1. ชมศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม

The Centre Pompidou (ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมปงปิดู ) และ The Grand Palais ( กร็องปาแล) เป็นสองสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของกรุงปารีส และยังเป็นสถานที่จัดนิทรรศการระดับโลกด้วย รวมไปถึง The Musée d'Art Moderne (พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ของเทศบาลเมืองปารีส)และ Palais de Tokyo (ปาเล่ส์ เดอ โตเกียว) สถานที่ถ่ายทอดทัศนศิลป์ของยุโรปศตวรรษที่ 19 และ 20 มีการจัดแสดงนิทรรศการรอบพิเศษผลงานของ Linder Sterling (นักวิจิตรศิลป์) , Keith Haring (นักศิลปะป็อปอาร์ต) และ Sonia Delaunay (นักศิลปะลายเส้นสีสรร) อาจมีค่าเข้าชมเล็กน้อยราว € 8 - € 11. นอกจากนี้ ยังมีการบูรณาสถาปัตยกรรมวิจิตรศิลป์ที่มีชื่อว่า Petit Palais (เปอติต์ ปาเลส์) ภายในตกแต่งด้วยศิลปะภาพจิตรกรรมฝาผนังและกระเบื้องโมเสค พื้นที่โดยรอบยังมีสวนสวยที่เรียกว่า Charming Garden ไว้นั้งเล่นดื่มชาสบายๆ ล่าสุดมีงานจัดแสดงนิทรรศการศิลปะการตกแต่งและศิลปิน อย่างบาคาร่า, ตำนานของคริสตัล และ คาร์ล ลาร์สสัน จิตรกรและนักตกแต่งภายในชาวสวีเดน

2. เรียนรู้พิพิธภัณฑ์

บริเวณสวนสาธารณะ Parc Monceau จะมี Musée Nissim de Camondo เป็นตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้านศิลปะการใช้ชีวิต เคยเป็นบ้านของนายธนาคาร Moïse de Camondo เป็นอนุสาวรีย์ขั้นสูงตามแบบศิลปะการตกแต่งฝรั่งเศสและยุโรป และยังคงอยู่สภาพเดิม เสมือนเป็นพินัยกรรมส่งต่อไปยังประเทศฝรั่งเศส แสดงถึงเกียรติภูมิของลูกชายของเขาที่ถูกฆ่าตายในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในอีกด้านหนึ่ง the Musée Cognacq-Jay เป็นบ้านตามแบบฉบับคนปารีส เคยเป็นของผู้ก่อตั้ง La Samaritaine หนึ่งของห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของกรุงปารีส พิพิธภัณฑ์จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งน่าเข้าชมและเรียนรู้ถึงศิลปะของประเทศฝรั่งเศส

3. เดินเล่นรอบ Pere Lachaise

สถานที่สุดท้ายที่ชาวปารีสหลับใหล ด้วยชื่อเสียง Père Lachaise สุสานที่ใหญ่ที่สุดของกรุงปารีสและเป็นหนึ่งสถานที่งดงามเหมาะสำหรับการเดินชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง Toussaints (All Saints' Day) ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ชาวปารีสจะร่วมกันวางดอกไม้เพื่อแสดงความรักอย่างซาบซึ้งบนเนินเขาสูงชันในเขตที่ 20 ด้วยความคดเคี้ยวของเส้นทางที่ปูด้วยหินและลู่ทางร่มรื่น เรียงรายไปด้วยหลุมฝังศพที่หลากหลาย มีแผ่นหินแกะสลักอย่างวิจิตร ตกตบด้วยกระจกสี รวมทั้งภาพแกะสลักบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง Balzac, Colette, Proust, Oscar Wilde, Molière, Chopin, Sarah Bernhardt, Isadora Duncan, Gertrude Stein, และ Jim Morrison

4.สำรวจโบสถ์ประวัติศาสตร์ของปารีส

คงมีเพียงไม่กี่คนที่มากรุงปารีส แล้วพลาดการเยียมชมวิหารศตวรรษที่ 12 อย่าง Cathédrale de Notre Dame และอีกหลากหลายโบถส์ที่สามารถเดินถึงกันได้ เริ่มต้นด้วย Sainte-Chapelle ข้ามฝั่ง the Pont St-Michel หนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของปารีส มีภาพจิตรกรรมฝาผนังโดย Delacroix ตรงข้าม Pont d'Arcole ล้อมรอบด้วยถนนที่ปูด้วยหินสวยงาม Down scenic rue Miron สถานแห่งใหม่ของ St-Paul-St-Louis บนเนินเขา Montmartre มีมหาวิหาร Sacré-Coeur ที่มีชื่อเสียง เสมือนเป็นอนุสาวรีย์สถานของกรุงปารีส และอีกหนึ่งวิหารไม่ค่อยมีคนรู้จัก St-Pierre de Montmartre คือโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงเหลืออยู่ในกรุงปารีส เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระอังคารในสมัยโรมันตอนต้น

5. เยี่ยมชมอัฒจันทร์ THE ARÈNES DE LUTÈCE

ครั้งหนึ่งกรุงปารีสเคยเป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมัน ผู้ท่องเที่ยวจำนวนมากไม่ได้ตระหนักถึงซากปรักหักพังอัฒจันทร์โรมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางเมือง นั้นคืออัฒจันทร์ Arènes de Lutèce เป็นสถานที่ที่ชาวโรมันเข้ามาดูการแสดง,การต่อสู้ และละครสัตว์ ที่เคยกลายเป็นตำนานของนักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ จนกระทั่งได้ถูกค้นพบในที่สุดในยุค 1860 ระหว่างการขุดเจาะทางเพื่อสร้างทางเดินรถราง สำหรับอัฒจันทร์แห่งนี้มีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับผู้ชม 15,000 คน เป็นอัฒจันทร์ที่สร้างด้วยหินและมีระเบียงที่นั่งอย่างน่าทึ่ง ปัจจุบันพื้นที่ภายในตรงกลางป็นพื้นดินว่างๆ สามารถมาปิกนิก และเป็นสนามฟุตบอลสำหรับเด็กโรงเรียนใกล้เคียง

6. เรียนทำอาหาร

หากคุณอยากรู้อยากเห็นกรรมวิธีการทำอาหารฝรั่งเศส เขาก็มีหลักสูตรการทำอาหาร “ฟรี” มานำเสนอโดย FédérationFrançaise de CuisineFCC ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 เพื่อส่งเสริมอาหารฝรั่งเศสเพื่อสุขภาพ และเป็นกิจกรรมยามว่างสำหรับทุกคน ไม่มีข้อจำกัดว่าคุณจะต้องเป็นความเชี่ยวชาญใดทั้งสิ้น ข้อดีที่สุดคือทุกหลักสูตรจะถูกนำเสนอไปทั่วตลาดและงานแสดงสินค้าทั่วกรุงปารีส แม้ว่าจะอยู่ในชั้นเรียนภาษาฝรั่งเศส ทุกคนก็สามารถลงทะเบียนและเข้าร่วมชั่วโมงเรียนได้ เช่น ช็อคโกแลต ฉลองอีสเตอร์ เป็นต้น

7.ลองชิมตัวอย่างไวน์แบบฟรีๆ

La Dernière Goutte เป็นเจ้าภาพจัดงานชิมไวน์ฟรีในวันศุกร์ เวลา 5:00 PM.( พร้อมชีสฟรี) และวันเสาร์ทั้งวัน (พร้อมพบผู้ผลิตไวน์) เริ่มตั้งแต่ 11:00 AM. และโชคดีที่สุด ถ้าคุณได้ท่องเที่ยว Caves Augé's ร้านค้า dégustations. ที่คึกคักนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในย่านนี้ สำหรับการชิมรายเดือนกับ Vignerons จากไวน์สำคัญในแต่ละภูมิภาคของประเทศฝรั่งเศส the Rhone Valley, the Savoie, Jura, and Alsace, Loire และ Beaujolais

8. เดินช็อปตลาด PARIS FLEA MARKETS

ตลาด Marche Aux Puces St-Ouen ,ตลาด Clignancourt, เสมือนเป็นตลาดกลางหมู่บ้านวินเทจ ถนน Rue Des Rosiers ที่มีคาเฟ่ยอดเยี่ยม, มีหอศิลป์ Tartes Kluger ออกแบบศตวรรษที่ 20 นักช็อปหลายคนชื่นชอบ Vanves แต่คุณต้องแน่ใจว่าคุณจะสามารถไปแต่เช้าตรูได้ เพราะ 1 PM. ตลาดก็ปิดแล้ว ดังนั้น เหล่านักช็อปควรมาแต่เช้าเพื่อได้เลือกซื้อสิ่งของเหล่านั้นเป็นรางวัล ตลาด Porte de Montreuil ( เปิดวันเสาร์และอาทิตย์ 8 AM. – 1 PM.) ตลาดที่รู้จักกันดีอย่าง Foire de Chatou จัดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ทุกเดือนตุลาคมและมีนาคม ที่รู้จักกันว่าเป็น ตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส และก็ยังมีไวน์, แฮม คุณสามารถเดินทางไปได้ใน 10 นาทีจากปารีสโดย RER.

