คนวัยทำงานจำนวนมากกำลังประสบปัญหามีหนี้ ซึ่งบางคนก็ยังพอจะรับภาระในการ ชำระหนี้ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวันไหว แต่บางคนถึงกับเงินติดลบ เพราะไหนจะต้องจุนเจือครอบครัว ไหนจะผ่อนนั่นผ่อนนี่ ค่าใช้จ่ายเยอะแยะนับไม่ไหว สาเหตุของปัญหาเงินขาดมือ อาจมาจากการใช้เงินฟุ่มเฟือย ไม่นึกถึงรายรับของตัวเอง ใช้ บัตรเครดิต โดยไม่ระมัดระวัง หรือไม่หัด ออม เผื่อเหตุฉุกเฉิน ทำให้พอถึงเวลาต้องใช้เงินกลับไม่มีเงินหมุน เราไม่อยากต้องเดือดร้อนเรื่องเงิน มาดูวิธีหมุนเงินให้ไม่ขาดมือกันดีกว่าค่ะ

1. รายได้หลักต้องให้มั่นคง หารายได้เสริมด้วยก็ดี

การที่เราจะหมุนเงินได้คล่อง สิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่งคือการมีรายได้หลักที่มั่นคง เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เงินรายได้หลักนี่แหละจะสามารถเป็นหลักประกันให้เราได้ว่า เราจะมีเงินเป็นจำนวนนี้สม่ำเสมอแน่นอน
แต่ถ้าหากอยากจะปลดปล่อยตัวเองจากการเป็นหนี้ได้ไวๆ อาจจะหารายได้เสริมด้วยก็ดีค่ะ เช่น ถ้าใครชอบค้าขายอาจจะรับเสื้อผ้ามาขายตามตลาดนัด ขายสินค้ามือสองออนไลน์ หรือใครเก่งงานฝีมือ อาจจะประดิษฐ์ของสวยๆ งามๆ ขาย ถ้าเก่งวิชาการก็อาจรับสอนพิเศษเด็กๆ เป็นต้น ความขยันไม่เคยฆ่าใครค่ะ

2. ทำบันทึกรายรับรายจ่ายเสมอ

ข้อนี้จริงๆ แล้วทำไม่ยากเลย แต่หลายๆ คนกลับแพ้ให้กับความขี้เกียจ ทำให้ไม่ยอมลงมือจดบันทึกรายรับรายจ่ายเสียที ทั้งที่เดี๋ยวนี้มีแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตให้ได้จดบันทึกง่ายๆ ทำได้ทุกที่ทุกเวลา
การจดบันทึกรายรับรายจ่าย จะทำให้เรารู้ว่า วันๆ เราเสียเงินไปให้กับอะไรบ้าง พอผ่านไปสัก 2-3 สัปดาห์ เราอาจจะลองมานั่งพิจารณาดูว่า มีรายจ่ายรายการไหนที่เราสามารถตัดออกไปได้บ้าง ถ้าจะเสียเงิน ให้เสียไปกับสิ่งจำเป็นเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น สาวๆ บางคนที่ชอบแต่งหน้า อาจจะเผลอซื้อลิปสติกใหม่ถึงเดือนละ 2-3 แท่ง ทั้งที่สีคล้ายๆ กันก็มีอยู่แล้ว อาจจะลองเปลี่ยนใหม่เป็นเดือนละแท่ง แล้วค่อยๆ ขยับเป็นสองเดือนต่อหนึ่งแท่ง เป็นต้น

3. ออมเงินไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

บางคนอาจใช้วิธีเหลือเงินแต่ละเดือนเท่าไรค่อยออม แต่เราขอแนะนำว่า พอมีรายรับเข้ามาแล้ว ให้เก็บเข้าบัญชีเงินออมไปเลยทันที เช่น เดือนนี้รายได้จากงานประจำและงานพิเศษรวมกันเป็น 20,000 บาท เราก็อาจจะเก็บเลยทันที 4,000 บาท ที่เหลือก็ค่อยเอาไปจัดสรรสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ
วิธีนี้จะทำให้เรามั่นใจว่า เรามีเงินออมในแต่ละเดือนแน่นอน แม้ปลายเดือนจะรู้สึกว่าเงินเกือบไม่พอใช้ แต่สิ่งสำคัญคือ เราได้ออมเงินบางส่วนไว้แล้ว ฉะนั้น หากเดือนหน้าเกิดเหตุฉุกเฉิน เราก็ยังอุ่นใจว่ามีเงินที่ออมไว้แต่แรกในเดือนก่อนๆ คอยหนุนไว้

4. มองหาช่องทางลงทุน

การลงทุนปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ที่ฮิตๆ กันเห็นจะเป็นการลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อให้เงินงอกเงยจากเดิม ถ้าหากสนใจจริงๆ เราก็ควรศึกษาการลงทุนให้เข้าใจดีก่อนแล้วค่อยๆ ลงทุนไปทีละหน่อยเพื่อกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เงินหมดตัวก่อนได้กำไรเสียอีก
เงินที่เรานำมาลงทุน ควรเป็นจำนวนน้อยกว่าเงินที่เราออมไว้เผื่อยามฉุกเฉินไม่ต่ำกว่า 2 เท่า เช่น ถ้าเราออมเงิน 5,000 บาท เงินที่เราลงทุนควรอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,000 บาท เป็นต้น

5. อย่าหวังน้ำบ่อหน้า

หลายๆ คนอาจจะเคยเป็นอย่างนี้ คือคิดว่า เดี๋ยวก็ได้ค่าคอมมิชชั่น เดี๋ยวโบนัสก็ออก เดี๋ยวรับงานเพิ่มก็ได้เงินมาพอใช้ เอาเงินไปซื้อของแบรนด์เนมที่อยากได้ตอนนี้ คงไม่เป็นไรหรอก กลายเป็นว่า สิ่งที่จินตนาการไว้ไม่เกิดขึ้นจริง คอมมิชชั่นน้อยนิด งานไม่เข้าทำให้ไม่ได้เงินพิเศษเพิ่ม เงินแทบไม่พอใช้ตอนปลายเดือน
ถ้าจะให้ดี เวลาเราอยากได้อะไรให้เก็บเงินซื้อสิ่งนั้นจะดีกว่า ถ้าอยากได้กระเป๋าใบใหม่ ก็รับงานพิเศษเพิ่ม หรือออมเงินทีละน้อยทุกๆ เดือน โดยออมแยกจากส่วนเงินออมฉุกเฉิน ถ้าผ่านไปสัก 3-4 เดือน เก็บเงินได้สักก้อน จะเอาไปซื้อกระเป๋าก็ถือซะว่าเป็นรางวัลให้กับตัวเองที่มีวินัยในการออม อย่างนี้จะดีกว่า

6. บริหารหนี้ที่มี ไม่ก่อหนี้ใหม่ถ้าไม่จำเป็น

คนในวัยทำงานหลายๆ คนมีหนี้รถ หนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต สิ่งที่เราควรทำคือจัดการหนี้ที่ดอกเบี้ยแพงที่สุดก่อน ถ้าเป็นหนี้บัตรเครดิตหลายๆ ใบ ก็อาจจะออมเงินลดลง ไม่เอาเงินไปลงทุน แต่รีบเอาเงินมาโปะหนี้ให้หมด ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี
และไม่ว่าจะมีหนี้กี่รายการ ก็ต้องจ่ายให้ตรงตามเวลาชำระ เพราะถ้าเกิดไม่ยอมจ่าย หรือจ่ายเลท แบบนี้ก็อาจจะโดนค่าปรับ ค่าทวงหนี้ เป็นต้น และที่สำคัญ ประวัติการชำระเงินของเรานี่แหละที่จะส่งผลต่อการทำธุรกรรมการเงินในอนาคตเราได้
ถ้าเรารู้ตัวอยู่แล้วว่ามีค่าใช้จ่ายและมีหนี้กับอะไรบ้าง ก็อย่าสร้างหนี้เพิ่มโดยไม่จำเป็น เช่น ต้องจ่ายค่าผ่อนรถ แต่อยากได้สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่เพราะเห็นคนอื่นใช้กันเลยไปผ่อนมาใหม่ ทั้งที่มือถือเครื่องเดิมยังใช้ได้ แบบนี้ถือว่าไม่ใช่การสร้างหนี้เพื่อสิ่งจำเป็น อย่าทำเด็ดขาด
การจะมีเงินหมุนไม่ขาดมือ อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก วันนี้เราอาจจะรู้สึกเหนื่อย งานประจำก็ต้องทำ งานพิเศษก็มี แถมยังต้องแบกรับภาระต่างๆ มากมาย แต่ถ้าเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีวินัย และอดทนต่อสิ่งยั่วยุทั้งหลาย รับรองว่ามีเงินพอใช้ มีเงินปลดหนี้ และมีเงินออมแน่นอน สิ่งสำคัญคือ ท้อได้แต่ห้ามถอยค่ะ
ขอบคุณข้อมูล จาก : Masii.co.th

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก