เตรียมพร้อมเลี้ยงลูก1คน การเงิน ไม่ขัดสน ทุกคนแฮปปี้
ในสมัยก่อนการมีลูกยิ่งมีลูกมากๆ ก็ยิ่งดี ครอบครัวอบอุ่น พ่อแม่ก็สามารถเลี้ยงดูกันได้อย่างสบาย แต่ด้วย สังคม และ เศรษกิจที่เปลี่ยนแปลงจนปัจจุบันนี้ การที่ครอบครัวไหนจะมีลูกสักคน ยังต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ จนถึงคลอดและเลี้ยงดู ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยทีเดียว ถ้าเราไม่เตรียมพร้อมการแผนการใช้เงินให้ดีๆ อนาคตนอกจากเราเองจะขัดสนแล้วก็ยังทำให้ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกของเราให้ได้ดีเท่าที่ควร ก้ยังต้องเป็นหนี้เป็นสินกันไปอีกด้วย ดังนั้นเรามาวางแผนทางการเงินให้ดีก่อนมีบุตรกันดีกว่าครับ
ระยะเตรียมพร้อมก่อนมีลูก
เมื่อคุณพ่อคุณแม่พร้อมที่จะมีลูกสิ่งที่ควรทำคือ เก็บออมเงินในส่วนของการฝากครรภ์จนถึงการคลอด มองหาโรงพยาบาลในการฝากครรภ์และทำคลอดลองสอบถาม จากโรงพยาบาลที่สะดวกที่และเปรียบเทียบราคาค่าใช้จ่ายต่างๆตั้งแต่ฝากครรภ์จนถึงคลอด เพราะปัจจุบันตามโรงพยาบาลก็มีแพคเก็จต่างๆสำหรับคุณพ่อคุณแม่มากมาย ลองหามาเปรียบเทียบราคาและความสะดวก ในการเดินทางไปพบคุณหมอหรือคลอดด้วย และที่สำคัญหลังจากคลอด เสร็จแล้วคุณแม่ต้องอยู่เลี้ยงดูลูก อาจทำให้ขาดรายได้จึงจำเป็นที่จะต้องมีเงินเก็บ ประมาณ 3-4 เดือนของรายได้ปกติไว้ เพื่อให้สามารถมีเงินใช้จ่ายช่วงที่หยุดทำงานได้ไม่ต้องกังวล
ระยะหลังคลอด
เป็นช่วงที่จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก ทั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆในการเลี้ยงเด็ก ค่าวัคซีน หรือค่าเลี้ยงดูที่อาจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แถมพ่อแม่ ก็ยังเหนื่อยและเครียดกับการปรับตัวกับการเป็นคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นอาจต้องช่วยกันประหยัดในส่วนของค่าใช้จ่ายที่ยังไม่จำเป็น เช่น ค่าช้อปปิ้ง สังสรรค์หรือปาร์ตี้ ไม่ให้มากนัก เพื่อให้สถานะภาพทางการเงินยังคล่องตัวอยู่ หรืออาจต้องหาช่องทางอาชีพเสริมเล็กๆน้อยๆ เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง ส่วนคุณแม่อาจจะต้องโฟกัสที่ลูกเป็นหลักเพราะลูกยังอยู่ในช่วงที่เป็นเด้กอ่อน คงต้องการ การดูแลและเอาใจใส่ค่อนข้างมาก
ระยะก่อน 3 ขวบ
เป็นช่วงที่ ถ้าครอบครัวไหนที่จ้างพี่เลี้ยงช่วยดูแลลูกในช่วงก่อนหน้านี้ ช่วงนี้คุณพ่ออคุณแม่ก็สามารถ มาเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเองได้แล้ว เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และ เป็นการสานสัมพันธ์อันอบอุ่นของคุณพ่อคุณแม่และลูกอีกด้วย ช่วงนี้ เงินเก็บที่เคยเก็บไว้ก่อนหน้านี้อาจลดลงแล้ว คุณแม่อาจจะเริ่มมองหางานเสริม ระหว่างเลี้ยงลูก หรือ อาจจะกลับไปทำงานโดนอาจขอย้ายงานมาอยู่ในตำแหน่งงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบน้อยลงอาจได้ค่าตอบแทนที่น้อยลง แต่เพื่อให้มีเวลามาดูแลลูกมากขึ้น อีกส่วนที่สำคัญ ช่วงระยะนี้ลูกอาจมีอาการป่วยเล็กๆน้อย ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลใจ ไม่น้อย อาจต้องดูแลและใส่ใจเป็นพิเศษ หรือควรเลือกทำประกันสุขภาพให้กับลูกที่สามารถคุ้มคลองโรคต่างๆที่เกี่ยวกับเด็ก จนถึงช่วงอายุที่ลูกมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อให้ลูกสามารถได้รับการรักษาและดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี จะได้เติบโตมาเป็นเด็กที่สุขภาพดีอีกด้วย
ระยะวัยเรียน
เป็นช่วงที่ลูกสามารถพูดคุยกับเริ่มรู้เรื่องแล้ว สิ่งที่พ่อแม่ต้องทำคือวางแผนอนาคตให้กับลูกๆ การศึกษา หรือเงินเก็บเงินออมสำหรับอนาคต ควรไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน หรือนักวางแผนทางการเงินวึ่งเราสามารถ เข้าไปขอรับคำปรึกษาได้ตามสถาบันการเงินหรือสถาบันที่มีผู้รู้เหล่านี้คอยให้คำแนะนำ เราจะได้วางแผนการเก็บออม หรือวางแผนอนาคตของลูกให้ได้ดีที่สุด ควรมีการวางแผนทำประกันชีวิตประกันสุขภาพ ไว้สำหรับคุณพ่อคุณแม่ เผื่อว่าเกิดเจ็บป่วยหรือ เกิดอะไรขึ้น คุณจะมั่นใจได้ว่าลูกจะยังสามารถเรียนต่อได้จนจบและมีอนาคตดีที่ได้
เท่านี้เราก็มั่นใจหายห่วงได้แล้วว่า การมีลูกเพิ่มขึ้นมาเป็นสมาชิกในครอบครัว จะไม่เป็นภาระอันหนักหนาให้กับคุณและยังสามารถดูแลลูกและทุกๆคนในครอบครัวให้มีความสุขร่วมกันไปได้อีกด้วย และหากทุกท่านยังมีข้อสงสัยหรือต้องการหาความรู้ด้านการเงิน หรือประกันชีวิต ดีๆ สามารถคลิกเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ masii.com
ขอบคุณข้อมูลจาก masii.co.th