9. สร้างประสบการณ์งานศิลปะที่ LE CENTQUATRE

อาคาร La Villette ในศตวรรษที่ 18 ถูกทอดทิ้งจากช่วงปลายยุค 60 จนกระทั่งปี 2008 ได้เปิดเป็นพื้นที่ศิลปะหลังจากเข้าปรับปรุงกว่าห้าปี อาคาร Le Centquatre ในปัจจุบันเป็นสถานที่จัดงานศิลปะร่วมสมัยชั้นนำของยุโรป ครอบคลุมทุกรูปแบบเช่น ศิลปะการแสดงเต้นรำดนตรี, ละคร, ภาพยนตร์และวิดีโออาร์ต รวมทั้งคอนเสิร์ตร็อคในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ และในระหว่างวันทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับร้านอาหารคาเฟ่ , ร้านอาหาร, ร้านพิซซ่า นักช็อปมักชื่นชอบร้านวินเทจการกุศลที่ชื่อว่า Emmaüs และร้านหนังสือดีเยี่ยม Centquatre La Maison des Petits สถานที่คล้ายกับบ้านศิลปะสำหรับเด็กแรกเกิดถึงห้าปีและผู้ใหญ่ที่มาทำกิจกรรมด้วยกัน

10. ดูหนังกลางแปลงฟรี

ไม่มีอะไรจะเหมือนกับฤดูร้อนในเมืองที่ได้ดูหนังกลางแปลงที่คุณชื่นชอบ ในเมืองที่เป็นศูนย์กลางภาพยนตร์ไม่เคยสูญเสียสิ่งนี้ แค่คุณคว้าผ้าห่มพร้อมกระเป๋าปิกนิก แล้วตรงไปที่ Parc De La Villette, สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของกรุงปารีสที่มี Cinéma en Plein Air เจ้าภาพชุดภาพยนตร์หลายภาษา ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม และในตอนท้ายของเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม Paris's Forum des Images จะเป็นเจ้าภาพ Cinéma au Clair de Lune แนวภาพยนตร์คลาสสิก ที่จะฉายในสวนสาธารณะทั่วกรุงปารีส ทั้ง Montmartre และPlace des Vosges รวมไปถึง La Peniche Cinéma ที่ตั้งอยู่ในเรือ the Canal de l'Ourcq ใน the Parc de la Villette ที่เจ้าภาพเปิดให้ชมฟรี ทั้งภาพยนตร์และคอนเสิร์ต ในทุกวันศุกร์และวันเสาร์

11 เที่ยว LE PANTHÉON ( วิหารปง เต-อง)

วิหาร Panthéon สถานที่ฝังศพของผู้ทรงคุณวุฒิฝรั่งเศสเช่นวอลแตร์และรูสโซ จากปี 2014 จนถึงปี 2022 จากสถาปัตยกรรมโครงสร้างอันโดดเด่นจนได้รับว่าเป็นหนึ่งในโครงการบูรณะปฎิสังขรณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในฝรั่งเศส สำหรับการเปิดเข้าชมจะเริ่มในเดือน มีนาคม 2015 นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมกับทัศนียภาพที่งดงามที่สุดของกรุงปารีสจากใจกลางเมือง

12 อร่อยกับอาหารบริการฟรี

ถ้าอาหารมื้อพิเศษขึ้นอยู่กับงบประมาณ คุณจะไม่รู้สึกเช่นนั้นเมื่อรู้สึกหิวที่กรุงปารีส ในค่ำคืนที่ตราบใดยังมีเครื่องดื่มและอาหารกินฟรี Le Bouillon Belge มีรายการเบียร์ที่น่าประทับใจ และมีสิ่งดึงดูดด้วยค็อกเทลอย่างดีในราคาเหมาะสม มาพร้อมอาหารฟรีอย่างหอยแมลงภู่และมันฝรั่งทอด รื่นเริงได้ตลอดคืนศุกร์และเสาร์ และคืนวันพุธและวันพฤหัส คุณจะได้รับ moule-frite ฟรีตั้งแต่ 2 ทุ่มครึ่งเป็นต้นไป , Les Trois Frères มีอาหารเส้นบริการฟรี พร้อมกับอาหาร merguez , Le Penty ตั้งอยุ่ใกล้สถานที่ Place d'Aligre ดึงลูกค้าด้วยบริการ Kemia และ amuses-gueules ฟรี เรียกน้ำย่อยของคุณ

