7 เทคนิคซ่อมแซมบ้านก่อนขายให้ได้ราคาดี
ไม่ว่าใครที่กำลังขายบ้านย่อมต้องอยากขายบ้านให้เร็วที่สุดและราคาดีที่สุดไปพร้อมๆกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรการขายบ้านย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่กำลังเป็นที่นิยม หรือสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่อาศัย ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่อีกสิ่งที่จะช่วยทำให้บ้านของท่านขายได้ราคา และเป็นสิ่งที่ท่านเองก็สามารถลงมือทำเองได้คือ “การปรับปรุงซ่อมแซมก่อนขาย” ที่หลายคนชอบมองข้ามเรื่องนี้ไป คงไม่มีใครอยากจะซื้อบ้านที่มีตำหนิ หรือหากลูกค้าสนใจก็จะถูกต่อรองจนราคาต่ำ
TerraBKK Research แนะนำเทคนิคในการซ่อมแซมบ้านเพื่อให้ขายได้ราคาและเป็นที่ถูกใจเมื่อลูกค้ามาดูบ้านไว้ 10 ข้อ ดังนี้
1. สภาพภายนอกน่ามอง ความประทับใจแรกของผู้มาซื้อบ้านคือสภาพหน้าบ้านที่น่ามอง ตรวจดูสภาพโดยรอบว่าสีภายนอกหลุดล่อนหรือซีดจนไม่น่ามองหรือไม่ ควรทาสีให้ใหม่และดูดี เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ซื้อเมื่อเข้ามาชมบ้าน แต่หากบ้านไหนมีสวนหย่อมอยู่ในบ้านก็ไม่ควรตกแต่งจนเกินพอดี เช่น หาของตกแต่งหรูๆสวยๆมาประดับ เพราะจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ดังนั้นจึงควรตกแต่งแต่พอดี แค่พอเรียบร้อย ไม่มากจนเกินไป
2. ปรับปรุงห้องครัว นับว่าเป็นห้องที่มีการใช้งานหนักที่สุดของบ้านก็ว่าได้ เพราะทุกบ้านก็ต้องทำกับข้าว เตรียมอาหารกันในห้องนี้ ซึ่งต้องมีการเลอะเทอะเป็นธรรมดา หรือบางทีอาจจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดอยู่ด้วย เช่น คราบน้ำมันตามผนังหรือร่องรอยการชำรุดทรุดโทรมจากการใช้งาน ดังนั้นห้องครัวจึงเป็นอันดับต้นๆที่เจ้าของบ้านควรปรับปรุงให้อยู่ในสภาพการใช้งานที่ดี เช่น อ่างล้างจาน, ท่อระบายน้ำ เป็นต้น
3. ตกแต่งห้องน้ำ ห้องน้ำเองก็ถือเป็นห้องสำคัญสำหรับสมาชิกภายในบ้าน ที่ต้องมีการใช้งานกันอยู่ทุกวัน การตกแต่งห้องน้ำให้มีชีวิตชีวาและน่าใช้ จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยให้สร้างความประทับให้กับผู้ซื้อมากขึ้น แต่ควรเป็นการตกแต่งเล็กๆน้อยๆ ให้ห้องน้ำดูไม่เก่าและจืดชืดจนเกินไป เช่น ทาสีให้ดูใหม่, วางต้นไม้สีเขียว หรือการวางน้ำยาดับกลิ่นไว้ในห้องน้ำก็จะช่วยให้ห้องน้ำมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
4. เน้นซ่อม ไม่เน้นเปลี่ยน หลายสิ่งในบ้านแม้จะมีสภาพทรุดโทรมไม่น่ามอง แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการ “ซ่อม” ไม่ใช่การ “เปลี่ยน” เพราะท่านแค่ต้องการซ่อมเพื่อให้มันดูดีเท่านั้น แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนใหม่ที่เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายขึ้นมา เพราะดีไม่ดีแม้จะสามารถขายบ้านได้ราคาสูงขึ้น แต่ก็ยังได้กำไรน้อยอยู่ดีเพราะหมดไปกับค่าซ่อมแซมนั่นเอง
5. ทิ้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด บางคนอาจจะมองว่าไหนๆก็จะขายบ้านทิ้งแล้ว แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าๆไปกับบ้านด้วยก็ไม่เสียหายอะไร แต่จริงๆแล้วนี่จะเป็นตัวกดราคาบ้านของท่านให้ดูถูกลง เพราะของชำรุดที่แทบใช้งานไม่ได้ก็ไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งที่เก็บไว้ในบ้าน
6. ตรวจสอบระบบประปา ไฟฟ้า เป็นเรื่องพื้นฐานของบ้านทุกหลังที่ต้องมีการใช้งานไฟฟ้าและประปา และจะสังเกตุได้ว่าทุกครั้งที่ผู้ซื้อเข้ามาดูบ้าน ก็มักจะเปิดไฟและเปิดก๊อกน้ำเพื่อทดสอบดูว่าใช้งานได้หรือไม่ ดังนั้นเจ้าของบ้านต้องมั่นใจว่าไฟฟ้าและประปายังใช้งานได้เสมอ และไม่มีเหตุขัดข้อง เช่น ไฟไม่ติด, น้ำรั่ว หรือน้ำไม่ไหล เพราะแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากซื้อบ้านที่ไฟเปิดไม่ติด น้ำไม่ไหลหรือซื้อไปแล้วต้องคอยตามซ่อมแซมเอง
7. อย่าแต่งบ้านให้เป็นตีม (theme) แม้ว่าตัวท่านเองจะชื่นชอบการแต่งบ้านในสไตล์ของตัวเองมากแค่ไหน แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องขายบ้าน ก็ต้องปรับเปลี่ยนบ้านให้อยู่ในสภาพกลางๆมากที่สุด เช่น เดิมท่านแต่งบ้านในสไตล์ vintage หรือ country แต่ผู้ซื้อบ้านอาจจะไม่ได้ชอบตามเสมอไป บางคนอาจจะคิดว่าทำให้บ้านดูเก่าๆซีดๆ ไม่ได้ถูกใจมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นเมื่อท่านต้องขายบ้านทิ้ง ก็ควรจะนำเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งออกไปด้วย
แม้จะมีว่าบ้านหลังหนึ่งต้องซ่อมแซมอย่างมากมายก่อนขายบ้าน แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านต้องคำนึงอยู่เสมอคือ เงินทุกๆบาทที่เสียไปกับการซ่อมแซม จะต้องสามารถเพิ่มเป็นราคาขายให้ได้มากที่สุด และควรหาซ่อมด้วยงบที่น้อยที่สุด เพื่อให้ได้มาซึ่งราคาที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด และเมื่อนั้นจะทำให้ท่านสามารถขายบ้านได้เร็วขึ้นและได้ราคาที่มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง