เราเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็ต่างอยากให้ลูกของตนโตขึ้นมา และประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องผ่านการอบรมสั่งสอนเลี้ยงดู รวมถึงการใช้ชีวิตต่าง ๆ ประกอบเข้าด้วยกัน แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญ และเป็นเหมือนทางลัดก็คือการจะสอนให้พวกเขารู้จักพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา โดยมีพ่อแม่คอยดูแล และช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ ข้อดีการของสอนให้พวกเขารู้จักพัฒนาตนเอง และช่วยเหลือตนเองอยู่เสมอนั้น แน่นอนว่าพวกเขาจะเกิดความผิดพลาดขึ้นมา และจะรู้สึกผิดหวัง ท้อแท้กับความผิดพลาดล้มเหลวที่เกิดขึ้น ประเด็นสำคัญคือ คุณจะบอก หรือสอนลูกของคุณอย่างไรให้เรียนรู้จากความผิดพลาดเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ แทนที่คุณจะถามพวกเขาว่า “วันนี้เป็นยังไงบ้าง?” หรือ “วันนี้โรงเรียนสอนอะไรบ้าง?” ให้คุณลองถามลูกของคุณว่า “วันนี้ทำผิดพลาดล้มเหลวอะไรมาบ้าง?” แทน นี่เป็นคำถามที่มหาเศรษฐีที่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาด้วยตนเองอย่าง “Sara Blakely” ยึดเป็นคติที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จในวันนี้ เธอได้บรรยายแก่ผู้ฟังในงาน Network for Teaching Entrepreneurship ใน New York เมื่อไม่นานมานี้ "พ่อของฉันมักจะถามพี่ชาย และฉันเสมอระหว่างที่ทานอาหารเย็นร่วมกันว่า อาทิตย์นี้ทำผิดพลาดล้มเหลวอะไรมาบ้าง” เธอเริ่มที่จะเข้าใจคำถามของพ่อของเธอ เมื่อเธอกลับมาบ้านจากโรงเรียน เธอจะบอกพ่อของเธอว่า “วันนี้หนูลองทำสิ่งนี้ และหนูก็ทำมันได้แย่มาก ๆ” พ่อของเธอยื่นมือมาไฮไฟกับเธอ และบอกเธอว่า “เยี่ยมมาก!” ซึ่งถ้าวันไหนเธอไม่มีเรื่องราวความผิดพลาดล้มเหลวมาบอกกับพ่อ เขาจะรู้สึกผิดหวังมาก ในตอนที่เธออายุประมาณยี่สิบปี Blakely เป็นพนักงานขายเครื่องแฟกซ์ตามบ้านใน Florida และ Georgia ก่อนที่เธอจะผุดไอเดียคิดค้นนวัตกรรมถุงน่องสตรี เธอได้ก่อตั้งบริษัท Spanx ในปี 2000 ด้วยเงินเก็บทั้งหมดของเธอเองจำนวน 5,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 17,6000 บาท) เธอได้ออกแบบนวัตกรรมถุงน่องไร้รอยต่อบริเวณนิ้วหัวแม่เท้าที่ในภายหลังเธอได้จดสิทธิบัตรเป็นของเธอเอง โดยที่ Blackely ไม่เคยเรียนวิชาเกี่ยวกับการประกอบการธุรกิจมาก่อนเลย ในปี 2012 Blakely ได้รับการเสนอชื่อจาก Forbes ให้เป็นมหาเศรษฐีที่ก่อร่างสร้างตัวด้วยตนเองที่อายุน้อยที่สุดในโลก ตอนนี้ เธอในวัย 44 ปีมีทรัพย์สินมูลค่าสุทธิกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 35,246,500,000 บาท) ความสำเร็จของของเธอล้วนเกิดมาจากความผิดพลาดล้มเหลวทั้งสิ้น กอปรกับการตัดสินใจกับเงินเก็บก้อนนั้น และไอเดียของเธอ เธอกล่าวว่า “พ่อของฉันมักชอบที่จะเห็นฉันล้มเหลว และด้วยความล้มเหลวในวัยเด็กนี้เอง มันจึงเป็นดั่งของขวัญล้ำค่าที่พ่อได้มอบให้ฉัน และเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับความล้มเหลวเหล่านี้”
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนรู้จักวิธีการเรียนรู้จากความล้มเหลว พวกเขาผิดพลาดล้มเหลวนับเป็นร้อย ๆ ครั้งก่อนที่จะมาประสบความสำเร็จอย่างเช่นที่เป็นอยู่นี้ได้ แต่อย่าลืมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ผิดที่จะฝัน และคิดการใหญ่ แม้ว่าจะผิดพลาดล้มเหลวกี่ครั้งก็ตาม “ขอแค่ให้คุณถูกเพียงแค่ครั้งเดียวก็พอ” จากคำกล่าวของมหาเศรษฐีนักลงทุน Mark Cuban ถ้าหากว่าคุณพุ่งเป้าไปที่ความสำเร็จอย่างเดียว คุณจะไม่มีวันได้เรียนรู้อะไรเลย ความล้มเหลวผิดพลาดจึงเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าการประสบความสำเร็จในตอนที่คุณอายุยังน้อยเสียอีก การก้าวผ่านความล้มเหลวแต่ละขั้น และเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น มันจะทำให้คุณไม่กลัวต่อการคว้าทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิต ยิ่งคุณเจอกับความผิดพลาดมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งจะได้ประสบการณ์จากมันมากขึ้นเท่านั้น และมันก็จะเพิ่มโอกาสที่จะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จที่รออยู่เบื้องหน้า ”ความล้มเหลวสำหรับฉันมันยิ่งทำให้ฉันพยายามมากยิ่งขึ้น โดยเลิกที่จะไปสนใจกับผลลัพธ์จากความล้มเหลวนั้น ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจำนวนมากจึงไม่เคยที่จะกลัวความผิดพลาด คำสอนจากพ่อของฉันวันนั้น จึงเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด” ลองสอนลูกของคุณให้ไม่กลัวกับความไม่รู้ และเก็บเกี่ยวสั่งสมทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิต ขจัดทุกความกลัวกับความผิดพลาดล้มเหลวออกจากความคิดของพวกเขาที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จเมื่อเขาเติบโตขึ้น Blakely กล่าวปิดท้ายไว้ว่า “สิ่งที่คุณไม่รู้ วันนึงมันอาจจะกลายเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดให้แก่คุณก็เป็นได้ เพียงแค่เปิดใจรับมัน”

หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด

ขอบคุณข้อมูลจาก : นี่คือ “คำถาม” ที่คุณควรใช้ถาม “ลูก” ของคุณ ถ้าอยากให้พวกเขาเป็น “ มหาเศรษฐี ”!