รีบ ตัดใจ ซะ และเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ 10 วิธี ลืมคน(เคย)รัก
แม้ว่าการเลิกราจะเป็นเรื่องที่ทำให้คุณนั้นเสียใจมากมาย แต่เมื่อเค้าหมดรักและเดินจากคุณไปแล้ว คุณจะต้องหันกลับมามองตัวเอง มองว่าคุณควรจะตัดใจ ไม่ใช่มีแค่เค้าคนเดียง โลกนี้ยังมีผู้ชายหรือผู้หญิงบนอีกมากมาย มองโลกให้กว้างๆ อย่านั่งคิดโทษตัวเองหรือคิดถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้ว แต่จงก้าวไปข้างหน้า และคุณจะผ่านเรื่องเศร้านี้ไปได้แน่นอน…กับ 10 วิธีตัดใจจากคนรักให้เด็ดขาด (ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้นะคะ)
ใช้เวลาว่าง สมใจอยาก
อยากจะเรียนภาษาอื่นเพิ่มเติมมานาน แต่ก็เกรงว่าจะไม่ได้ไปเที่ยวไหนกับแฟน เลยบอกปัดตัวเองมาตลอด หรือถ้าคิดจะเรียนต่อยอดเพื่ออัพโปรไฟล์ เวลานี้ก็นับว่าเข้าท่าดีไม่น้อย หรือจะไปเที่ยวไหนก็ไม่มีใครคอยตามหึงตามหวง จะลงเรียนคอมพิวเตอร์ ถ่ายภาพ ทำอาหาร หรืออะไรก็ตามที่อยากทำมานานแล้วไม่ได้ทำสักที! บางทีคุณอาจได้เจอคนใหม่ๆ ที่ดีกว่าเก่าด้วยซ้ำ หรือจะไปเที่ยวกับคนที่บ้าน มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น แล้วคุณจะรู้สึกว่า ชีวิตก็มีความสุขในรูปแบบอื่นๆ ได้ไม่ต่างกัน
ยอมรับในความสัมพันธ์ หยุดตามตื้อ ยิ่งคุณยอมรับจุดจบได้เร็วเท่าไหร่ คุณยิ่งเริ่มต้นได้ไวมากขึ้นเท่านั้น เข้าใจว่าคุณกับเขาอาจใช้เวลาร่วมกันมานาน ภาพจำยังติดตาไม่หาย แต่การยื้อไว้ก็คงไม่มีประโยชน์ เมื่ออีกฝ่ายหมดใจ อย่าได้พยายามทวงสิ่งของคุณคืน เพราะยิ่งจะทำร้ายให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกไม่ดีต่อกันมากขึ้น ขอให้คุณคิดว่าสิ่งของที่คุณเคยให้เขาไป เป็นสิ่งของที่ให้จากความปรารถนาดีของคุณล้วนๆ ขอคืนมาเก็บไว้ นั่นยิ่งจะฝังใจกันไปเปล่าๆ
นึกถึงเรื่องไม่ดีของอีกฝ่าย เพียงแค่ลิสต์นิสัยแย่ๆ จากตอนที่เคยคบกัน เช่น ขี้เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ใจร้อน ฯลฯ จะทำให้คุณรู้ว่า แท้จริงแล้วอีกฝ่ายก็ไม่ใช่นางฟ้าหรือเทวดาอย่างที่คุณวาดฝัน เขาก็เป็นแค่บุคคลธรรมดาสามัญที่มีข้อหาติดตัว ไม่นานอาการช้ำรักของคุณที่มี ก็จะหายไป และไม่รู้สึกเสียดายอะไรเลย
เล่าไว้ให้เป็นวิทยาทาน การแชร์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของคุณในที่สาธารณะ สิ่งแรกที่ต้องลืม คือ ลืมชื่อของเขา (อย่าให้เขาหรือเราต้องขายหน้า หรือว่าบานปลาย!) เป็นเพียงแค่ตัวอย่างพฤติกรรม "เงา" ในคราบคนรักเก่า จะช่วยให้คุณลดอารมณ์ต่างๆ ที่ยังติดค้างคาใจ และชัดเจนกับสิ่งที่คิดมากขึ้น บางทีคุณอาจได้รับคำปรึกษาดีๆ จากคนอื่น หรืออย่างน้อยก็ช่วยให้คุณได้ระบายความรู้สึกของตัวเองออกมา ได้รับกำลังใจกลับคืนมาบ้าง และไม่ได้รู้สึกว่าเผชิญสิ่งนี้อยู่เพียงลำพัง เพราะยังมีคนอื่นที่เคยผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ อย่างนี้อยู่อีกมาก จนทำให้รู้สึกว่าเรื่องรักของคุณ มันก็แค่เรื่องรักธรรมดาๆ ที่ใครหลายคนต่างก็เคยเจอะเจอมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น
ไม่ต้องตามติดชีวิตของเขา การทำตัวเป็นนักสืบ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มีแต่จะทำให้เจ็บแปลบแสบหัวใจ หรือการตามไปสืบสาวดูเรื่องราวชีวิตรักของเขาผ่านทางเฟซบุ๊ก หรือถามข่าวคราวจากเพื่อนๆ ก็คงไม่มีประโยชน์ จงทำให้เขากลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับคุณจะดีกว่า เขาจะไปเที่ยวที่ไหน หรือไปมีคนใหม่อีกสักกี่คน ก็ไม่ใช่กงการอะไรของคุณอีกต่อไป ทางที่ดีควรลบรายชื่อเฟซบุ๊กของเขา รวมถึงช่องทางอื่นๆ คุณจะได้ไม่เผลอไผลเข้าไปดูให้ตัวเองรู้สึกเจ็บใจในตั้งแต่แรก
ไม่ไปในที่ที่เคยไป หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่เคยไปกับเขา อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารประจำ ที่ไปด้วยกันกับเขาอยู่บ่อยๆ ก็จงทิ้งระยะห่างด้วยการไปยังสถานที่อื่นๆ ที่ไม่เคยไปดูบ้าง เพื่อซักฟอกความทรงจำให้สะอาดหมดจดดีเสียก่อน ถ้ามีความจำเป็นต้องย้อนกลับไปในที่เดิมๆ เหล่านั้น ก็พยายามอยู่ในสถานที่ที่เคยมีความทรงจำกับเขาให้น้อยที่สุด
ถ้าจำเป็นต้องเจอ พยายามหลีกเลี่ยงการพบกันแบบตัวต่อตัว พยายามหลีกเลี่ยงการเจอเขาแบบตัวต่อตัว เพราะเกิดเขาเผลอมาทำดีกับคุณ นั่นอาจจะทำให้คุณยิ่งเขวไปกันใหญ่ แต่ถ้าเขามากับแฟนก็จงเงียบไว้ ทางที่ดีอย่าเผลอทำตัวท้าทายเพื่อความสะใจ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรคุยอย่างเรียบง่าย สั้นๆ กระชับที่สุดเท่าที่จะทำได้จะดีกว่า
ออกไปหาเพื่อนๆ อย่าลืมคิดถึงเพื่อนของคุณเป็นอันดับแรก เพราะสุดท้ายคนที่คอยปลอบใจ ก็คือ เพื่อนของคุณ (คนที่คุณมองข้ามหัวพวกเขามานานนี่แหละ!) ลองออกไปเที่ยวตามประสาคนโสดกับพวกเขาดูบ้าง คุณจะได้ไม่เหงา แถมยังได้เปลี่ยนบรรยากาศอีกด้วย ไม่แน่ว่าชีวิตคนโสด อาจทำให้คุณติดใจจนลืมคิดเรื่องแฟนเก่าไปเลยก็ได้ รู้สึกถึงข้อดีของชีวิตโสดๆ ก่อนจะกลับมาสู่โหมดมีแฟนอีกครั้ง ก็ถือซะว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการปลดปล่อย
คิดเสียว่า สวรรค์ต้องการทดสอบ นับเป็นบททดสอบจากสวรรค์ ที่ทำให้คุณหูตาสว่างมากขึ้น รู้จักกับการปรับตัวเข้าหาคนอื่น รู้จักการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี คุณได้ทักษะหลายๆ อย่าง ชนิดที่คนไม่เคยมีแฟนไม่เคยได้ไม่เคยมี เมื่อไหร่ที่คุณเรียนรู้ว่า ชีวิตของคุณต้องการอะไร และต้องการคนแบบไหนมาเป็นคู่รักคู่ชีวิต นั่นไม่ใช่เพราะความล้มเหลวที่ทำให้คุณ "มองเห็นตัวเองชัดขึ้น" หรอกหรือ? ถือเป็นการถอยออกมา เพื่อเตรียมตัวเองให้ดีขึ้น รู้ความต้องการของคนอื่นมากขึ้น และแข็งแกร่งมากขึ้น
เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ (จนอีกฝ่ายรู้สึกเสียดาย) คนที่เริ่มต้นทำธุรกิจ ชีวิตเขาก็ย่อมมีวันพลาดพลั้ง ล้มเหลวกันได้ กว่าที่ใครสักคนจะประสบความสำเร็จ เขาก็ย่อมต้องผ่านจุดที่ต่ำสุดมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น แต่นี่คุณแค่เปลี่ยนสถานะตัวเองไปจากเดิม ไม่ใช่ล้มละลายเสียที่ไหน ชีวิตยังเริ่มต้นใหม่ได้ และไม่ได้เสียเครดิตอะไรเลย แถมคุณยังมีประสบการณ์ชีวิตติดตัวมากขึ้น วันหนึ่งคุณก็ย่อมประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ถ้าคุณทำตัวเองให้ดีขึ้น ปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลา ใช่ว่าคนที่ทำธุรกิจสำเร็จ นั่นคือธุรกิจแรกในชีวิตของเขา และใช่ว่าคนที่แต่งงานกัน นั่นคือคนรักคนแรกในชีวิตของเขา ซะที่ไหนกัน...
ยอมรับในความสัมพันธ์ หยุดตามตื้อ ยิ่งคุณยอมรับจุดจบได้เร็วเท่าไหร่ คุณยิ่งเริ่มต้นได้ไวมากขึ้นเท่านั้น เข้าใจว่าคุณกับเขาอาจใช้เวลาร่วมกันมานาน ภาพจำยังติดตาไม่หาย แต่การยื้อไว้ก็คงไม่มีประโยชน์ เมื่ออีกฝ่ายหมดใจ อย่าได้พยายามทวงสิ่งของคุณคืน เพราะยิ่งจะทำร้ายให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกไม่ดีต่อกันมากขึ้น ขอให้คุณคิดว่าสิ่งของที่คุณเคยให้เขาไป เป็นสิ่งของที่ให้จากความปรารถนาดีของคุณล้วนๆ ขอคืนมาเก็บไว้ นั่นยิ่งจะฝังใจกันไปเปล่าๆ
นึกถึงเรื่องไม่ดีของอีกฝ่าย เพียงแค่ลิสต์นิสัยแย่ๆ จากตอนที่เคยคบกัน เช่น ขี้เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ใจร้อน ฯลฯ จะทำให้คุณรู้ว่า แท้จริงแล้วอีกฝ่ายก็ไม่ใช่นางฟ้าหรือเทวดาอย่างที่คุณวาดฝัน เขาก็เป็นแค่บุคคลธรรมดาสามัญที่มีข้อหาติดตัว ไม่นานอาการช้ำรักของคุณที่มี ก็จะหายไป และไม่รู้สึกเสียดายอะไรเลย
เล่าไว้ให้เป็นวิทยาทาน การแชร์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของคุณในที่สาธารณะ สิ่งแรกที่ต้องลืม คือ ลืมชื่อของเขา (อย่าให้เขาหรือเราต้องขายหน้า หรือว่าบานปลาย!) เป็นเพียงแค่ตัวอย่างพฤติกรรม "เงา" ในคราบคนรักเก่า จะช่วยให้คุณลดอารมณ์ต่างๆ ที่ยังติดค้างคาใจ และชัดเจนกับสิ่งที่คิดมากขึ้น บางทีคุณอาจได้รับคำปรึกษาดีๆ จากคนอื่น หรืออย่างน้อยก็ช่วยให้คุณได้ระบายความรู้สึกของตัวเองออกมา ได้รับกำลังใจกลับคืนมาบ้าง และไม่ได้รู้สึกว่าเผชิญสิ่งนี้อยู่เพียงลำพัง เพราะยังมีคนอื่นที่เคยผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ อย่างนี้อยู่อีกมาก จนทำให้รู้สึกว่าเรื่องรักของคุณ มันก็แค่เรื่องรักธรรมดาๆ ที่ใครหลายคนต่างก็เคยเจอะเจอมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น
ไม่ต้องตามติดชีวิตของเขา การทำตัวเป็นนักสืบ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มีแต่จะทำให้เจ็บแปลบแสบหัวใจ หรือการตามไปสืบสาวดูเรื่องราวชีวิตรักของเขาผ่านทางเฟซบุ๊ก หรือถามข่าวคราวจากเพื่อนๆ ก็คงไม่มีประโยชน์ จงทำให้เขากลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับคุณจะดีกว่า เขาจะไปเที่ยวที่ไหน หรือไปมีคนใหม่อีกสักกี่คน ก็ไม่ใช่กงการอะไรของคุณอีกต่อไป ทางที่ดีควรลบรายชื่อเฟซบุ๊กของเขา รวมถึงช่องทางอื่นๆ คุณจะได้ไม่เผลอไผลเข้าไปดูให้ตัวเองรู้สึกเจ็บใจในตั้งแต่แรก
ไม่ไปในที่ที่เคยไป หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่เคยไปกับเขา อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารประจำ ที่ไปด้วยกันกับเขาอยู่บ่อยๆ ก็จงทิ้งระยะห่างด้วยการไปยังสถานที่อื่นๆ ที่ไม่เคยไปดูบ้าง เพื่อซักฟอกความทรงจำให้สะอาดหมดจดดีเสียก่อน ถ้ามีความจำเป็นต้องย้อนกลับไปในที่เดิมๆ เหล่านั้น ก็พยายามอยู่ในสถานที่ที่เคยมีความทรงจำกับเขาให้น้อยที่สุด
ถ้าจำเป็นต้องเจอ พยายามหลีกเลี่ยงการพบกันแบบตัวต่อตัว พยายามหลีกเลี่ยงการเจอเขาแบบตัวต่อตัว เพราะเกิดเขาเผลอมาทำดีกับคุณ นั่นอาจจะทำให้คุณยิ่งเขวไปกันใหญ่ แต่ถ้าเขามากับแฟนก็จงเงียบไว้ ทางที่ดีอย่าเผลอทำตัวท้าทายเพื่อความสะใจ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรคุยอย่างเรียบง่าย สั้นๆ กระชับที่สุดเท่าที่จะทำได้จะดีกว่า
ออกไปหาเพื่อนๆ อย่าลืมคิดถึงเพื่อนของคุณเป็นอันดับแรก เพราะสุดท้ายคนที่คอยปลอบใจ ก็คือ เพื่อนของคุณ (คนที่คุณมองข้ามหัวพวกเขามานานนี่แหละ!) ลองออกไปเที่ยวตามประสาคนโสดกับพวกเขาดูบ้าง คุณจะได้ไม่เหงา แถมยังได้เปลี่ยนบรรยากาศอีกด้วย ไม่แน่ว่าชีวิตคนโสด อาจทำให้คุณติดใจจนลืมคิดเรื่องแฟนเก่าไปเลยก็ได้ รู้สึกถึงข้อดีของชีวิตโสดๆ ก่อนจะกลับมาสู่โหมดมีแฟนอีกครั้ง ก็ถือซะว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการปลดปล่อย
คิดเสียว่า สวรรค์ต้องการทดสอบ นับเป็นบททดสอบจากสวรรค์ ที่ทำให้คุณหูตาสว่างมากขึ้น รู้จักกับการปรับตัวเข้าหาคนอื่น รู้จักการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี คุณได้ทักษะหลายๆ อย่าง ชนิดที่คนไม่เคยมีแฟนไม่เคยได้ไม่เคยมี เมื่อไหร่ที่คุณเรียนรู้ว่า ชีวิตของคุณต้องการอะไร และต้องการคนแบบไหนมาเป็นคู่รักคู่ชีวิต นั่นไม่ใช่เพราะความล้มเหลวที่ทำให้คุณ "มองเห็นตัวเองชัดขึ้น" หรอกหรือ? ถือเป็นการถอยออกมา เพื่อเตรียมตัวเองให้ดีขึ้น รู้ความต้องการของคนอื่นมากขึ้น และแข็งแกร่งมากขึ้น
เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ (จนอีกฝ่ายรู้สึกเสียดาย) คนที่เริ่มต้นทำธุรกิจ ชีวิตเขาก็ย่อมมีวันพลาดพลั้ง ล้มเหลวกันได้ กว่าที่ใครสักคนจะประสบความสำเร็จ เขาก็ย่อมต้องผ่านจุดที่ต่ำสุดมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น แต่นี่คุณแค่เปลี่ยนสถานะตัวเองไปจากเดิม ไม่ใช่ล้มละลายเสียที่ไหน ชีวิตยังเริ่มต้นใหม่ได้ และไม่ได้เสียเครดิตอะไรเลย แถมคุณยังมีประสบการณ์ชีวิตติดตัวมากขึ้น วันหนึ่งคุณก็ย่อมประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ถ้าคุณทำตัวเองให้ดีขึ้น ปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลา ใช่ว่าคนที่ทำธุรกิจสำเร็จ นั่นคือธุรกิจแรกในชีวิตของเขา และใช่ว่าคนที่แต่งงานกัน นั่นคือคนรักคนแรกในชีวิตของเขา ซะที่ไหนกัน...
Source : fhm.in.th หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด
ขอบคุณข้อมูลจาก : siamok.com
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.