สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการชิมไวน์หรือไวน์ เทสติ้ง (Wine Tasting) ซึ่งท่านอาจจะเจอ ณ บัดนี้เป็นต้นไป เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงก็คือ “น้ำหอม” พึงระลึกและจดจำไว้เสมอว่า…เมื่อได้รับเชิญไปชิมไวน์อย่าใส่น้ำหอมไปอย่างเด็ดขาด…โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชิมแบบเป็นทางการซึ่งต้องให้คะแนนและมีผลต่อการตัดสิน ถ้าคุณเป็น 1 ในคณะกรรมการ คุณจะถูกมองว่า “ไร้มารยาท” หลายปีมาแล้วมีการชิมไวน์แบบเป็นการทาง มีเจ้าของไวน์และผู้เชี่ยวชาญไวน์จากต่างประเทศและคนไทยประมาณ 30 คน โรงแรมที่เป็นสถานที่จัดงานอาจจะคิดไม่ถึง หรืออยากจะพีอาร์ผลงานของโรงแรม จึงเชิญไฮโซสาวคนหนึ่งมาด้วย ปรากฏว่าเมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องทุกคนมองไปยังจุดเดียวกัน ไม่ใช่ความสวยของเธอแต่เป็นกลิ่นน้ำหอมที่ตลบอบอวลราวกับรถพ่วง 18 ล้อชนโรงงานผลิตน้ำหอมก็ไม่ปาน ยิ่งอยู่นานยิ่งเหม็น ประธานคณะกรรมการที่เป็นฝรั่งจึงกระซิบกับเธอว่าไม่สามารถรับได้ แต่ถ้าเธออยากจะชิมก็จะจัดห้องต่างหากให้ สรุปเธอต้องออกไป และมีการเคลียร์กลิ่นในห้องกันพักใหญ่


ผู้เชี่ยวชาญไวน์ตัวจริงเสียงจริงเมื่อต้องทำหน้าที่ชิมไวน์ ไม่ว่าเป็นทางการหรือไม่เป็นการ จะไม่ใส่น้ำหอมอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการไปชิมไวน์อย่างเป็นทางการหรือไม่ก็ตาม เพราะน้ำหอมเป็นสารเคมี กลิ่นติดทนนาน สามารถกลบกลิ่นต่าง ๆ ที่ออกจากไวน์ ซึ่งเป็นกลิ่นธรรมชาติได้อย่างสนิท ผมเคยทดลองกับผู้เชี่ยวชาญไวน์ในประเทศออสเตรีย ด้วยการให้คนที่ใส่น้ำหอมแรงๆ มานั่งชิมไวน์ด้วย ชิมไปประมาณ 4 – 5 แก้วก็เริ่มปวดหัว และไม่ได้กลิ่นจากไวน์ ผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นบอกว่ากลิ่นน้ำหอมพวกนี้สามารถลอยลงไปในแก้วไวน์ได้ เวลาดมไวน์ก็จะได้แต่กลิ่นน้ำหอม ไม่ได้กลิ่นที่แท้จริงของไวน์ ส่วนใหญ่ผู้ที่ใส่น้ำหอมไปในงานไวน์ เทสติ้งต่าง ๆ มักจะเป็นสตรี นอกจากน้ำหอมแล้วยังมีเครื่องสำอางใบหน้าและผมเผ้า ซึ่งล้วนมีกลิ่นทั้งสิ้น เข้าใจเรื่องความสวยความงาม แต่เรื่องของ “ไวน์” อยากจะบอกว่า…ขอสักครั้ง !! เมื่อได้รับเชิญไปชิมไวน์ถ้าเป็นเดินชิมตามโต๊ะหรือบูทต่าง ๆ ผมมักจะเดิน ๆ ดูเป็นอันดับแรก ตรงไหนที่มีกลิ่นน้ำหอมผมจะเลี่ยงไปที่อื่นก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมา


ขณะที่ผู้ชายใส่น้ำหอมก็มีบ้าง แต่หลัก ๆ คือ “บุหรี่” ผู้ที่มีอาชีพด้านการชิมไวน์จริง ๆ จะไม่สูบบุหรี่หรือแม้แต่ซิการ์ เพราะบุหรี่ล้วนเป็นส่วนผสมของสารเคมี ที่ทำลายต่อมรับรสต่าง ๆ ในปาก ส่วนท่านที่ไม่ใช่มืออาชีพด้านการชิมไวน์ เมื่อได้รับเชิญไปงานชิมไวน์ก็ควรระมัดระวัง กลิ่นบุหรี่ที่จะติดตัว ติดเสื้อผ้า พวกนี้เป็นอุปสรรคในการชิมไวน์เช่นกัน ตัวเองอาจจะไม่รู้แต่คนข้าง ๆ รู้ดี ถ้าไปนั่งเหนือลมยิ่งไปกันใหญ่ ดังนั้นผู้ที่จะศึกษาเรื่องไวน์อย่างจริงจังก็ควรจะงดบุหรี่ด้วยเช่นกัน นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังปิดกั้นโอกาสที่ท่านจะเรียนรู้เรื่องไวน์อย่างแท้จริงอีกด้วย
เรื่องบุหรี่เป็นอะไรที่ห้ามยากสำหรับหลาย ๆ คน ผมมีเพื่อนชาวเยอรมันคนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์และสูบบุหรี่แต่ไม่มาก เขาจะใช้เกลือป่นละลายน้ำแบบเจือจางแล้วใส่ขวดติดรถไว้ตลอดเวลา ก่อนจะชิมไวน์ก็บ้วนปากเพื่อฆ่าความเป็นกรดเป็นด่างและปรับปุ่มรับรสในปากอันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่ ซึ่งก็พอช่วยได้บ้าง นอกจากนั้นเมื่อเข้าไปในสถานที่ชิมไวน์ เขาจะหาที่นั่งซึ่งอยู่ใต้ลม เพื่อไม่ให้เป็นการบกวนคนอื่น… อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยากจะเน้นเป็นพิเศษคือการใส่น้ำหอม แต่ถ้ายังไม่สามารถสลัดหรือตัดใจจากน้ำหอมได้ด้วยสาเหตุใดก็ตาม แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้โคโลญจน์กลิ่นอ่อน ๆ เบา ๆ หลังจากนั้นท่านจะค่อย ๆ ชิน และอาจจะเปลี่ยนค่าน้ำหอม มาเป็นค่าไวน์ก็ได้ !!! สิ่งเหล่านี้หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับไวน์ เทสติ้งเป็น….เรื่องใหญ่และมารยาท…!!!
Writer : Thawatchai Tappitak Image : Google “wine”

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก :