มอง "สามย่าน" ฉายศักยภาพทำเลที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
ถ้าพูดถึง“สามย่าน” ภาพแรกที่ทุกท่านนึกถึงเป็นอันดับแรกก็คือ ศูนย์รวมสถานศึกษาชั้นนำของประเทศอย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ศูนย์กวดวิชาชั้นนำ และ “สยามสแควร์” แหล่งรวมตัวพบปะสังสรรค์ของเหล่าวัยรุ่น ศูนย์กลางการแนะนำเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด ในอีกด้านหนึ่งสามย่านยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของคนเมืองมาอย่างยาวนาน เป็นศูนย์รวมอาหารการกินอร่อยๆ มากมาย พร้อมเชื่อมต่อกับ “สีลม-สาทร” ซึ่งคือย่านศูนย์กลางทางธุรกิจหรือแหล่งงานขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ขณะนี้ทำเลสีลม-สาทร มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างเต็มพื้นที่แล้ว หากมองในแง่ของการขยายตัวของเมืองไปตามประโยชน์การใช้ที่ดิน จึงคาดการณ์ได้ว่า “สามย่าน” จะกลายเป็นอีกย่านหนึ่งที่น่าจับตามอง ด้วยความเจริญที่กำลังเข้ามาทั้งจากแผนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของทางจุฬาฯ และทางกลุ่ม TCC LAND สองพลังสำคัญที่จะร่วมมือกันพลิกโฉมสามย่านให้มีความเจริญตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ
ปี 2558 กระแสการพัฒนาอสังหาฯ บริเวณ “สามย่าน และ ราชดำริ” เริ่มเป็นที่กล่าวถึงในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น TerraBKK Research จึงสนใจหยิบยกทำเล “สามย่าน” เพื่อสำรวจถึงศักยภาพของทำเลย่านนี้ว่ามีศักยภาพและโอกาสที่จะเจริญขึ้นมากน้อยเพียงใด?
สามย่าน เป็นทำเลที่อยู่ในเขตบางรัก เชื่อมต่อกับเขตปทุมวัน เขตสาทร และเขตสัมพันธวงศ์ ปัจจุบันบริเวณย่านนี้ล้วนแต่เป็นพื้นที่เพื่อการพาณิชย์แทบทั้งสิ้น ประกอบด้วย ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อาคารสำนักงานเกรด A, B ศูนย์การเรียนรู้ทั้งมหาวิทยาลัย โรงเรียนชั้นนำ และศูนย์กวดวิชาที่มีชื่อเสียง เมื่อเราดูผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครเราจะเห็นถึงศักยภาพของผังเมืองที่เอื้อประโยชน์ให้กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างยิ่ง เพราะจัดอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ (สีแดง) และเป็นพื้นที่สำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย (สีฟ้า)
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
TerraBKK Research สำรวจพบว่า ทำเลสามย่าน เขตบางรัก เป็นทำเลที่อยู่ระหว่างย่านศูนย์กลางธุรกิจกับย่านที่อยู่อาศัยชุมชนดั้งเดิม ที่มีลักษณะเป็นห้องแถว ตึกแถว ดังนั้นการใช้ชีวิตหรือการอยู่อาศัยในทำเลนี้ จึงค่อนข้างสะดวกสบายมาก ทั้งใกล้แหล่งงาน อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ แหล่งช๊อปปิ้งหลากหลายรองรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนทุกระดับในสังคม ที่มากกว่านั้นทำเลนี้คือศูนย์รวมสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย โรงพยาบาลจุฬาฯ ที่พร้อมให้บริการระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารชื่อดังของคนไทยเชื้อสายจีน และอาหารนานาชาติด้วย
