7 เทคนิคสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินใน การดูแลผิว
เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอาจมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นนักสะสมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวตัวยง หรือชอบที่จะซื้อสินค้าที่มีคุณภาพสูง หากคุณมั่นใจว่าคุณเป็นคนแบบที่กล่าวมา วันนี้ MoneyGuru.co.th มีเทคนิคสำคัญและกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดเงิน และลดจำนวนของผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้มาฝากกันค่ะ
เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดาควรจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ ในการใช้มันล้างเส้นผมของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเอามันผสมกับน้ำเพื่อใช้ผลัดผิวหน้าของคุณสัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ (ไม่ควรใช้บ่อยจนเกินไป เพราะผิวของคุณจะแห้งมาก)
ใช้ลิปสติกเป็นอายแชโดว์
ใช้ลิปสติกเป็นอายแชโดว์มันอาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่ถ้าคุณใช้แปรงแปรงลิปสติกแล้วมาทาที่เปลือกตาของคุณ ค่อย ๆ ใช้นิ้วเกลี่ยมันให้กลมกลืน มันจะให้อารมณ์คล้าย ๆ กับอายแชโดว์เนื้อครีมเลยทีเดียว
ซื้อสบู่ก้อนแทนสบู่เหลว
การซื้อสบู่ก้อนแทนสบู่เหลว มันจะทำให้คุณสามารถประหยัดเงินได้มาก เพราะสบู่ก้อนมีราคาที่ถูกกว่าสบู่เหลวอย่างมาก และคุณภาพมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเท่าไร นอกจากนี้ สบู่ก้อนมันก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าสบู่เหลวอีกด้วย เพราะมันไม่ต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่ทำลายธรรมชาติอย่างพลาสติก ทั้งนี้หากคุณอยากทำความสะอาดผิวหน้า ให้เลือกสบู่ที่ทำจากธรรมชาติ เช่น ดอกคาโมไมล์ หรือน้ำมันมะกอกค่ะ
โกนขนขา
ก่อนโกนขนขาของคุณ ให้คุณทาหรือโฉลมขาด้วยสบู่ ครีมนวดผม หรือน้ำมันมะพร้าว หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ขาของคุณลื่น เพราะมันสามารถทำให้โกนขนขาได้ง่ายขึ้น
ไม่ต้องเสียเงินซื้อ Moisturizers แพง ๆ
คุณไม่ต้องเสียเงินซื้อ Moisturizers แพง ๆ เลย หากคุณมีโลชั่นบำรุงมือที่ดีมีคุณภาพ คุณก็สามารถใช้มันบนใบหน้าของคุณได้ หรือคุณสามารถใช้น้ำมันบริสุทธิ์ทาบนใบหน้าของคุณได้ด้วยก็ได้นะคะ
เก็บน้ำมันมะพร้าวไว้ในห้องน้ำ
คุณควรเก็บน้ำมันมะพร้าวไว้ในห้องน้ำของคุณ! เพื่อใช้มันลบเครื่องสำอางจากการแต่งหน้า หรือใช้มันทาปากเพื่อให้ปากชุ่มชื่น หรือจะเอาไว้ใช้หมักผมเพื่อทำให้สุขภาพเส้นผมของคุณดีขึ้นก็ได้ค่ะ
ไฮไลต์หน้าเป็นประจำ
การไฮไลต์หน้า คือการทำให้หน้าของคุณมีมีมิติมากขึ้น หากคุณเป็นคนไม่ชอบการแต่งหน้า การแค่เพียงไฮไลต์หน้าอาจจะทำให้คุณประหยัดมากขึ้น อีกทั้งยังจะทำให้คุณดูโดดเด่นมากขึ้น
และหากคุณอยากรู้ข้อมูลทางการเงินและประกันรถยนต์ ก็สามารถกด Subscribe เพื่อรับสาระความรู้แบบนี้จาก MoneyGuru.co.th ได้เลย เราจะส่งตรงถึงอีเมลของคุณทุก ๆ สัปดาห์
ขอบคุณข้อมูลจาก www.moneyguru.co.th