำเร็จลองใส่น้ำตาลลงไปนิดนึง หรือเหยาะน้ำส้มสายชูลงไปซักหน่อย

20. ลดไขมันในซุป หากอยากกำจัดไขมันในซุปและมีเวลามากพอ เอาซุปเข้าตู้เย็น รอซัก 30 นาที จากนั้นตักส่วนไขมันออกแล้วจึงนำซุปไปอุ่นอีกครั้ง หรือไม่ก็ใส่ใบกะหล่ำลงไปตอนต้มซุปเพื่อให้มันดูดน้ำมันเอาไว้ ทิ้งใบกะหล่ำเมื่อมันเริ่มเปื่อย


21.เมื่อนมที่อุ่นไหม้ เมื่อคุณทำนมที่อุ่นอยู่บนเตาไหม้นิดหน่อย ลองเหยาะเกลือลงไปซักนิดมันจะช่วยให้รสชาติและกลิ่นดีขึ้น


22.ทำให้เนื้อนุ่ม หากเนื้อที่คุณนำมาทำอาหารไม่ใช่เนื้อนุ่มชั้นดี ลองหมักกับเบียร์ น้ำส้มสายชู ผลไม้ตระกูลส้ม มะละกอ มะเขือเทศ หรือน้ำสับปะรด ของเหลวพวกนี้มีเอนไซม์ที่จะช่วยให้เนื้อนุ่มขึ้นได้ แต่หากการหมักยังไม่ช่วย ลองทุบเนื้อด้วยตัวทุบให้ทั่วเพื่อให้มันนุ่ม


23.เมื่อน้ำเกรวี่ไหม้? หากน้ำเกรวี่ของคุณไหม้ ลองเอา เนยถั่วแบบเนียน 1 ช้อนชาต่อน้ำเกรวี่ 1 ถ้วย มีอุ่นรวมกัน เนยถั่วจะช่วยลดกลิ่นไหม้ในน้ำเกรวี่ได้


24.คั้นน้ำผลไม้แบบมีประสิทธิภาพ ก่อนจะคั้นน้ำผลไม้ให้นวดมันไปมาบนโต๊ะชุดครัวซะก่อน เพื่อให้น้ำผลไม้ที่จะคั้นออกมาดีกว่าเดิม



25.ทำให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น เพียงคุณนำผลไม้ที่คุณต้องการเร่งให้สุกเร็วไปใส่ไว้ในถุงกระดาษรวมกับแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลจะปล่อยเอนไซม์ที่เร่งการสุกของผลไม้อื่นๆ


26.กำจัดกลิ่นติดบนบรรจุภัณฑ์ เพื่อกำจัดกลิ่นที่ติดบนบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่คุณใช้บรรจุอาหาร เพียงนำกระดาษหนังสือพิมพ์ยัดใส่ไว้ในบรรจุภัณฑ์ เท่านี้กระดาษหนังสือพิมพ์ก็จะช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกแล้ว แต่ก็อย่าลืมล้างบรรจุภัณฑ์ก่อนนำมาใช้อีกครั้ง


27.การแช่แข็งวาฟเฟิลและแพนเค้ก เก็บวาฟเฟิล และแพนเค้กโดยแบ่งเป็นชิ้นๆในถุงเดี่ยว จากนั้นเก็บมันเข้าช่องฟรีซ เมื่อจะนำมาทานเพียงอุ่นมันอีกครั้ง


28.แปลงสภาพมันบดที่เหลือ เป็นมันทอด นำมันบดที่เหลือปั้นเป็นก้อน ชุบไข่จากนั้นชุบด้วยเกล็ดขนมปัง (หรือสอดไส้ด้วยชีส แฮม ไข่ต้มหรืออื่นๆ) จากนั้นนำไปทอดให้เหลืองกรอบ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ของว่างเมนูใหม่แล้ว


29.หากหุงข้าวเยอะเกินไป ลองทำพุดดิ้งข้าวโดยการ เติมเนย ซินนามอน น้ำตาล และน้ำ ต้มรวมกัน คุณก็จะได้ของหวาน Rice Pudding แล้ว (การจะเพิ่มผลไม้แห้ง เช่นลูกเกด หรือ ถั่งอัลมอนด์บดก็ดูจะเป็นไอเดียที่น่าอร่อย)


30.ทำก้อนน้ำแข็งจากกาแฟ อย่าทิ้งกาแฟเมื่อคนไม่ดื่มแล้ว เอามันไปแช่แข็งเพื่อทำเป็นก้อนน้ำแข็งกาแฟ เพื่อนำมันมาใส่ในกาแฟหรือนมเย็นเมื่อคุณต้องการ เพียงเท่านี้คุณก็ได้กาแฟเย็นที่จะไม่เสียรสชาติแล้วล่ะ



31.ทำความสะอาด สแตนเลส เพียงจุ่มสำลีกับแอลกอฮอลล์ จากนั้นนำไปเช็ดทำความสะอาดเครื่องสแตนเลส เท่านี้คราบสกปรกก็จะหายไป

Source : Country Living , housebeautiful.com