UNIO H Tiwanon คอนโดมิเนียมบนทำเลคลื่นลูกใหม่ เพียง 100 เมตรจาก MRT แยกติวานนท์ ความเรียบหรูในคอนเซ็ปต์ “LIVE IN SYNC” ต่อติด...ชีวิตในแบบคุณ ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท พิเศษ ลงทะเบียนวันนี้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10,000 บาท ฟรีทันที

ประสบความสำเร็จจากลูกค้ากลุ่มคนทำงานและข้าราชการ ที่ให้ความสนใจทันทีที่เปิดให้เข้าชมในรอบ VIP เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สำหรับ UNIO H Tiwanon (ยูนิโอ เอช ติวานนท์) คอนโดมิเนียมไฮไรส์ ของเฮลิกซ์ บริษัทในเครือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า โดยพร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2560

UNIO H Tiwanon ถือเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ในตระกูล UNIO ที่มีการพลิกโฉมใหม่ ยกระดับดีไซน์ มอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในคอนเซ็ปต์ “LIVE IN SYNC” ต่อติด...ชีวิตในแบบคุณ ลงตัวกับความสะดวกสบายใกล้เมือง เพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น บนทำเลคลื่นลูกใหม่เพียง 100 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง แยกติวานนท์ ในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้ไม่ยากในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท พิเศษ ลงทะเบียนวันนี้ รับส่วนลดเพิ่มอีก 10,000 บาท ฟรีทันที

โครงการ UNIO H Tiwanon

ทำเลติวานนท์ ถือเป็นหนึ่งในทำเลแห่งอนาคตที่น่าจับตามอง เนื่องจากอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เพิ่งเริ่มเปิดใช้บริการไปเมื่อไม่นานนี้ แม้รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะยังมีภาพรวมของผู้ใช้บริการไม่มากนัก แต่ถือว่ามีดีมานด์ของผู้อยู่อาศัยบริเวณนั้นที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยใหม่ แต่ปัจจัยที่ทำให้ทำเลติวานนท์ น่าสนใจ เพราะเป็นทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นเป็นจุดเชื่อมต่อไปสู่ตัวเมือง ที่ได้ชื่อว่าจะเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจในอนาคตและเป็นพื้นที่ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทำให้ปัจจุบันเริ่มมีคอนโดมิเนียมไปจับจองพื้นที่ในย่านติวานนท์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้อาศัยระดับกลางและระดับล่างที่กระจายตัวออกสู่เมืองชั้นนอก และกำลังมองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว และมองหาทำเลใหม่ๆ ในการลงทุน

แน่นอนเมื่อเอ่ยถึงทำเลติวานนท์ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่กล่าวถึง ทำเลบางซื่อ เพราะอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่สถานี เนื่องจากจุดเด่นของทำเลบางซื่อ ย่อมต้องส่งอิทธิพลมาเสริมศักยภาพของทำเลติวานนท์ให้แข็งแกร่ง โดยทำเลบางซื่อ ได้เป็นทำเลที่เป็นที่จับตามองด้านการพัฒนาในอนาคตอีกทำเลหนึ่ง จากการเติบโตของย่านศูนย์กลางธุรกิจชั้นใน (CBD) เริ่มกระจายความเจริญมาทางเมืองชั้นนอก

พื้นที่ตามแนวเส้นทาง แยกติวานนท์

ทำเลบางซื่อ ถือว่าได้รับความสนใจจากโครงการยักษ์ใหญ่จากภาครัฐและเอกชนหลายโครงการ ที่จะพลิกโฉมหน้าของทำเลนี้ให้เปลี่ยนไปตลอดกาล สังเกตได้จาก มีทั้งอาคารสำนักงานเกรด A, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, สถานศึกษาทั้งในระดับมัธยมและอุดมศึกษา, แหล่งจับจ่ายใช้สอยของคน Gen-Y และ Gen-Z โดยมีแม่เหล็กดึงดูดสำคัญ อยู่ที่การเป็น Interchange ของระบบการขนส่งทางราง บนพื้นที่กว่า 2,300 ไร่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “โครงการศูนย์คมนาคมพหลโยธินหรือสถานีกลางบางซื่อ” ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งเต็มรูปแบบ เนื้อที่กว่า 1,176 ไร่ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางของระบบขนส่งทางราง ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้า Airport Rail Link จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้สถานีบางซื่อ เป็นพื้นที่สำคัญที่มีระบบคมนาคมรองรับการเดินทางหลายรูปแบบ ถนนหลายสายสามารถเชื่อมต่อระหว่างเมืองชั้นนอกและเมืองชั้นในได้อย่างสะดวก

นอกจากนี้ทำเลบางซื่อ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับของชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะพื้นที่รายล้อมด้วยสตรีตมาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย อีกทั้งยังมีย่านของชุมชนดั้งเดิมที่มีลักษณะอาคารเป็นอาคารพาณิชย์ชุมชนและบ้านเดี่ยว ซึ่งมีความเงียบสงบ ทำให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัย

ทั้งนี้ UNIO H Tiwanon ถือเป็นคอนโดมิเนียมเจ้าแรกๆ ที่เข้ามายึดทำเลย่านติวานนท์ โดยเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์สูง 37 ชั้น (ไม่รวมชั้นดาดฟ้า) บนพื้นที่ 1-2-24.8 ไร่ มี 1 อาคาร ประกอบด้วย 378 ห้อง มีขนาดพื้นที่ให้เลือกตั้งแต่ 24.30-43.80 ตร.ม. โดดเด่นด้วยทำเลห่างจากสถานี MRT แยกติวานนท์เพียง 100 ม.เดินทางสะดวกด้วยใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน รัชดา – ประชานุกูล แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย อาทิ ใกล้โรงพยาบาลเกษมราษฎร์, โรงพยาบาลนนทเวช รวมถึงห้างสรรพสินค้าอย่าง เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, บิ๊กซี ติวานนท์, บิ๊กซี วงศ์สว่าง ตลอดจนสถานที่ราชการที่สำคัญอย่างกระทรวงสาธารณสุข, ศูนย์ราชการนนทบุรี และใกล้สถานศึกษาอย่างพระจอมเกล้าฯ พระนครเหนือ นนท์ จึงเหมาะสำหรับกลุ่มผู้อาศัยประเภท White Collar, ข้าราชการ และนักศึกษา

ตัวอย่างการตกแต่งภายในห้อง สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24.30 ตร.ม.

ตัวอย่างการตกแต่งภายใน 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.30 ตร.ม.

UNIO H Tiwanon มอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในคอนเซ็ปต์ “LIVE IN SYNC” ต่อติด...ชีวิตในแบบคุณ ที่มาพร้อมงานดีไซน์จากการผสมผสานความลงตัวของความเรียบหรู เหมาะกับการใช้ชีวิตของคนเมือง บนพื้นที่ส่วนตัวที่พอดีและพื้นที่ส่วนกลางสะดวกสบายที่เชื่อมต่อกันโดยรอบทั้งโครงการ เน้นความเรียบง่าย แต่น่าสนใจ นำสมัย โดยใช้วัสดุพื้นผิวไม้ สะท้อนถึงกลิ่นอายธรรมชาติสอดแทรกบรรยากาศแบบวิถีคนเมือง จากการเลือกใช้วัสดุแวววาวเสริมให้พื้นที่มีมิติและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ UNIO H Tiwanon 

160 คัน พื้นที่ส่วนกลาง บริเวณชั้น 8 ทั้งสระว่ายน้ำกลางแจ้ง, สระเด็ก, สระน้ำอุ่น และสวนส่วนกลาง ส่วนของห้องออกกำลังพร้อมอุปกรณ์ครบครัน อยู่ในชั้น 9 รวมถึงพื้นที่สวนสวยลอยฟ้า บนชั้นดาดฟ้า สามารถชมวิวได้ 180 องศา บนชั้น 36 และเดินขึ้นชั้น Roof Top พร้อมด้วยทางวิ่งสำหรับออกกำลังกาย

สามารถเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้ที่โครงการ UNIO H Tiwanon 100 ม. จากสถานีแยกติวานนท์* ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท พิเศษ ลงทะเบียนวันนี้ รับส่วนลดเพิ่มอีก 10,000 บาท ฟรีทันที หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.ananda.co.thโทร. 02 316 2222

โครงการ UNIO H Tiwanon ตัวนี้ค่อนข้างแตกต่างจากตระกูล UNIO ที่ผ่านๆมา ที่เดิมหากพูดถึงคอนโดมิเนียมในแบรนด์ UNIO เรามักจะนึกภาพถึงคอนโดมิเนียม Low Rise ในระดับ Economy ที่ราคาประมาณตารางเมตรละ 40,000-50,000 บาท มาครั้งนี้ UNIO H Tiwanon ถูกแปลงโฉมใหม่ตั้งแต่ Design ไปจนถึงทำเล กลายเป็นอาคารสูง 37 ชั้น (ไม่รวมชั้นดาดฟ้า) แถมโครงการยังอยู่ติด MRT แยกติวานนท์ ด้วยราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท หรือ 70,000-90,000 บาท ต่อตารางเมตร บางคนอาจจะถามว่าทำไม UNIO โครงการนี้ถึงไม่ราคาเท่า UNIO ตัวผ่านๆมา ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆที่อยู่ในทำเลเดียวกัน ซึ่งราคาก็ประมาณ 80,000-100,000 บาทต่อตารางเมตรไปแล้ว UNIO H Tiwanon ก็ยังเป็นราคาที่น่าสนใจ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในราคาที่ไม่ถึง 100,000 บาทต่อตารางเมตร

แผนที่โครงการ UNIO H Tiwanon

นอกจากนี้ค่าเช่าของคอนโดฯในทำเลนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยราคาที่เทียบเท่าในเมือง ยกตัวอย่างประเภท 1 ห้องนอน ของโครงการใกล้รถไฟฟ้า MRT แยกติวานนท์เช่นกัน สามารถปล่อยเช่าได้ประมาณ 12,000-15,000 บาทต่อเดือน อีกทั้งการราคาของโครงการใหม่ก็มีการปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ 5-8% ต่อปีจากวันเปิดตัว แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของราคาคอนโดฯในทำเลนี้ได้เป็นอย่างดี

VDO เยี่ยมชมโครงการ UNIO H Tiwanon

ทิศทางของลมและแดดของโครงการ

ภาพรวมทั้งโครงการ

บริเวณโครงการหันเข้าสู่ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี ติดกับบริเวณสถานีแยกติวานนท์ประมาณ 100 เมตร ด้านหลังติดกับโกดังความสูงจำนวนหนึ่งชั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อลมและแดด ด้านซ้ายและด้านขวาของโครงการปัจจุบันเป็นที่ว่างซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ทิศทางของลมและแดดของโครงการทั้ง 4 ด้าน สามารถสรุปได้ดังนี้

  • ด้านหน้าโครงการ - หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นทิศที่ได้รับแดดตอนบ่ายโดยตรง และแดดฤดูร้อนในช่วงเดือนมีนาคมภึงพฤษภาคมก็พาดผ่านบริเวณนี้ด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีความเย็นจากลมมรสุมฤดูร้อนที่จะพาไอเย็นในช่วงฤดูร้อนเข้ามามากกว่าทิศอื่นๆ และมีไอเย็นจากลมมรสุมฤดูร้อนช่วยบรรเทาตลอดหน้าร้อน
  • ด้านซ้ายโครงการ - หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งจะสัมผัสกับแดดร่มตลอดวัน ทิศนี้จะไม่เกิดความร้อนมากเพราะเจอกับแดดร่มทุกฤดูกาล แต่จะไม่ค่อยมีลมพัดผ่านมากเท่ากับทิศอื่นๆ
  • ด้านขวาโครงการ - หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศนี้จะได้รับแดดอุ่นหรือแดดตอนเช้าและจะทุเลาลงในช่วงบ่าย ข้อดีก็คือไม่ต้องเผชิญกับแดดร้อนตอนบ่ายตลอดช่วงวัน และในฤดูร้อนจะได้รับไอเย็นจากลมมรสุมฤดูร้อนเล็กน้อย
  • ด้านหลังโครงการ - หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศนี้นอกจากจะมีแดดร่มตลอดทุกฤดูกาลไม่ต้องเผชิญกับแดดบ่ายแล้ว ยังได้ผลประโยชน์จากลมมรสุมฤดูหนาวที่จะพาความหนาวเย็นเข้ามา ในช่วงฤดูร้อนอากาศจะไม่ค่อยระบายเท่ากับทิศอื่นเท่าไรนัก แต่ก็มีข้อได้เปรียบตรงที่ไม่ต้องเผชิญกับแดดร้อนในตอนบ่าย
ภาพรวมของผังห้อง

แปลนชั้นที่นำมาเป็นตัวอย่างคือ ชั้น 11 ที่มีจำนวนยูนิตเต็มชั้น ไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งสามารถพิจารณาผังห้องและ unit type ได้ครบถ้วน โดยทิศทางลมและแดดสามารถนำไปใช้พิจารณาร่วมได้เช่นเดียวกันทุกชั้น

  • ฝั่ง A - หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีจำนวนห้องเพียงชั้นละ 4 ยูนิต โดยห้องมุมที่ติดกับทิศเหนือจะสามารถได้รับอิทธิพลจากลมเย็นในฤดูหนาวได้ด้วย วิวของห้องมองออกไปเห็นที่ว่างเปล่าที่ติดกับตัวโครงการและอาคารของชุมชนดั้งเดิมความสูงไม่เกิน 3-4 ชั้น
  • ฝั่ง B - หันหน้าสู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ได้รับแดดบ่ายหรือแดดร้อน แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับอิทธิพลความเย็นจากลมมรสุมฤดูร้อนเช่นกัน วิวของห้องจะมองเห็นสถานีรถไฟฟ้าติวานนท์และอาคารของชุมชนดั้งเดิมความสูง 3-4 ชั้น ไม่เป็นอุปสรรคต่อวิวภายในห้อง
  • ฝั่ง C - หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห้องที่น่าสนใจคือต้องห้องมุมที่อยู่ติดกับทิศตะวันออก สามารถรับแดดเช้าได้และหลีกเลี่ยงแดดบ่าย อีกทั้งยังได้รับลมมรสุมฤดูหนาวไปเต็มๆ ทำให้อากาศเย็นสบาย
  • ฝั่ง D - หันหน้าเข้าสู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีจำนวน 4 ยูนิตต่อชั้น โดยห้องมุมที่ติดกับทิศตะวันออก จะค่อนข้างเย็นและระบายอากาศได้ดี เนื่องจากสามารถเลี่ยงแดดบ่ายได้มากกว่า อีกทั้งยังได้รับอิทธิพลจากลมเย็นของลมมรสุมฤดูหนาวด้วยเล็กน้อย และห้องมุมที่ติดกับทิศใต้ แม้จะได้รับแดดในช่วงบ่าย แต่ก็จะมีลมเย็นในช่วงฤดูร้อนพัดผ่านเข้ามาโดยตรง ทำให้สามารถระบายอากาศได้ดี วิวนอกห้องมองเห็นอาคารชุมชนเก่าความสูง 3-4 ชั้นเช่นกัน

นอกจากลมมรสุมฤดูร้อนและลมมรสุมฤดูหนาวแล้ว ประเทศไทยยังมี ลมประจำปี ที่จะพัดมาสม่ำเสมอตลอดปีในทางทิศใต้ทำให้ห้องที่โดนแดดร้อนทางทิศใต้และตะวันออกสามารถระบายอากาศได้ในส่วนหนึ่งและไม่ร้อนจัดจนเกินไป และการพิจารณาเลือกห้องว่าฝั่งไหนดีที่สุดนั้น ควรขึ้นอยู่กับการพิจารณาส่วนบุคคล ข้อมูลเหล่านี้มีไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น

Unit Type ของโครงการ

ห้อง TYPE-A ขนาด 24.30-25.70 ตารางเมตร

ห้อง TYPE-A มีสองแบบคือแบบ A1 และ A2 ขนาด 24.30 และ 25.70 ตารางเมตร เป็นห้อง 1 Bedroom โดยความแตกต่างคือ ห้อง TYPE A2 จะเพิ่มพื้นที่บริเวณประตูทางเข้ามากขึ้น สามารถวางชั้นวางรองเท้าหรือชั้นวางของอื่นๆได้ ภายในห้องหลังเปิดประตูเข้าไปจะเจอส่วนครัวเชื่อมต่อกับบริเวณส่วนนั่งเล่นเรื่อยไปจนถึงระเบียง ประตูบานเลื่อนจากระเบียงสามารถให้แสงสว่างที่เพียงพอ ทั้งสองแบบมีห้องนอนขนาดเท่ากันและห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนเช่นกัน

ห้อง TYPE-B ขนาด 28.30-32.30 ตารางเมตร

ห้อง TYPE-B มีสองแบบคือแบบ B1 และ B2 ขนาด 28.30 และ 32.30เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เพิ่มจากห้อง TYPE-A พอสมควร ซึ่งจะได้พื้นที่ใช้สอยในส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเพิ่มขึ้น ลักษณะห้องเป็นสี่เหลี่ยม เรื่องการระบายอากาศภายในจึงไม่อุดอู้เท่าไร (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทิศทางของแดดและลมเป็นปัจจัยร่วม) ส่วนครัวจัดให้อยู่ด้านข้างของประตูทางเข้าห้อง อยู่ในส่วนเดียวกับพื้นที่นั่งเล่นที่จัดให้ติดระเบียง เพื่อรับแสงจากหน้าต่าง ห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน และภายในห้องนอนสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยสำหรับทำงานได้มากขึ้น

ห้อง TYPE-C ขนาด 33.50 ตารางเมตร

ห้อง TYPE-C มีเพียงแบบเดียวคือขนาด 33.50 ตารางเมตร เป็นห้อง 1 Bedroom ผังห้องจัดให้ส่วนครัวอยู่ในที่เดียวกับส่วนนั่งเล่นแต่มีขนาดห้องและระเบียงที่กว้างขึ้นมากกว่า TYPE-B และห้องน้ำสามารถ connected ได้ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน ในส่วนของห้องนอนมีพื้นที่แต่งตัว ที่กว้างขึ้นค่อนข้างมาก เนื่องจากลดการใช้พื้นที่ในส่วนห้องน้ำออกไปถึงครึ่งหนึ่ง

ห้อง TYPE-D ขนาด 42.80-43.80 ตารางเมตร

ห้อง TYPE-D มีสองแบบ คือ D1 และ D2 ขนาด 42.80 และ 43.80 ตารางเมตร เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาดของทั้งสองแบบไม่แตกต่างกันมากนัก ผังของห้องค่อนข้างเป็นสัดส่วน โดยโถงกลางประกอบไปด้วยส่วนครัว นั่งเล่น และระเบียง ซึ่งจัดเป็นโซนรับแขก (public zone) ห้องนอนใหญ่อยู่้ภายในสุดเชื่อมกับห้องน้ำที่สามารถเข้าได้สองทาง และห้องนอนเล็กอยู่บริเวณส่วนโถงนอก จัดส่วนให้เป็น private zone

ขอบคุณข้อมูลจาก www.ananda.co.th