13 ฟังเพลงและฟรีคอนเสิร์ต

ว่ากันว่าดนตรีเป็นภาษาสากล ซึ่งสำหรับคริสตจักรมีรายการการแสดงคอนเสิร์ตตลอดทั้งปี โดยไม่มีอุปสรรคใดปิดกั้นในความบันเทิงนี้ได้ แม้ว่าคอนเสิร์ตคลาสสิกจำนวนมากต้องซื้อบัตรเข้าชม แต่ก็มีฟรีคอนเสิร์ตมากมายเช่นกัน เริ่มต้นด้วย the American Church ในกรุงปารีส จัดฟรีคอนเสิร์ตในคืนวันอาทิตย์มาตั้งแต่ปี 1930. เช่นเดียวกับมหาวิหาร Notre Dame ที่มีรายการ Gregorian chants, organ music และคอนเสิร์ตอื่น ๆตลอดทั้งปี ,Eglise de la Madeleine มีรายการผสมผสานทั้งการแสดงฟรีและซื้อบัตรเข้าชม รวมถึงโบสถ์อื่นๆ ที่มีดนตรีฟรี เช่น Église de la Trinité ใกล้กับ Gare Saint-Lazare , Église Saint-Eustache ที่ Les Halles , Église Saint-Roch ใกล้ the Palais Royal และ the Église Protestante Réformée de l'Oratoire du Louvre

14 หยุดเวลาที่ PALAIS ROYAL

สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงสง่างามของพระราชวังสมัยศตวรรษที่ 17 เหล่านี้ล้วนเป็นอัญมณีแท้จริงที่ซ่อนอยู่ the Palais- Royal's ภายใต้ความหรูหราอลังการ the Grand Véfour ร้านอาหารที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงปารีส ครั้งหนึ่งนโปเลียน Balzac, Proust, และ Colette เคยรับประทานอาหารค่ำ ปัจจุบัน Palais Royal ได้เปลี่ยนแปลงอย่างเงียบ ๆสู่ปลายทางด้านแฟชั่นอย่าง Stella McCartney, Marc Jacobs, และ Rick Owens กระทบไหล่กับแบรนด์หรูหราฝรั่งเศส เช่น น้ำหอม Serge Lutens ,ถุงมือ Maison Fabre , รองเท้า Pierre Hardy , แว่นตาที่ทำด้วยมือ Maison Bonnet , เครื่องเรือน Maison de Vacances และอีกมากมาย มีเลานจ์รอบน้ำพุสำหรับพักผ่อนอ่านหนังสือท่ามกลางพุ่มไม้กุหลาบด้วย

15 นั้งเลานจ์เล่นที่ PLACE DES VOSGES

ในหัวใจของเมือง Marais มี Place des Vosges สถานที่ชื่นชอบของหนุ่มสาวกรุงปารีสกับ lounge ในวันรื่นรมย์ ล้อมรอบไปด้วยอิฐสง่างามและผนังหินปูนต้นพระราชวังสมัยศตวรรษที่ 17 เป็นสวนสาธารณะเปิดกว้าง มีลานน้ำพุและทางเดินเล่น เสมือนเป็นโอเอซิสกลางใจแหล่งช็อปสุดชิค shopping Mecca ล้อมรอบด้วยหอศิลป์และร้านกาแฟ สถานที่พักผ่อนดื่มเครื่องดื่มและสัมผัสโลกหมุนไปอย่างช้าๆ

16 เดินเล่นไปตาม THE CANAL ST-MARTIN

เดินเล่นใต้ลานร่มไม้และสะพานข้ามคลองเซนต์มาร์ตินที่งดงาม เป็นความสุขที่แท้จริงของกรุงปารีส คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมปิกนิกหรือรับประทานอาหารที่คาเฟ่ริมคลอง รวมทั้งถนนสายอื่น ที่ไม่ควรพลาด เช่น ทางด้านทิศตะวันตกของคลองมี Rue Des Vinaigriers ปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบร้านกาแฟเบเกอรี่เก๋ไก๋, rue Marseille, และ rue de Lancry สำหรับการช็อปแสนยอดเยี่ยม และ Rue Lucien Sampaix สำหรับการผสมผสานของทั้งสอง ด้านตะวันออกของคลองมี Rue De La Grange โบสถ์ขนาดเล็กน่ารักต้นศตวรรษที่ 17 และเป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ก่อตั้งขึ้นโดยเฮนรีที่สี่ในปี 1607 นี้คือหนึ่งในโรงพยาบาลที่เก่าแก่ที่สุดของปารีสและสถานที่แสนน่ารักสำหรับการเดินเล่น

17 ออกกำลังกายกันที่ THE BERGES DE SEINE

ด้านทิศใต้ของแม่น้ำแซน (Seine ) ขยายพื้นที่ไปตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ออร์แซ( the Musée d'Orsay) ตลอดเส้นทางไปสู่ the Pont de l'Alma มี the new Berges de Seine ไว้ตอบสนองหลากหลายกิจกรรมฟรีสำหรับทุกเพศทุกวัย เดินเล่น , วิ่ง หรือจักรยาน ไปพร้อมกับชมวิวริมแม่น้ำของกรุงปารีส พร้อมกับสวนทางเดิน , คาเฟ่, เกมและพื้นที่จัดงาน les Berges มีชุดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งชั้นเรียนการออกกำลังกายกลางแจ้งพร้อมโค้ช เช่น วิ่ง ,กระโดดเชือก ,โยคะ ,เดินนอร์ดิก, สกี, มวย, แม้กระทั่งการฝึกอบรมฟรีส่วนบุคคล ในช่วงฤดูร้อน ยังมีฟรีคอนเสิร์ตและภาพยนตร์กลางแจ้งอีกด้วย

18 ประหลาดใจไปกับสวนสาธารณะ

การไปเยือนปารีสครั้งนี้จะไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่ได้ไปเดินเล่นสบายอารมณ์ในสวนสาธารณะในกรุงปารีสอย่าง Jardin du Luxembourg ที่มีสวนเขียวชอุ่ม และบึงน้ำร่มรื่น (เด็กฝรั่งเศสชอบแล่นเรือเล่น), สนามเทนนิส และสวนผลไม้ มีพื้นที่วิ่งเล่นมากมายสำหรับเด็กทุกเพศทุกวัย มีโรงละครหุ่น Guignol , ม้าหมุนที่เก่าแก่ที่สุดของปารีสและอื่น ๆ อีกมากมาย ในเขตที่ห้าของกรุงปารีส ถือได้ว่า Jardin Des Plantes เป็นสวนพฤกษศาสตร์หลักของฝรั่งเศสกับพืชที่แปลกใหม่และสมุนไพรจากทั่วโลก ท่ามกลางทางเดินสีเทาน่ารักและชมเพลินกับสวนดอกไม้, เรือนกระจกประวัติศาสตร์ ,พิพิธภัณฑ์สัตว์และพืชดึกดำบรรพ์ Musée de l'Histoire Naturelle

19 ออกสำรวจ PARIS'S VINEYARDS

gmhe Fête des Vendanges de Montmartre จะเกิดขึ้นทุกเดือนตุลาคม เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวองุ่นที่ Clos Montmartre คุณสามารถเพลิดเพลินกับไร่องุ่นที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงปารีสโดยการเดินเล่นใน Rue Des Saules และ Vertiginous Parc de Belleville พบทัศนียภาพที่งดงามของเมืองพร้อมกับสวนองุ่น Pinot Meunier และองุ่น Chardonnay ปลูกในปี 1992 เป็นแนวสวยงามของสวนระเบียง ตอนนี้ the Vignerons ผลิตกุหลาบแห้งจากการเก็บเกี่ยวของ Belleville ที่สามารถพบได้ในร้านค้าไวน์ใกล้เคียง

20 เดินชม THE PROMENADE PLANTÉE

แรงบันดาลใจจากนครนิวยอร์ก ความสวยงามนี้ทอดยาว 4.5 กิโลเมตร (2.8 ไมล์) เป็นทางเดินยกระดับสามชั้นเหนือถนนปารีสยื่นออกมาจาก Place de la Bastille ไปสู่Bois de Vincennes สร้างขึ้นในปี 1988 บนสะพานโค้งสง่างาม ตอนนี้ลักษณะคล้ายเป็นบ้านหอศิลป์และสตูดิโอ Viaduc des Arts ความเขียวชอุ่มสวนและต้นไม้ที่สามารถใช้เวลาเดินเล่นมองเล่นระดับสายตาผ่านสถาปัตยกรรมที่อุดมชุ่มชื่นของเมือง กลายเป็นเมืองสวรรค์ เป็นเส้นทางที่ชื่นชอบสำหรับการเดินเล่น ที่มา : www.huffingtonpost.com