4 วิธี ทำอย่างไรหากถูก ยืมเงิน !

เชื่อว่าหลายคนเวลาจะไปกู้เงินหรือยืมเงินใคร คงกำลังรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังยืนอยู่บนทุ่นระเบิด อย่างไรก็ตาม จากระบบเศรษฐกิจในวันนี้ มันก็ไม่แปลกนะคะที่หลายคนจะมีปัญหาทางการเงิน จนอาจเป็นการรบกวนคนในครอบครัวหรือคนที่อยู่ใกล้ชิดเช่นคุณได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ MoneyGuru.co.th มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินมาฝากถึงคนที่ถูกยืมเงินบ่อย ๆ ว่าเราควรจะทำอย่างไรหากถูกยืมเงินค่ะ

หากคุณจะรู้สึกผิดหากไม่ให้คนอื่นยืมเงิน ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า... “ถ้าคุณต้องให้ยืมเงินโดยที่คุณก็ไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้น มันจะทำให้คุณรู้สึกขุ่นเคืองใจและสามารถทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนที่ยืมเงินได้ แม้ว่าคนที่ยืมเงินจะคืนเงินคุณตรงเวลาก็ตาม อย่างไรก็ตาม การที่คุณไม่ให้คนอื่นยืมเงินนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนเห็นแก่ตัว หรือเป็นเพื่อนที่ไม่ดีค่ะ ดังนั้น คุณควรปฏิเสธไปเสียดีกว่า”

หลายคนยังไม่เคยได้ยินคำว่าเงินเย็น เงินเย็นก็คือเงินที่คุณหาเก็บสะสมมาแล้วไม่รู้จะเอาไปทำอะไร จนมีเหลือเฟือ ซึ่งคุณสามารถให้เพื่อนหรือญาติยืมเงินเย็นนี้ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะสนิทกับเพื่อนและญาติของคุณมากแค่ไหน แต่ก่อนที่คุณจะให้ยืมเงินนั้น คุณควรมั่นใจก่อนว่าเพื่อนหรือญาติของคุณคนนั้นเป็นคนที่น่าเชื่อถือ, พูดคำไหนคำนั้น และไว้ใจได้

“เมื่อ 10 ปีที่แล้ว Emily White วัย 43 ปีได้ให้น้องสาวของเธอยืมเงินไปกว่า 7 แสนบาท เพื่อไปซื้อบ้านที่อยู่ใกล้พ่อแม่ของพวกเธอ โดยการขอยืมเงินจากน้องสาวในครั้งนั้น Emily ไม่ได้กำหนดวันคืนเงินใด ๆ เนื่องจากเธอคิดว่าถ้าน้องสาวได้งานใหม่ก็คงจะคืนเงินให้เธอ อย่างไรก็ตาม น้องสาวของเธอได้งานทำมาแล้วหลายปี แต่จนตอนนี้ Emily ก็ยังไม่ได้รับเงินของเธอคืนแต่อย่างใด หนำซ้ำน้องสาวของเธอก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องเงิน 7 แสนที่ยืมไปอีกเลยด้วย”

จากเรื่องราวของ Emily นั้นคือบทเรียนที่สอนให้เรารู้ว่า หากจะให้ใครยืมเงินไม่ว่าเพื่อนสนิทหรือญาติพี่น้อง เราควรจะกำหนดวันคืนเงินอย่างชัดเจน เพราะหากเราไม่กำหนดวันคืนเงิน เราอาจไม่ได้เงินของเราคืนเลยก็ได้ค่ะ

หากเราตกลงวันคืนเงินกันด้วยปากเปล่า พอเวลาผ่านไปนาน ๆ เข้าเราอาจจะลืมวันที่เราคุยกันไว้ได้ค่ะ (ไม่คุณก็คนที่ยืมเงินที่ลืม) และหากคุณเป็นคนเดียวที่จำวันกำหนดคืนเงินได้ พอคุณไปถามแต่คนที่ยืมเงินจำไม่ได้ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาบาดหมางกันขึ้นมาได้นะคะ ดังนั้นทางที่ดีคุณควรทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรไว้เลยค่ะ เพื่อเป็นการป้องกันการลืมและป้องกันเรื่องการไม่คืนเงินด้วยค่ะ