TerraBKK Research อัพเดทผลประกอบการ 11 บริษัทกลุ่มธนาคาร (Banking) ครบทุกธนาคารที่อยู่ในตลาด ประจำครึ่งปีแรกรวม 6 เดือนย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 จนถึง 2554 บริษัทไหนสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น และมีแนวโน้มที่จะกลายมาเป็นผู้นำในกลุ่มธนาคาร TerraBKK Research ได้รวบรวมเอาไว้ดังต่อไปนี้

จากการสำรวจของ TerraBKK Research พบว่า บริษัทที่มีความสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและดูดีที่สุดในอุตสาหกรรม คือ ธนาคารขนาดใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เติบทั้งรายได้และอัตรากำไรต่อหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

รายได้ (Revenue) เมื่อเราดูรายได้ของกลุ่มธนาคารในภาพรวมธนาคารหลักๆต่างมีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ธนาคารที่เป็นที่หนึ่งของตลาด คือ ธนาคารกสิกรไทย มีรายได้สูงถึง 126,322 ล้านบาท มีรายได้เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว 9.5% และเติบโตตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนบริษัทที่เติบโตมากที่สุด คือ ธนาคารกรุงไทย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15.5% ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากรุงไทยก็มีรายได้เพิ่มสูงขึ้นตลอด เมื่อดูการเปลี่ยนแปลงของรายได้พบว่าบริษัทที่รายได้ค่อนข้างอิ่มตัวและลดลง คือ ทุนธนชาติ, ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป และธนาคารเกียรตินาคิน

อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) พบว่า ธนาคารขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ล้วนแต่มีอัตรากำไรลดลง บริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิสูงที่สุดในตลาด คือ ธนาคารไทยพานิชย์ (31.35%) รองลงมาคือ ธนาคารกรุงเทพ (24.42%), ธนาคารกรุงเทพ (20.65%) ส่วนบริษัทที่มีแนวโน้มกำไรลดลงต่อเนื่อง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และสุดท้ายธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย โดยซีไอเอ็มบีเป็นบริษัทที่อัตรากำไรสุทธิต่ำที่สุดของกลุ่มด้วย

อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (Return on Asset) ะเป็นตัวที่แสดงถึงประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากรภายในองค์กรในการสร้างผลตอบแทนให้แก่กิจการว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยขนาดไหน บริษัทที่มีอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์มากที่สุด คือ ธนาคารกสิกรไทย (2.61%) เท่ากับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 ในช่วงที่ผ่านมากสิกรไทยมีประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรในบริษัทเพิ่มขึ้นเสมอมา ส่วนบริษัทที่มีแนวโน้มของ ROA เพิ่มขึ้นตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ ธนาคารทหารไทยเพียงธนาคารเดียวเท่านั้น อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) จากที่ทาง TerraBKK Research ได้สำรวจ ROE พบว่าบริษัทที่สามารถทำ ROE ได้มากกว่า 15% ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (18.6%), ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (18.9%), ธนาคารกสิกรไทย (18.18%)และธนาคารกรุงไทย (15.03%)

อัตรากำไรต่อหุ้น (Earning per Share) การเติบโตของกำไรต่อหุ้นจะเป็นตัวบอกถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ว่าบริษัทสามารถสร้างกำไรส่วนเพิ่มให้แก่นักลงทุนต่อหนึ่งหน่วยลงทุนได้ดีมากน้อยขนาดไหนและเมื่อเราดูแนวโน้มอัตรากำไรต่อหุ้นประกอบทำให้เราสามารถเลือกบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตได้ดีมากขึ้น บริษัทที่สามารถสร้าง EPS Growrth ได้สูงสุด 3 อันดับได้แก่ แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (+25%), ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (+13.7%) และธนาคารเกียรตินาคิน (+7.7%)

อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio) กลุ่มธนาคารเป็นธุรกิจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือเป็นอุตสาหกรรมที่มีหนี้สินในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก จึงทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ดังนั้น ธนาคารที่มีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับสูงที่สุดคือ ทุนธนชาต (16.8 เท่า) แต่มีแนวโน้มลดลง อันดับที่สอง คือ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (11.79 เท่า) มีแนวโน้มลดลงซึ่งสอดคล้อมกับภาพรวมที่เกือบทุกบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุนลดลงและธนาคารชั้นนำส่วนใหญ่แล้วจะมีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับที่ต่ำ คือ ประมาณ 5-8 เท่า

อัตรากำไรสุทธิ จะแสดงถึง ความสามารถในการทำกำไรสุทธิของบริษัท เป็นการวัดความสามารถของบริษัทในการควบคุมรายจ่ายทุกประการทั้งดอกเบี้ยและภาษีเมื่อเทียบกับยอดขาย หากอัตราส่วนนี้มีค่าสูงแสดงว่าบริษัทสามารถเปลี่ยนยอดขายให้เป็นกำไรสุทธิได้มาก

อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) แสดงถึง สัดส่วนของเงินทุนจากการกู้ยืมต่อเงินทุนจากเจ้าของธุรกิจถ้าอัตราส่วนนี้สูงแสดงว่าบริษัทมีการกู้ยืมเงินในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับเงินทุนจากผู้ถือหุ้นของบริษัท ทำให้มีความเสี่ยงในลักษณะเดียวกับอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์

อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (Return on Asset:ROA) แสดงถึง ระดับผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท เป็นการวัดความสามารถในการนำสินทรัพย์ทั้งหมดของธุรกิจใช่ในการสร้างยอดขายและควบคุมค่าใช่จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมดสุทธิจากภาษีแต่ก่อนต้นทุนทางการเงิน (ดอกเบี้ยจ่ายสุทธิจากภาษีที่ประหยัดได้) อัตราส่วนที่สูงแสดงว่าบริษัทมีความสามารถสูงในการนำสินทรัพย์ไปสร้างกำไรจากการดำเนินงาน

อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity : ROE) แสดงถึง ระดับผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นการวัดความสามารถในการทำกำไรให้แก่เงินทุนของผู้ถือหุ้น หากค่าที่ได้จากการคำนวณสูงแสดงว่าผู้ถือหุ้นมีโอกาสได้รับเงินปันผลและผลตอบแทนที่สูง

บทความโดย : TerraBKK ข่าวอสังหาฯ แหล่งข้อมูล : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก