คุณผู้อ่านเห็นด้วยไหมครับว่า ประเทศญี่ปุ่นนั้น เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินของนักเดินทางที่ใครๆ ก็อยากไปเยือนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะตอนบนของประเทศอย่างเกาะ “ฮอกไกโด” ที่ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนที่นี่ก็สวยงามอยู่เสมอ ด้วยความโดดเด่นของแต่ละช่วงฤดูกาล ไม่ว่าจะหนาวหรือร้อน ใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วง แต่อากาศที่ฮอกไกโดก็ยังคงความบริสุทธิ์ไม่เปลี่ยนแปลง ทองฟ้ายังคงเป็นสีฟ้าใส ส่วนสีสันของดอกไม้บนภูเขาสูงแม้จะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามฤดูกาลที่ผันแปร แต่ธรรมชาติก็ยังใจดีกับดินแดนแห่งนี้โดยมอบสิ่งอื่นทดแทนให้ในแต่ละช่วงฤดูกาล



สำหรับใครที่วางแผนเอาไว้ว่าอยากจะไปเที่ยวฮอกไกโดสักครั้ง แต่ติดปัญหาตรงที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปในช่วงฤดูไหนดี เพราะคนส่วนใหญ่เมื่อคิดถึงฮอกไกโด ก็มักจะนึกถึงหิมะสีขาวโพลน หรือไม่ก็ดอกไม้บานหลากสีสัน ทั้งที่ความจริงแล้ว เสน่ห์ของฮอกไกโดนั้นมีอยู่ทุกฤดู โดยสถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโดที่น่าสนใจ เมื่อไปถึงฮอกไกโดแล้วควรไปเที่ยวที่ไหนอย่างไรดี วันนี้มัชรูมทราเวลมีคำตอบมาฝากทุกท่านแน่นอน

อบอุ่น ผ่อนคลาย สบายใจที่ “โนโบริเบทสึ”

หลังจากต้องเดินทางติดต่อกันหลายชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนฮอกไกโดหลายๆ ท่านคงรู้สึกอ่อนเพลียเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไม่น้อย ดังนั้นสถานที่แรกที่มัชรูมทราเวลอยากจะขอแนะนำก็คือ เมืองโนโบริเบทสึที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งออนเซนนั่นเอง โดยทั่วไปโรงแรมในเมืองแห่งนี้ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็จะมีออนเซนไว้บริการแขกผู้เข้าพักด้วย ส่วนออนเซนที่มีชื่อเสียงของที่นี่ก็มีที่โรงแรมไดอิจิ ทาคิโมโตะกัง เป็นต้น ซึ่งที่นี่ก็บ่อน้ำพุร้อนให้เลือกแช่ได้ถึง 7 แบบด้วยกัน ทั้งนี้สำหรับใครที่ไม่ได้พักที่ไดอิจิ ทาคิโมโตะกังก็สามารถมาใช้บริการได้เช่นกัน แต่ต้องเสียค่าบริการ 2,000 เยน หรือหากมาในช่วงเวลา 16.00 น. ขึ้นไป ก็จะเหลือแค่ 1,500 เยนเท่านั้น

“จิโกกุดานิ” ที่นี่มีลิงแช่ออนเซน

เมื่อมาถึงเมืองโนริเบทสึ นอกจากกิจกรรมแช่ออนเซนเพื่อผ่อนคลายความเครียดแล้ว อีกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราไม่ควรพลาดก็คือหุบเขานรกจิโกกุดานิ ที่มีจุดเด่นด้วยสภาพอากาศที่มีหิมะปกคลุมถึง 1 ใน 3 ของช่วงเวลาตลอดทั้งปี อีกทั้งสภาพภูมิประเทศยังเต็มไปด้วยโขดหิน มีน้ำพุและโคลนร้อนพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินอยู่ตลอดเวลา ส่วนไฮไลท์เด็ดของที่นี่ที่น่ารักสุดๆ ก็คือเจ้าลิงหิมะที่อาศัยอยู่แถบนี้กว่า 200 ตัว จนกลายเป็นอุทยานลิงหิมะขนาดใหญ่ ที่วันดีคืนดีพวกมันก็จะพากันยกโขยงมาแช่บ่อออนเซนเหมือนกับมนุษย์กันเลยทีเดียว ที่สำคัญเจ้าลิงพวกนี้ยังนิสัยดีและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวด้วย โดยเราสามารถถ่ายรูปขณะที่พวกมันแช่น้ำพุร้อนอย่างสบายตัวได้เลยล่ะครับ

“ทะเลสาบโทยะ” ความสวยงามของธรรมชาติดุจดังภาพวาดที่มีชีวิต

มาเที่ยวฮอกไกโดทั้งที หากพลาดทะเลสาบโทยะ ก็อาจเรียกได้ว่าคุณยังมาไม่ถึงฮอกไกโดอย่างแท้จริง โดยโทยะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองโทยะ ที่มีชาติกำเนิดมาจากปากปล่องภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งมีความพิเศษไม่เหมือนใครคือ ในขณะที่แม่น้ำอื่นๆ ในช่วงฤดูหนาวจะกลายเป็นน้ำแข็ง แต่น้ำในทะเลสาบโทยะนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ส่วนช่วงหน้าร้อนอากาศที่นี่ก็เย็นสบาย ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยว โดยบางรายก็มาตั้งแคมป์พักผ่อนริมทะเลสาบก็มี และอีกหนึ่งไฮไลท์ของทะเลสาบแห่งนี้ก็คือ ในช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงปลายเดือนตุลาคม จะมีการแสดงพลุไฟในเวลา 20.45 น. ทุกคืน นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งค่ะ นอกจากนี้เมื่อเราถ่ายภาพของทะเลสาบโทยะ จะสังเกตเห็นเกาะเล็กๆ ใจกลางทะเลสาบ นั่นเป็นเกาะที่มีชื่อว่านากาจิมะ เราสามารถไปเที่ยวที่เกาะได้ ยกเว้นในช่วงฤดูหนาว

โรแมนติก “โอตารุ”

โอตารุ คือเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองซัปโปโรมากนัก แต่ถึงโอตารุจะเป็นเมืองเล็กแต่เสน่ห์ของที่นี่กลับไม่เล็กตามขนาดของเมือง เพราะโอตารุนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดในฮอกไกโดเลยทีเดียว โดยมีจุดไฮไลท์ประจำเมืองคือคลองโอตารุน้ำใสแจ๋วที่มีความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร รวมถึงร้านรวงต่างๆ และบรรดาพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่สองฝั่งคลองนั่นเอง แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าทั้งร้านค้าและพิพิธภัณฑ์ของที่นี่มีความพิเศษซึ่งแตกต่างจากร้านทั่วๆ ไปที่เราคุ้นเคยอย่างแน่นอน เพราะว่าทั้งหมดปรับปรุงจากโกดังสินค้าในอดีตที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมคลองนั่นเอง ที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ริมคลองโอตารุจะถูกตกแต่งประดับประดาด้วยบ้านและตุ๊กตาหิมะและจุดเทียนโคมตลอดสองริมน้ำ ยิ่งเพิ่มความสวยงามโรแมนติกให้กับเมืองเล็กๆ แห่งนี้มากขึ้น

“ซัปโปโร” ความสมบูรณ์แบบแห่งฮอกไกโด

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่จะลืมไม่ได้เลยสำหรับฮอกไกโด และอาจเรียกได้ว่าเมืองแห่งนี้คือขวัญใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็ว่าได้ นั่นก็คือซัปโปโร เมืองที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโดนั่นเอง ซึ่งที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไพศาล สมบูรณ์แบบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนโอโดริที่มีเหล่าพันธุ์ไม้และแปลงดอกไม้แต่งแต้มสีสันฤดูกาลทั้ง 4 ให้น่าหลงใหล, ภูเขาโมอิวะที่ปกคลุมไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์และยังมีจุดชมวิวที่งดงามเกินห้ามใจให้ได้ชม, อิชิยามะกรีนสเปซ สวนศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ส่วนตัวไม่มีใครเหมือน, ทะเลสาบชิโคสึ ดินแดนสวรรค์สำหรับคนรักนก, ซัปโปโรโจซันเค เนเจอร์วิลเลจ สถานที่ตั้งแคมป์สุดเพอร์เฟคสำหรับผู้รักการผจญภัย เป็นต้น นอกจากนี้เมืองซัปโปโรยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งธรรมชาติอีกมากมายหลายแห่งซึ่งรอนักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสด้วยตนเอง เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโด ขอบอกไว้ก่อนว่านี่แค่น้ำจิ้มเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เพราะหากท่านมีโอกาสไปสัมผัสด้วยตัวเองแม้เพียงสักครั้ง จะรู้เลยว่า แม้ท่านจะเคยเห็นฮอกไกโดผ่านภาพถ่ายที่ดีที่สุดและสวยที่สุดมาเป็นล้านๆ ครั้ง ก็เทียบไม่ได้เลยกับภาพของฮอกไกโดที่สัมผัสด้วยสายตาของท่านแม้เพียงครั้งเดียว

Source: มัชรูมทราเวล

ขอบคุณข้อมูลจาก : Travel MThai