การเดินทางก็สะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน และลอยฟ้า เนื่องจากติดทั้งสถานีรถไฟฟ้า MRT สามย่าน , MRT สีลม และ BTS ศาลาแดง ทำให้เวลาเร่งด่วนสามารถใช้รถไฟฟ้าเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว และการเดินทางด้วยรถยนต์ก็สะดวกมากเพราะถนนพระราม 4 เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อทางด่วน2 เส้นทาง ได้แก่ ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร และข้อดีที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตในมหานครกรุงเทพ คือการเดินทางด้วยรถยนต์ ที่ไม่ต้องขับรถขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจากฝั่งธนบุรี เพื่อเข้ามาทำงานในย่านสีลม-สาทร ทำให้หลีกเลี่ยงปัญหารถติดหรือลดเวลาการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนได้อย่างดีเยี่ยม
ศูนย์รวมอาหารทุกประเภท เรื่องอาหารการกินแสนสะดวกสบายหากอาศัยในย่านนี้ เนื่องจากสามย่านเป็นชุมชนเก่าจึงมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกทานมากมายทั้งแบบรสชาดดั้งเดิมทั้งอาหารไทย อาหารจีน และอาหารนานาชาติ เพราะใกล้ตลาดสามย่าน ตลาดเยาวราช “China Town” และ สีลม-สาทร
ปอด คนเมือง รองรับกิจกรรมกลางแจ้ง ด้วยพื้นที่สีเขียว และสถานที่พักผ่อนออกกำลังกาย ขนาดเนื้อที่รวมกันมากกว่า 600 ไร่ ได้แก่ สนามกีฬาจุฬาฯ สวนลุมพินี และสนามม้าราชดำริ พร้อมสำหรับกิจกรรมการออกกำลังกาย ทั้ง การวิ่ง การปั่นจักรยาน สนามเทนนิส และสนามฟุตบอล เป็นต้น
ด้วยความสมบูรณ์พร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวก และการเดินทาง “สามย่าน” จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่มากที่สุดในวันนี้
การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ในพื้นที่ (PROJECT IN SAMYAN) 1.การพัฒนาสู่ “ย่านการค้า”(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
สามย่าน : การพัฒนาโครงการของสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
ในช่วงที่ผ่านมาที่ดินหลายแปลงได้หมดสัญญาเช่ากับทางจุฬาฯทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ทั้งเปลี่ยนมือผู้เช่า มีการปรับพื้นที่ใหม่ทุบอาคารพาณิชย์เก่าเกือบทั้งหมด รวมถึงพื้นที่ที่ส่วนราชการ สถานีตำรวจ สถานีดับเพลิง ศูนย์บริการสาธารณสุข เป็นต้น เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาใหม่หลายโครงการ เช่น ห้างสรรพสินค้าแนวราบ สวนสาธารณะ ศูนย์ราชการรวมถึงการทยอยปรับปรุงพื้นที่ฝั่งสยามฯเช่นดียวกัน มีรายละเอียดโครงการ ดังนี้
- Chamchuri Square ประกอบด้วยอาคาร 3 หลัง 1. อาคารสำนักงาน 40 ชั้น 2. อาคารพักอาศัย 24 ชั้น 3. อาคารส่วนฐาน 4 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น)
- ZY Walk บริเวณหมอน 42 บนที่ดินกว่า 10 ไร่ Concept เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านค้า และมีที่อยู่อาศัยด้านบนอาคาร สถาปัตยกรรมแบบจีน ปัจจุบันกำลังก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 2558 และ I’m Park เป็น Community Mall แห่งเดียวในสามย่าน พื้นที่มากกว่า 20,000 ตารางเมตร
- Siam Square พัฒนาใหม่หมด ประกอบด้วย Digital Gateway (Renovate) เตรียมใช้งบ 150 ล้านบาท ปรับ Concept ใหม่เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 15-25 ปี ด้วยการจำหน่ายเครื่องสำอาง และ Gadget ต่างๆ
- Siam Square One (SQ-1) ศูนย์การค้าที่รวมถนนทุกสายแฟชั่นมาไว้ที่นี่ พื้นที่กว่า 8 ไร่ รูปแบบของถนนช้อบปิ้งแนวตั้ง 7 ชั้น หรือ "Urban Shopping Streets" โรงหนังลิโด หมดสัญญาเช่าจะพัฒนาเป็นศูนย์การค้าเฟส 2 เปลี่ยนพื้นที่ฝั่งสยามสแควร์จากแหล่งช็อปปิ้งแนวราบมาเป็นแหล่งช็อปปิ้งแนวสูง
- อาคารสยามกิตติ์ ตั้งอยู่จุฬาฯ ซอย 7 ผู้เช่าหลักเป็นโรงเรียนกวดวิชาเป็นส่วนใหญ่โครงการในระยะที่สองชื่อโครงการ Block L Phase 2 โครงการจะทำเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวครึ่ง–4 ดาวมีจำนวนห้องพัก 400 ห้อง
- โครงการหมอน 21-22 มีพื้นที่โครงการ 13 ไร่ 1 งาน 47.5 ตารางวา ร่วมทุนกับบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
- โรงแรมระดับ 3 สูง 30 ชั้น ประมาณ 400 ห้อง มีพื้นที่อาคาร 30,000 ตารางเมตร
- สำนักงานให้เช่าและศูนย์การเรียนรู้สำหรับนิสิตจุฬาฯ สูงประมาณ 35 ชั้น มีพื้นที่อาคาร 30,000 ตารางเมตร
- พื้นที่ค้าปลีก 4 ชั้น มีพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร พื้นที่รวมประมาณ 50,000 ตารางเมตร
- CU Terrace เป็นอาคารที่พักอาศัยสำหรับบุคลากรและบุคคลทั่วไป ประเภท 1-2 ห้องนอนขนาดห้องพักประมาณ 28-55 ตารางเมตร จำนวน 510 ยูนิตอาคารสูง 22 ชั้น ส่วน CU iHouse เป็นอาคารที่พักอาศัยสำหรับนิสิตนานาชาติ ขนาดห้องพักประมาณ 24 ตารางเมตร จำนวน 846 ยูนิต อาคารสูง 26 ชั้น ทั้งสองโครงการตั้งอยู่บริเวณสวนหลวง ระหว่างถนนจุฬาซอย 7-9 ใกล้รั้วบริเวณธรรมสถาน
- โครงการอุทยานจุฬาฯ 100 ปี ขนาดใหญ่บนที่ดิน 20 ไร่เติมเต็มพื้นที่สีเขียวให้เป็นปอดแห่งใหม่กรุงเทพมหานคร และโครงการถนนจุฬา 100 ปี ขยายถนนจุฬาซอย 5 ให้กว้างขึ้นจาก 15 เมตร เป็น 30 เมตร
สยาม-ราชดำริ : การพัฒนาโครงการบนที่ดินของสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
- Siam Discovery เตรียมใช้งบ 4,000 ล้านบาท Renovate ครั้งใหญ่ ตั้งแต่ 6 พฤษภาคม 2558 เปิดอีกครั้งต้นปี 2559
- Siam Center ได้ Renovate ครั้งใหญ่แล้วเสร็จเมื่อปี 2556 ด้วยเงินลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท
- Siam Paragon โครงการที่ถูกสร้างขึ้นด้วยงบประมาณกว่า 15,000 ล้านบาท มีพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยร้านค้าชั้นแนวหน้าของไทยและอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 250 ร้านค้า
- Central World มีแผน Renovate ครั้งใหญ่ช่วงปี 2559 พร้อมกับดึงผู้เช่าระดับ World Class ร่วมด้วย
- Gaysorn Plaza ได้ดำเนินการ Renovate ครั้งใหญ่ด้วยเงินลงทุน 400 ล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนร้านอาหาร 30% และมีแผนผุด Gaysorn 2 เงินลงทุน 5,800 ล้านบาท เนื้อที่กว่า 63,000 ตารางเมตร
- ที่ดินสวนลุมไนท์พลาซ่า คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้ประมูล ที่ดินขนาด 88 ไร่ บน ถนนพระราม 4 แล้วเสร็จ ด้วยสัญญาเช่า 30 ปี ต่อ 30 ปี มีแผนที่จะผุดโครงการมิ๊กซ์ยูสบริเวณนี้มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ประกอบไปด้วยโรงแรม ศูนย์การค้า สำนักงาน ศูนย์การศึกษา และศูนย์วัฒนธรรม
โครงการของภาครัฐ Monorail อำนวยความสะดวกสบายให้คนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น
- Monorail รอบจุฬาฯตั้งแต่ถนนพระราม 1 ถึง พระราม 4 ขณะนี้ยังอยู่ในแผน แบ่งเป็น 3 ระยะ
- ระยะแรก 6 สถานี 4 กิโลเมตร สถานีเฉลิมเผ่า สยามสแควร์ ปทุมวัน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสามย่าน
- ระยะสอง เพิ่ม 3 สถานี บริเวณสามย่าน (จุฬา ซอย 5 และจุฬา ซอย 12) คือ สถานีตลาดสามย่าน บรรทัดทอง และจุฬา ซอย 12
- ระยะสาม เพิ่ม 2 สถานี คือ สถานีสภากาชาดไทย และราชกรีฑาสโมสร
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
TerraBKK Research ได้ลงสำรวจอุปทานคอนโดมิเนียมในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา บริเวณ สามย่าน-พระราม4, ราชดำริ, สีลม-นราธิวาส สามารถแบ่งประเภทการพัฒนาคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ ได้เป็น 2 รูปแบบการถือครองกรรมสิทธิ์
- Lease Hold Condominium ในย่านนี้เป็นลักษณะของการเช่ากรรมสิทธิที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือสำนักงานทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เพื่อทำประโยชน์ในที่ดินเป็นระยะเวลา 30 ปี (มีการต่อสัญญาทุกๆ 30 ปี ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละโครงการ) จากการสำรวจพบว่า คอนโดมิเนียมในรูปแบบนี้จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ระดับ Super Luxury ที่เน้นความหรูหรา รองรับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเป็นหลัก ขนาดพื้นที่ใช้สอยห้องชุด ตั้งแต่ 50 - 360 ตารางเมตร ราคาขาย 78,000 - 250,000 บาท/ตร.ม. หรือราคาเฉลี่ย 170,000 บาทต่อตารางเมตร
- Free Hold Condominium คืออาคารชุดพักอาศัยที่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ หรือมีโฉนดห้องชุดนั่นเอง คอนโดมิเนียมมีความหลากหลายมาก มีตั้งแต่ Luxury Condominium จนถึงระดับ Super Luxury รองรับผู้ซื้อทั้งเพื่อการอยู่อาศัย และการลงทุน ขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 30 – 863 ตารางเมตร ราคาขาย 120,000 - 340,000 บาทต่อตารางเมตร หรือราคาเฉลี่ย 220,000บาทต่อตารางเมตร
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
รายละเอียดการพัฒนา ในแต่ละทำเล ดังนี้
- ทำเลสามย่าน-พระราม4 คอนโดมิเนียมในทำเลนี้ เป็นระดับ Middle-High จนถึง Super Luxury ส่วนใหญ่เป็น Free Hold Condominium เหมาะกับการอยู่อาศัย เพราะใกล้แหล่งงาน การศึกษา โรงพยาบาล และใกล้รถไฟฟ้า ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 40 – 230 ตารางเมตร ราคาขายตั้งแต่ 78,000 – 250,000 บาทต่อตารางเมตร หรือราคาเฉลี่ย 170,000 บาทต่อตารางเมตร และล่าสุดเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา มีโครงการเปิดใหม่ คือ Asthon Chula-Silom (Free Hold Condominium) ระดับ Super Luxury ราคาขายเฉลี่ย 210,000 บาทต่อตารางเมตร
- ทำเลราชดำริ คอนโดมินียมในทำเลนี้ เป็นโครงการระดับ Super Luxury ที่ดินส่วนใหญ่ในบริเวณนี้เป็นที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โครงการขนาดใหญ่ในทำเลนี้จึงเป็น Lease Hold Condominium คือมีระยะเวลาเช่า 30 ปี มีราคาตั้งแต่ 140,000 – 250,000 บาท หรือราคาเฉลี่ย 200,000 บาทต่อตารางเมตร แต่มีเพียงบางโครงการเท่านี้ที่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน หรือ Free Hold Condominium ดังนั้นโครงการรูปแบบ Free Hold ในทำเลนี้มีราคาสูงถึง 300,000 บาทต่อตารางเมตร ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50 - 863 ตร.ม. โครงการเปิดใหม่ ได้แก่ Sindhorn Residence (Lease Hold)ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 210,000 บาทต่อตารางเมตร และ Nimit Langsuan (Free Hold) ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 300,000 บาทต่อตารางเมตร
- ทำเลสีลม คอนโดมินียมในทำเลนี้ ส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับ Luxury จนถึง Super Luxury โครงการในทำเลนี้เป็น Free Hold Condominium พบห้องชุดขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 40-850 ตร.ม. ราคา 140,000 – 340,000 บาทต่อตารางเมตร หรือราคาเฉลี่ย 200,000 บาทต่อตารางเมตร ย่านสีลม เป็นย่านการค้าและธุรกิจของเมืองไทย ที่มีการเจริญเติบโตอย่างมากแล้วจึงหาที่ดินสำหรับขึ้นโครงการใหม่ได้ยากมากๆ ดังนั้นในช่วงปี 2556-2557 จึงไม่มีโครงการเปิดใหม่ และล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2558 ค่าย SC Asset เปิดตัวคอนโดมิเนียมหรู จับลูกค้าระดับบน Saladaeng One (Free Hold) ด้วยราคาขายเริ่มต้น 250,00 บาทต่อตารางเมตร
“สามย่าน” จากทำเลที่หลับใหลมานาน ถูกเปิดหน้าดินพัฒนาคอนโดมิเนียมตึกแรกโดย บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โครงการ The Room พระราม 4 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากขายหมดตั้งแต่รอบ Pre-Sales ตามด้วย บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ เปิดตัว Ideo Q จุฬาฯ - สามย่าน ยอดจอง Pre-Sales 100% เช่นกัน และต้นปี 2558 ที่สร้างความฮือฮามากสุด ต้องยกให้ Ananda ที่เปิดจอง Ashton จุฬา – สีลม วันเดียวสามารถทำยอด Pre-Sales ถึง 70% พร้อมกลุ่มลุกค้าเข้าแถวลงทะเบียนตั้งแต่ตี 5 และล่าสุดกับ Nimit Langsuan ที่ประกาศยอดจองเกือบ 100% จากที่เปิดขาย และต่อจากนี้คงต้องรอดูอีก 1 โครงการของ "Chula & TCC ณ ตลาดสามย่านเก่า" ว่าจะร่วมมือกันจัดสรรพื้นที่ดังกล่าวอย่างไร? แน่นอนหากเป็นคอนโดมิเนียมคงยากที่จะเป็น “Free Hold” และหากลงพื้นที่สำรวจริมถนนพระราม 4 มุ่งหน้าสู่หัวลำโพง ยังมีพื้นที่รอการกว้านซื้อเพื่อพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมอีกไม่เกิน 3 แปลง
ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่มีความชัดเจน ในฐานะผู้ซื้อจึงมีอำนาจต่อรองสูง TerraBKK ฝากไว้ ในการเลือกซื้อคอนโดต้องระบุให้ชัดเจนว่าท่านซื้อเพื่ออะไร “เพื่ออยู่อาศัย” หรือ “เพื่อลงทุน” เพราะการพิจารณานั้นแตกต่างกันอยู่ เพื่อมุ่งสู่การครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นทรัพย์ทวีค่าสูงสุดในอนาคต ท่านต้องวิเคราะห์และวางแผนอย่างเป็นระบบ
คอนโดมิเนียมมือสองในกรุงเทพ ไม่ได้มีแนวโน้มราคาถูกลงแต่กลับเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 4%
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
จากการที่ TerraBKK Research รวบรวมคอนโดมิเนียมมือสองตั้งแต่ปี 2524 จนถึงปี 2556 พบว่าอายุอาคารไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติให้ราคาห้องชุดถูกหรือแพงกว่ากันเลย ดังนั้นความเชื่อที่ว่าคอนโดเก่าที่สร้างมานานแล้วมีแนวโน้มที่มูลค่าจะลดลงเมื่ออาคารเก่ามากๆนั้น คงไม่เป็นความจริง และพบว่าคอนโดมิเนียมมือสองส่วนใหญ่ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 4% ในบางทำเลปรับตัวสูงขึ้นไล่ตามราคาคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในทำเลเดียวกัน
Tip 1 สำหรับผู้กำลังเจรจาต่อรองราคากับผู้ขายอยู่นั้น ประเด็นเรื่องการเป็นอาคารโครงสร้างเก่ามานานแล้ว คงไม่สามารถทำให้ผู้ขายยอมใจอ่อนลดราคาลงได้
Tip 2 สำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจที่จะซื้อคอนโดมือสอง คงจะเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นว่าโดยภาพรวมแล้วราคาคอนโดมือสอง มีการปรับตัวขึ้นทั้งหมด
* รวบรวมข้อมูลราคาเฉลี่ยเลขคณิต (Mean) ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2557 จากทรัพย์ประเภทห้องชุดที่ประกาศขายใน TerraBKK เท่านั้น ซึ่งเป็นคอนโดทั่วทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล ไม่ได้เจาะจงไปที่ทำเลใดทำเลหนึ่ง - เทอร์ร่า บีเคเค
บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้ TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก