5 สิ่งพึงรู้ก่อนลงทุนอสังหาริมทรัพย์
หากพูดถึงการนำเงินไปลงทุน ก็มีหลายแบบให้เราเลือกว่าจะนำเงินไปลงทุนในรูปแบบอะไร ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละแบบก็มีขั้นตอน, ผลตอบแทน และความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป แต่หากพูดถึงวิธีการลงทุนที่กำลังเป็นที่นิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าให้ผลตอบแทนสูงและมีการเติบโตของมูลค่าที่สูงกว่าเงินเฟ้อ แต่ทั้งนี้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็มีข้อควรระวังที่ต่างจากการลงทุนแบบอื่นๆ อีกทั้งเป็นการลงทุนที่ใช้เงินทุนสูง ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้ TerraBKK Research จะขอพูดถึง 5 สิ่งที่พึงรู้ก่อนลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ดังนี้
1. รายได้ที่เข้ามาไม่ได้ต่อเนื่องอย่างที่คิด
หากคุณกำลังคิดว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยการปล่อยเช่านั้น จะมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอทุกเดือนนั้น คุณกำลังคิดผิด เพราะบ้านเช่าจะต้องมีช่วงเวลาหนึ่งที่บ้านว่างหรือช่วงที่ต้องปรับปรุงซ่อมแซม อย่างน้อยประมาณ 1-2 เดือน และแม้จะไม่มีรายได้เข้ามา แต่อย่าลืมว่ารายจ่ายของคุณยังเกิดขึ้นอยู่ เช่น ค่าผ่อนธนาคาร, ค่าน้ำ, ค่าไฟ (ถามว่าไม่มีคนเช่าทำไมยังมีค่าน้ำ,ค่าไฟ ตรงนี้แม้จะไม่มีคนใช้น้ำไฟ แต่ยังมีค่าบำรุงรักษาอยู่ เป็นค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นทุกๆเดือน) ตรงนี้จะต้องคำนวณใ้ห้ดีว่า ในระหว่างที่ไม่มีรายได้เข้ามา คุณจะยังมีเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอยู่หรือไม่
2. เรื่องซ่อมแซมเล็กๆน้อยๆควรทำให้เป็น
สิ่งหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยเมื่อต้องทำบ้านเช่า ก็คือการซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้อยู่เสมอ แต่ถึงอย่างไรหากคุณเป็นเจ้าของบ้านก็ควรจะมีทักษะในการซ่อมแซมบ้าง โดยเฉพาะการซ่อมแซมเล็กๆน้อยๆ ทั้งนี้การลงมือซ่อมเองจะทำได้รวดเร็วกว่าและประหยัดกว่า เพราะไหนจะต้องรอคิวช่าง, รอซื้อวัสดุ ดังนั้นหากคิดจะซื้อบ้านเพื่อปล่อยเช่าแล้ว ควรศึกษาเรื่องการซ่อมแซมไว้เมื่อคราวจำเป็น
3. เริ่มจากสิ่งที่ถนัด
หากใครที่เป็นมือใหม่เริ่มลงทุน อย่ามัวแต่คิดว่าอสังหาริมทรัพย์แบบไหนให้ผลตอบแทนดีที่สุด แต่ควรเริ่มจากประเภทที่ตัวเองรู้จักและคุ้นเคยมากที่สุด เพราะอสังหาฯแต่ละประเภทมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป เช่น บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์, คอนโด, ตึกแถว ย่อมมีลักษณะผู้เช่าที่ต่างกัน ดังนั้นหากเรารู้จักอสังหาฯประเภทไหนดีที่สุด ให้เริ่มจากประเภทนั้นๆก่อน แล้วค่อยมองหาลู่ทางขยับขยายไปประเภทอื่นต่อไป
4. การเตรียมตัวเมื่อคนเช่าย้ายออก
การเตรียมตัวในที่นี้คือเตรียมตัวทั้งในเรื่องหาคนเช่าคนใหม่, ค่าเช่าที่หายไป และสภาพบ้านเมื่อคนเช่าย้ายออก ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อผู้เ่ช่าเก่าย้ายออกไป บางคนคิดว่าคนเก่าไปคนใหม่มา เป็นเรื่องง่ายๆ แต่ในความเป็นจริงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น คนเก่าออกบ้านอาจจะทรุดโทรมมากหรือพอย้ายออกก็หาคนใหม่ไม่ได้ ใช้เวลานานกว่าที่คิด ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันตั้งแต่แรกเริ่ม ควรทำสัญญาให้ครอบคลุม เช่น ให้ผู้เช่าแจ้งล่วงหน้า 1 เดือนก่อนจะยกเลิกสัญญา ซึ่งในระหว่างนั้นเราจะได้มีเวลาหาผู้เช่ารายใหม่, ระบุในสัญญาถึงการหักเงินมัดจำหรือเงินประกันเมื่อเกิดความเสียหายใดๆกับบ้านเช่า เพื่อที่อย่างน้อยเราจะได้นำเงินจำนวนนั้นมาซ่อมแซมส่วนที่เสียหายไป
5. บางครั้งควรมีมืออาชีพมาช่วย
ในบางครั้งหากคิดว่าในด้านไหนที่ตนเองไม่ถนัดจริงๆ หรือทำเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จเสียที ควรหามืออาชีพเข้ามาช่วย เช่น เมื่อคิดว่าใช้เวลาในการหาผู้เช่านานเกินไป อาจจะต้องให้นายหน้าเข้ามาช่วย เพราะนายหน้าจะสามารถให้คำแนะนำดีๆกับคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นราคาค่าเช่าที่สูงเกินไป, ลักษณะการตกแต่งห้องที่ยังไม่ดึงดูดผู้เช่ามากพอ นอกจากนี้นายหน้ายังมีเครือข่ายลูกค้า ที่จะช่วยให้หาผู้เช่าได้เร็วขึ้น หรือเรื่องสำคัญอย่างการร่างสัญญาเช่าที่ได้กล่าวไปข้างต้น ควรให้ผู้ที่รู้ด้านกฎหมายโดยตรงช่วยร่างหรือให้คำปรึกษาด้วยเช่นกัน - เทอร์ร่า บีเคเค
บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้
TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก