"ดันโด" วิถีการลงทุนในแบบของโมนิช พาไบร
TerraBKK ขอนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนอีกหนึ่งซึ่งทาง TerraBKK เห็นว่าน่าสนใจ กลยุทธ์นั่นคือการลงทุนแบบ “ดันโด” โดยอ้างอิงจากบทความของ ดร.กฤษฎา เสกตระกูล จากการสรุปหนังสือ The Dhandho Investor เขียนโดยโมนิช พาไบร แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยโดยคุณพรชัยรัตนนนทชัยสุข จัดพิมพ์โดยสํานักพิมพ์วิสดอมเวิร์ค เพรส การลงทุนแบบดันโดเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ขัดแย้งกับความคิดที่ว่า ยิ่งเสี่ยงน้อยยิ่งได้ผลตอบแทนต่ำ (Low Risk Low Return) โดยการลงทุนในวิถีแห่งดันโดจะพยายามเสนอแนวคิดที่ว่า ความเสี่ยงต่ำแต่ได้ผลตอบแทนสูง (Low Risk but High Return) หลายคนคงสงสัยว่า “ดันโด (Dhando)” มันแปลว่าอะไร ดันโด มีความว่า “ความพยายามสร้างความมั่งคั่ง” โดยพยายามทำความเสี่ยงให้ต่ำที่สุดและพยายามขยายผลตอบแทนให้สูงขึ้น กลยุทธ์การลงทุนแบบดันโดจะเป็นเช่นไร ติดตามชมกันได้ดังต่อไปนี้ (ดร.กฤษฎา เสกตระกูล)
Mohnish Pabrai (ภาพจาก : affaires.lapresse.ca)
- เลือกธุรกิจที่มีความได้เปรียบ ความได้เปรียบหมายถึงความได้เปรียบในการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ความสามารถในการระดมเงินทุนหรือความสามารถในการบริหารที่มีประสิทธิภาพ ธุรกิจที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันจะมีศักยภาพในการเจริญเติบโตได้ดีกว่าและช่วงชิงส่วนแบ่งได้ดีกว่าบริษัทอื่นๆที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
- เดิมพันน้อยๆ อย่าเดิมพันหนักๆ ไม่เดิมพันบ่อย เราจะเดิมพันด้วยเงินลงทุนที่มากก็ต่อเมื่อเรามีแต้มต่อ และเราจะลดขนาดของเงินลงทุนลงเมื่อเราเสียเปรียบ โดยอิงกับหลักของความน่าจะเป็นว่าจะได้ผลตอบแทนมากหรือน้อยเมื่อเทียบกับส่วนที่มีโอกาสจะเสีย แน่นอนว่าลงทุนในลักษณะแบบนี้จะทำให้เพิ่มโอกาสให้กับความสำเร็จของพอร์ตการลงทุนที่จะเติบโตมากขึ้นในอนาคตและลดผลตอบแทนที่ติดลบให้น้อยลงจากวางเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามหลักความน่าจะเป็น สำหรับสูตรการวางเงินลงทุนในแต่ละครั้ง (เงินเดิมพัน) หาได้จากทฤษฎี Kelly Formula
- เลือกธุรกิจที่เรียบง่าย เราควรเลือกธุรกิจที่เราเข้าใจได้ง่าย มีการเปลี่ยนแปลงน้อยเพื่อให้สามารถประมาณการรายได้ ยอดขาย กระแสเงินสด ได้ง่ายขึ้น และทำให้วิเคราะห์ง่ายขึ้นด้วย
- เลือกธุรกิจที่กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ในช่วงเวลาวิกฤติมักมีโอกาส ช่วงที่นักลงทุนหลายๆคนกำลังมองแต่ด้านลบเทขายหุ้นในบริษัทออกมา โดยไม่สนใจความเป็นจริงของตัวผลิตภัณฑ์หรือบริษัทๆนั้นว่าพื้นฐานที่แท้จริงอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนตื่นตระหนกก็เป็นได้ ตรงนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเลือกหุ้นที่ราคาลงต่ำกว่าความเป็นจริง
- มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยเสมอ (Margin of Safety) เป็นส่วนที่สำรองไว้เพื่อป้องกันในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือเพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นและเป็นการลดความเสี่ยงของเราให้ต่ำลง สำหรับกลยุทธ์ดันโดจะเป็นการซื้อธุรกิจในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากๆ เป็นการลดโอกาสที่ธุรกิจจะมีราคาลดลงและเป็นการเพิ่มโอกาสที่ราคาหุ้นของธุรกิจนั้นจะปรับตัวสูงขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำแต่มีโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนสูง (Low Risk High Return)
- เลือกธุรกิจที่มีการดำเนินงานอยู่แล้ว เวลาจะเลือกลงทุนควรเลือกธุรกิจที่เปิดดำเนินการอยู่แล้วเพราะเราจะสามารถวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกของธุรกิจนั้นออกมาได้อย่างละเอียดและครอบคลุมมากกว่าเลือกบริษัทยังไม่เปิดดำเนินการ
- เลือกธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีความไม่แน่นอนสูง ถ้าเราซื้อหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่า (Low Risk) ช่วงวิกฤติเป็นช่วงที่ความไม่แน่นอนค่อนข้างสูงอยู่ก้ำกึ่งระหว่างเศรษฐกิจจะฟื้นหรือไม่ฟื้น ถ้าเศรษฐกิจไม่ฟื้นธุรกิจก็อาจจะซึมต่อไปแต่ด้วยต้นทุนที่เราซื้ออยู่ในระดับต่ำทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อเรามากนัก แต่ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นหลังช่วงวิกฤติเราจะได้ผลตอบแทนกลับคืนมาอย่างมหาศาล
- ลงทุนในธุรกิจที่พัฒนาต่อยอด ไม่ใช่ธุรกิจที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ การลงทุนแบบดันโดมองว่า ธุรกิจใหม่ๆที่ไม่เคยมีมาก่อนจะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะต้องลองผิดลองถูก สู้ธุรกิจที่มีอยู่แล้วแล้วต่อยอดธุรกิจต่อไปไม่ได้เนื่องจากมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำกว่าและผลตอบแทนค่อนข้างดี
ถ้าผู้อ่านได้ติดตามรูปแบบการลงทุนของผู้ที่ประสบความสำเร็จหลายๆท่าน จะเห็นว่า รูปแบบการลงทุนของเซียนหุ้นแต่ละคนจะมีรูปแบบการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ผู้อ่านไม่อาจจะทำเหมือนกับนักลงทุนต้นแบบเหล่านั้นได้ทั้งหมดแต่สามารถที่จะดึงจุดเด่นของการลงทุนในแต่ละแบบมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ - เทอร์ร่า บีเคเค
บทความโดย : TerraBKK ข่าวอสังหาฯ แหล่งข้อมูล : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก