ถ้าจะให้นึกถึงแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศริมทะเลระดับ World Class แน่นอนว่าต้องมีทะเลของประเทศไทยอยู่ในเป้าหมายของใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน และเมื่อพูดถึงเมืองท่องเที่ยวตากอากาศชายทะเลแล้ว “ภูเก็ต คงเป็น Destination ด้านการท่องเที่ยวตากอากาศของใครหลายๆ คนเช่นกัน เห็นได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี ภูเก็ตจึงกลายเป็นจังหวัดท่องเที่ยวทางตอนใต้ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทางภาครัฐและเม็ดเงินลงทุนของภาคเอกชนให้เข้ามายังพื้นที่แห่งนี้เพิ่มมาขึ้นมาโดยตลอดช่วงที่ผ่านมาไม่กี่ปีมานี้ มีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง อีกทั้งยังมีการอนุมัติงบประมาณ รวมถึงโครงการใหม่ๆ อีกเป็นขบวน เพื่อปั้นให้ภูเก็ต กลายเป็น Destination ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย วันนี้ TerraBKK Research ได้รวบรวมมาให้แฟนๆ TerraBKK ได้ติดตามกันดังต่อไปนี้

1. ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภูเก็ตเพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง มูลค่ารวมกว่า 43,061 ล้านบาท

ปัจจุบันภูเก็ตมีการลงทุนในหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากตัวเลขการท่องเที่ยวล่าสุดในปี 2556 มีมากถึง 12 ล้านคนและเพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อนหน้า และจากการขยายตัวของเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดส่งผลให้ภาครัฐมีความจำเป็นต้องขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ต รวมถึงขยายถนนและแก้ปัญหารถติด ให้การเดินทางคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เหล่านั้นได้แก่

จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ กว่า 18,000 ล้านบาทดังกล่าว จะเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพของภูเก็ตให้สามารถรองรับการขยายตัวของเมืองได้มากขึ้น TerraBKK Research ได้สรุปผลของศักยภาพทำเลภูเก็ต หลังจากการพัฒนาโครงการดังกล่าวเอาไว้ดังต่อไปนี้

  • โครงการขยายสนามบิน Phuket International Airport เป็นโครงการส่วนต่อขยายสนามบินภูเก็ตเดิมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของทภก. ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 12.5 ล้านคนต่อปี (แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 5 ล้านคนต่อปีและผู้โดยสารภายในประเทศ 7.5 ล้านคนต่อปี) รองรับผู้โดยสารและปริมาณการจราจรทางอากาศได้ถึงปีพ.ศ.2561
  • โครงการทางลอดต่างๆจากการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า และจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาภายในจังหวัดส่งผลให้จังหวัดภูเก็ตมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น การสร้างทางลอดก็เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาจราจรให้มีความคล่องตัวและช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางให้สั้นลงอีกด้วย
  • โครงการขยายทุ่นจอดเรือยอชต์และเรือสำราญจุดจอดเรือสำราญรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพราะเห็นว่าปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นกว่าที่ผ่านมาดังนั้นหากการพัฒนาเรื่องดังกล่าวสำเร็จจะส่งผลดีต่อด้านการท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างมาก
  • อุโมงค์ทางด่วนกะทู้-ป่าตอง จะช่วยย่นระยะทางการเดินทางจากตัวเมืองไปยังชายหาดป่าตอง และช่วยลดอุบัติเหตุจากสภาพการขับรถขึ้น-ลงเขาในขณะที่ฝนตก หรือทัศนวิสัยไม่ดีบนถนนสาย 4029 ทำให้การเดินทางมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • โครงการรถไฟฟ้ารางเบาท่านุ่น-ห้าแยกฉลองภายหลังโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ ประชาชนสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟฟ้าเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางแก้ปัญหาการจราจรติดขัดของจังหวัดภูเก็ตเป็นการสร้างทางเลือกในการเดินทางให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วยระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานสามารถบรรเทาปัญหาการคมนาคมที่คับคั่งของจังหวัดภูเก็ตและลดต้นทุนการขนส่งให้ถูกลงจากเดิมที่เดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก
2. แผนพัฒนาโครงการลงทุนของภาคเอกชนมูลค่ากว่า 42,000 ล้านบาท
ภูเก็ต ถึงแม้จะเกาะเล็กๆ มีพื้นที่ไม่มากนัก แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ภูเก็ตเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเทียบเท่าเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นเกิดเปิดตัว Central Phuket ที่มีมูลค่าโครงการสูงถึง 20,000 ล้านบาท, โครงการ Blu’Pearl มูลค่าโครงการ 20,000 ล้านบาทและโครงการใหม่ล่าสุด คือ King Power Phuket Complex อีกทั้งรอบเกาะภูเก็ต ประกอบไปด้วย ห้างค้าปลีกอย่าง Big C รวม 3 จุดรอบเมือง Lotus, Home Pro และค้าส่งอย่าง Makro สิ่งเหล่านี้เป็นตัวชี้ถึงกำลังซื้อของผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดภูเก็ตได้เป็นอย่างดี ว่าภาพรวมของภูเก็ตเป็นเมืองของคนที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นเมืองแห่งการลงทุนอย่างแท้จริง ในช่วงที่ผ่านมาราคาที่ดินของจังหวัดถีบตัวขึ้นสูงต่อเนื่องมีตั้งแต่ระดับราคาไร่ละต่ำกว่า 5 ล้านบาท จนถึงราคา 100 ล้านบาทในย่านใจกลางเมืองก็มีให้เห็นเช่นกัน

ภูเก็ต ถึงแม้จะเกาะเล็กๆ มีพื้นที่ไม่มากนัก แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ภูเก็ตเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเทียบเท่าเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นเกิดเปิดตัว Central Phuket ที่มีมูลค่าโครงการสูงถึง 20,000 ล้านบาท, โครงการ Blu’Pearl มูลค่าโครงการ 20,000 ล้านบาทและโครงการใหม่ล่าสุด คือ King Power Phuket Complex อีกทั้งรอบเกาะภูเก็ต ประกอบไปด้วย ห้างค้าปลีกอย่าง Big C รวม 3 จุดรอบเมือง Lotus, Home Pro และค้าส่งอย่าง Makro สิ่งเหล่านี้เป็นตัวชี้ถึงกำลังซื้อของผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดภูเก็ตได้เป็นอย่างดี ว่าภาพรวมของภูเก็ตเป็นเมืองของคนที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นเมืองแห่งการลงทุนอย่างแท้จริง ในช่วงที่ผ่านมาราคาที่ดินของจังหวัดถีบตัวขึ้นสูงต่อเนื่องมีตั้งแต่ระดับราคาไร่ละต่ำกว่า 5 ล้านบาท จนถึงราคา 100 ล้านบาทในย่านใจกลางเมืองก็มีให้เห็นเช่นกัน

จากศักยภาพทำเลที่ TerraBKK Research ได้อัพเดทข้อมูลล่าสุดให้แฟนคลับ TerraBKK ได้อ่านนั้นถ้าผู้อ่านจินตนาการตามจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชนต่างมองและวาดภาพจังหวัดภูเก็ตเอาไว้ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า ภูเก็ตต้องได้รับการพัฒนาไปอีกไกล ไม่ว่าการสร้างทางลอด อุโมงค์ ขยายถนน รวมถึงรถไฟฟ้าและสนามบินเอาไว้รองรับปริมาณผู้คนที่จะไหลเข้ามาโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มในแต่ละปีค่อนข้างเยอะมาก เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ของไทย จังหวะนี้จึงเป็นจังหวะของผู้ที่มองเห็นโอกาสและพยายามจะคว้าโอกาสนั้นไว้ไม่ให้หลุดลอยไป

3. สถิติการเติบโตนักท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเทียบกับจังหวัดท่องเที่ยวอื่น

TerraBKK Research รวบรวมสถิตินักท่องเที่ยวผ่านเข้าออกในจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ ระหว่างปี 2010-2013 ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดจาก Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports จังหวัดที่รวบรวมได้แก่ จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน พัทยา เกาะ สมุย กระบี่ และกรุงเทพมหานคร จะเห็นได้ว่าจังหวัดภูเก็ตมีอัตราการเจริญเติบของนักท่องเที่ยวสูงมากถึง 35.5% รองจากเกาะสมุยที่โต 51% แต่เมื่อเทียบจำนวนนักท่องเที่ยวแล้ว ภูเก็ตปี 2013 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึง 12 ล้านคนมีสัดส่วนเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสูงถึง 70% และคนไทย 30% เมื่อ TerraBKK Research เจาะลึกเข้าไปดูในตัวเลขนักท่องเที่ยวพบว่า อัตราการเจริญเติบโตของนักท่องเที่ยวไทยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีตัวเลขการเติบโตที่ใกล้เคียงกัน คือ 31%/36% (ไทย/ต่างชาติ) ส่วนรายได้ของจังหวัดภูเก็ตมาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากกำลังซื้อของชาวต่างชาติมีถึง 6,126 บาทต่อคนต่อวัน แต่สำหรับคนไทยประมาณ 3,819 บาทต่อคนต่อวัน และอัตราการพักแรมเฉลี่ยของจังหวัดภูเก็ต (Length of Stay) อยู่ที่ประมาณ 4 วันซึ่งถือว่าสูงมาก

4. สัดส่วนชาวต่างชาติถือครองห้องชุดสูงถึง 35-45%
จากการสํารวจสถิติการถือครองห้องชุดของชาวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ต พบว่าภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความหนาแน่นของชาวต่างชาติสูง ด้วยสัดส่วนการถือครองห้องชุดมากถึง 35-45% บางโครงการสูงถึง 45-48% โดยเฉพาะในโซนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ตามชายหาดชื่อดังต่างๆ โดยจะกระจายไปตามโซนต่างๆในสัดส่วนใกล้เคียงกัน แต่ในโซน Central ซึ่งเป็นอำเภอเมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นโซนที่พักอาศัยสำหรับคนในพื้นที่ ไม่ค่อยมีแหล่งท่องเที่ยว จึงทำให้ไม่ค่อยมีชาวต่างชาติมากนัก

สำหรับสัดส่วนชาวต่างชาติที่เยอะนั้น สะท้อนถึงตลาดกำลังซื้อสูง จึงได้มูลค่าเพิ่มทั้งราคาขายและค่าเช่า แต่ก็มีความน่าเป็นห่วงเรื่องการจัดเก็บค่าส่วนกลาง เพราะส่วนมากไม่ได้อยู่อาศัยที่ไทยตลอดเวลา นิติบุคคลตามแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จึงเรียกเก็บค่าใช้จ่ายส่วนกลางล่วงหน้าเป็นรายปี และไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอด้วยเพราะชาวต่างชาติมักไม่ค่อยนิยมซื้อรถยนต์ส่วนตัวนั่นเอง

Phuket1

5. อัตราค่าเช่าและผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า ใกล้เคียงคอนโดในสีลม-สาทร

Phuket2

เมื่อ TerraBKK Research สำรวจอัตราค่าเช่าคอนโดมิเนียมที่ปล่อยเช่าในจังหวัดภูเก็ตทุกประเภท พบว่ามีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 30,000-55,000 บาทต่อเดือน (300-560 บาท/ตร.ม./เดือน) ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเลของห้อง หากเป็นห้องประเภท Sea view จะมีราคาที่สูงกว่าปกติ ประเภทห้องปล่อยเช่าที่พบมากส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาดใหญ่ ประเภท 2-3 ห้องนอน เน้นวิวทะเลหรือเป็นคอนโดติดทะเล

โซนที่มีอัตราค่าเช่าสูงที่สุดคือโซน West 2 เป็นช่วงอ่าวบางเทา, หาดในทอน, หาดในยาง ซึ่งเป็นโซนที่อยู่ใกล้สนามบินภูเก็ต มีค่าเช่าอยู่ที่ 550 บาท/ตร.ม./เดือน เทียบเท่ากับค่าเช่าในเมืองอย่างสีลม-สาทรเลยทีเดียว

Phuket3

Phuket5

สำหรับอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า TerraBKK Research จะขอแยกวิเคราะห์เป็น 2 กรณีคือ

  1. ปล่อยเช่าได้เฉพาะช่วง High Season (Effective Potential Income) คือประมาณ 6-8 เดือนต่อปี จะได้ผลตอบแทนประมาณ 3-5% ต่อปี
  2. สามารถปล่อยเช่าได้ตลอด 12 เดือน (Max Income) จะได้ผลตอบแทนประมาณ 5-7% ต่อปี

เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแห่งการท่องเที่ยว ทำให้มีทั้งช่วง High Season และ Low Season และการทำสัญญาเช่าของคอนโดมิเนียมในจังหวัดนี้มักจะกำหนดขั้นต่ำ 6 เดือน ทำให้ยังมีความเสี่ยงเรื่องอัตราว่างสูง (Occupancy Rate)

นอกจากนี้ตลาดคอนโดฯในภูเก็ตยังมีความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถปล่อยเช่าเป็นห้องพักรายวันได้ เนื่องจากเป็นภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ เต็มไปด้วยชาวต่างชาติ และบ้างก็ไม่ได้ต้องการห้องพักหรูอย่างโรงแรม ช่องทางตรงนี้ทำให้เจ้าของห้องหลายราย ปรับสภาพห้องชุดของตน ให้เป็นห้องพักรายวัน สามารถเก็บค่าเช่าได้ประมาณ 3,000-7,000 บาทต่อวัน ซึ่งนับว่าเป็นรายได้ที่มากกว่าการปล่อยเป็นรายเดือน ยกตัวอย่างโซน west 2 ที่หากปล่อยเช่าได้วันละ 8,400 บาท ปล่อยเช่าได้ 10 วันอย่างต่ำ เท่ากับมีรายได้เดือนละ 84,000 บาท ในขณะที่ค่าเช่ารายเดือนราคา 79,000 บาทต่อเดือน

กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาพักรายวัน มักจะเป็นกลุ่มครอบครัว ประมาณ 6-7 คน (เพราะหากไปพักโรงแรมซึ่งมีกฎให้พักได้แค่ 2-3 คนต่อห้อง ทำให้ต้องเปิดห้องเพิ่ม) ดังนั้นนักท่องเที่ยวบางส่วนจึงชอบมาเช่าคอนโดฯรายวันมากกว่า เพราะ Flexible มากกว่าโรงแรม ทั้งนี้ตลาดการลงทุนคอนโดมิเนียมในภูเก็ตยังคงน่าสนใจ ด้วยนักลงทุนที่ปล่อยเช่ารายวัน ต่างก็กล่าวว่าหากบริหารจัดการดีๆและมีการคัดกรองผู้เช่าที่ดีพอ การปล่อยเช่าแบบรายวันนี้ได้ผลตอบแทน (Yield) สูงกว่าคอนโดในเมืองเสียอีก

Phuket4

6. รายได้ต่อคนต่อเดือน

จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นจังหวัดในกลุ่มต้นๆของประเทศที่ประชากรในพื้นที่มีรายได้ต่อคนต่อเดือนอยู่ในระดับที่สูง คือประมาณ 11,474 บาทต่อคนต่อเดือน (ข้อมูล ณ ปี พ.ศ.2556 สำนักงานสถิติเก็บข้อมูลทุกๆ 2 ปี) เมื่อเราดูตัวเลขรายได้แล้วจะพบว่า ภูเก็ตมีรายได้ค่อนข้างสูงกว่าจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ และยังมีรายได้พอๆกับจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของเมืองอุตสาหกรรมอย่าง ชลบุรีและระยองอีกด้วย- เทอร์ร่า บีเคเค

บทความโดย : TerraBKK ข่าวอสังหาฯ TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก