ชวนไปเที่ยวต่างประเทศสวย ๆ กับประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า มีทั้งดินแดนสวรรค์แห่งท้องทะเล ประเทศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม หรือจะเป็นดินแดนของอาณาจักรเก่าแก่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเที่ยวต่างประเทศที่ไม่ควรมองข้าม
หลายคนใฝ่ฝันว่าอยากจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันสักครั้ง แต่การขอวีซ่าก็เป็นปัจจัยหลักที่มาขวางกั้นการเปิดหูเปิดตาสู่โลกกว้าง แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีทางออก เพราะปัจจุบันมีประเทศที่ทำข้อตกลงกับประเทศไทย ให้ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยสามารถเข้าไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า หรือทำวีซ่าแบบ VOA (Visa on Arrival) จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
- ประเทศเซเชลส์ (Seychelles) (พำนักได้ 30 วัน)
ประเทศเซเชลส์ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งท้องทะเล มีลักษณะเป็นหมู่เกาะ ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ทั้งหมด 115 เกาะ ซึ่งแต่ละเกาะก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป โดยมีเกาะมาเฮ (Mahe) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงอย่างเมืองวิกตอเรีย (Victoria)
ความโดดเด่นของเซเชลส์ก็คงหนีไม่พ้นหาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าสวยใสราวกับกระจก ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสกันได้ในทุกอณูของประเทศเซเชลส์ ยิ่งไปกว่านั้นบนเกาะแห่งนี้ยังมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าใครได้มาเยือนก็ต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ seychelles.org และ seychelles.travel
2. ประเทศมองโกเลีย (Mongolia) (พำนักได้ 30 วัน)
ประเทศมองโกเลีย เป็นประเทศที่คนไทยยังให้ความสนใจน้อยมาก อาจเป็นเพราะมองโกเลียอยู่ไกลจากประเทศไทย อีกทั้งยังมีอากาศที่หนาว ซึ่งไม่เอื้อต่อการท่องเที่ยวของคนไทยเท่าไรนัก แต่ถ้าหากคุณเป็นสายผจญภัยและรักธรรมชาติ บอกเลยว่าที่นี่จะเป็นสวรรค์อย่างแท้จริง เพราะมองโกเลียมีธรรมชาติที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ ทะเลทราย ฯลฯ ขาดแค่เพียงอย่างเดียวคือทะเล แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจกับมองโกเลียได้อย่างง่ายดายแล้ว
สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ของมองโกเลีย ก็จะมี อาทิ เมืองอูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar), ทะเลทรายโกบี (Gobi Desert), ทะเลสาบฮุฟสกุล (khuvsgul lake), เมืองเก่าคาราโครัม (Karakorum), เทือกเขาอัลไต (Altai Tavan Bogd National Park) เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ discovermongolia.mn
3. ประเทศวานูอาตู (Vanuatu) (พำนักได้ 90 วัน)
ประเทศวานูอาตู ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ อยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจไม่ใช่เล่นเลย เพราะนอกจากจะมีทะเลอันงดงามล้อมรอบประเทศแล้ว ยังเป็นดินแดนที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะภูเขาไฟมีชีวิต ที่มีทัวร์จัดเส้นทางพาขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟด้วย
อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น มีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมให้ได้เยี่ยมชม เป็นประสบการณ์ที่คุณจะได้ที่วานูอาตูเท่านั้น สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของวานูอาตู อาทิ ภูเขาไฟ Marum และ Bembow, Nanda Blue Hole, Port Vila, Tanna Island เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ vanuatutravel.info
4. ประเทศเปรู (Peru) (พำนักได้ 90 วัน)
ประเทศเปรู ดินแดนสุดอัศจรรย์ที่ต้องไปสัมผัสกันสักครั้งในชีวิต ประเทศแห่งนี้ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก มีพื้นที่ทั้งที่ราบชายฝั่งทะเล ที่ราบสูงอันขรุขระ ป่าอเมซอน รวมทั้งเทือกเขาแอนดีสในตอนกลาง เป็นแหล่งกำเนิดของอาณาจักรอินคาดั้งเดิม
ที่นี่จึงมีสิ่งมหัศจรรย์ให้เราไปค้นหาหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นเมืองเก่าแก่อย่างลิมา (Lima), เมืองโบราณหลายพันปีบนยอดเขาอย่างมาชูปิกชู (Machu Picchu), ป้อมปราการ Ollantaytambo, นาขั้นบันไดแบบอินคา (Moray), กำแพงเมืองโบราณ Sacsayhuaman, นาเกลือขั้นบันได Salinas de Maras, เมืองโอเอซิสจิ๋วกลางทะเลทราย (Huacachina), Nazca Lines เส้นปริศนากลางทะเลทราย, Uros เกาะลอยน้ำกลางทะเลสาบ เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ peru.travel
5. ประเทศปานามา (Panama) (พำนักได้ 180 วัน)
ภาพจาก GTS Productions / Shutterstock.com
ประเทศปานามา ตั้งอยู่บริเวณทางใต้สุดของอเมริกากลาง เชื่อมต่อระหว่างอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ มีพื้นที่แคบมากที่สุดในภูมิภาคแถบนี้ อีกทั้งยังมีทะเลขนาบข้างทั้งทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกของประเทศ ที่นี่จึงเป็นจุดศูนย์รวมของหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม รวมทั้งด้านศิลปะ ปานามาก็โดดเด่นไม่แพ้ที่ไหนเช่นกัน
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของปานามา อาทิ เกาะ San Blas, อุทยานแห่งชาติทางทะเล Coiba, เมืองเก่า Bocas, Isla Taboga, คลองแคบปานามา เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ visitpanama.com
6. ประเทศจอร์เจีย (Republic of Georgia) (พำนักได้ 365 วัน)
7. ประเทศชิลี (Republic of Chile) (พำนักได้ 90 วัน)
ประเทศชิลี ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ มีลักษณะที่แคบและยาว ด้านตะวันตกของประเทศจึงติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ตลอดเป็นแนวยาว และยังมีแนวเทือกเขาแอนดีสกั้นระหว่างประเทศอื่น ๆ ทางฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ด้วย
ที่นี่จึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย และยังคงมีกลิ่นอายวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างชนเผ่าดั้งเดิมและสเปนหลงเหลือให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส สถานที่ท่องเที่ยวชิลีที่ห้ามพลาด อาทิ Santiago, Chiloe Island, Valparaiso, Puerto Montt, San Pedro de Atacama, Torres del Paine, Easter Island เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ chile.travel
8. ประเทศเอกวาดอร์ (Ecuador) (พำนักได้ 90 วัน)
ภาพจาก Jess Kraft / Shutterstock.com
ประเทศเอกวาดอร์ ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในแถบทวีปอเมริกาใต้ ติดกับประเทศโคลอมเบียทางทิศเหนือ ติดกับประเทศเปรูทางทิศตะวันออกและทางทิศใต้ และจรดมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันตก มีพื้นที่ราบชายฝั่งทะเล ด้านในตอนกลางเป็นบริเวณเทือกเขาแอนดีส และราบเข้าไปในป่าทางทิศตะวันออก
เอกวาดอร์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีทรัพยากรน้ำมันเยอะมากแห่งหนึ่งของโลก แต่ก็ใช่ว่าที่นี่จะไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะที่นี่มีทั้งเมืองเก่า เกาะกลางทะเลอันสวยงาม และเทือกเขาสูงใหญ่ให้ได้ไปเที่ยวชมไม่รู้เบื่อ สถานที่ท่องเที่ยวเอกวาดอร์ที่น่าสนใจ อาทิ เกาะกาลาปากอส (Galapagos Islands), ภูเขาไฟ Cotopaxi, เมือง Tena, เมือง Montanita, Catedral Nueva, San Francisco Church ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ecuador.travel
9. ประเทศบาห์เรน (Bahrain) (พำนักได้ 14 วัน)
ประเทศบาห์เรน เป็นประเทศเกาะที่ตั้งอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย ใกล้กับประเทศซาอุดีอาระเบีย หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าประเทศนี้น่ากลัว แต่อันที่จริงแล้วถ้าเราเปิดใจและลองไปสัมผัสกับประเทศบาห์เรน ก็จะรู้ว่าประเทศนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมหรือธรรมชาติ ก็สวยงามไม่แพ้ที่ไหนในโลกเลยทีเดียว
ที่เที่ยวบาห์เรนที่แนะนำ อาทิ มัสยิดกลาง (Al Fateh Grand Mosque), Beit Shaikh Isa และย่านวัฒนธรรม Muharraq, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบาห์เรน (Bahrain National Museum), ป้อมปราการบาห์เรน (Bahrain Fort), ศูนย์วัฒนธรรมอีซา, Bab al Bahrain และตลาดมานามา (Manama Souk), พิพิธภัณฑ์น้ำมัน, สนามแข่งรถสูตรหนึ่ง (Bahrain International Circuit) เป็นต้น
10. ประเทศมอริเชียส (Mauritius) (พำนักได้ไม่เกิน 60 วัน และเป็นแบบ Visa on Arrival)
ประเทศมอริเชียส เป็นอีกหนึ่งดินแดนเกาะในฝันซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกาประมาณ 2,400 กิโลเมตร และห่างจากสาธารณรัฐมาดากัสการ์ (Madagascar) ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 890 เมตร สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของมอริเชียสแน่นอนว่าจะต้องเป็นชายหาดขาว และน้ำทะเลสวยใส แต่ยิ่งไปกว่านั้นบนเกาะยังมีธรรมชาติของป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เที่ยวกันได้ไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว
และพิเศษสุด ๆ ที่การเดินทางไปมอริเชียสนั้นง่ายดายมาก เพราะมีสายการบินราคาประหยัดเปิดเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ-มอริเชียส (มีเปลี่ยนเครื่องที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย) แบบนี้ก็ไปนอนเล่นชายหาดระดับโลกได้สบายเลย :) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tourism-mauritius.muและ govmu.org (ทางการมอริเชียสได้ยกเว้นวีซ่าให้กับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย โดยผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยสามารถพำนักอยู่ในสาธารณรัฐมอริเชียสได้ไม่เกิน 60 วัน นับจากเมื่อมาถึง (Visa for Sixty Days on Arrival) ดูรายละเอียดเกี่ยวกับวีซ่า ได้ที่ mauritiuso.com
ถือได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่างประเทศสวย ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับคนที่อยากจะไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ไม่อยากยุ่งยากกับเอกสารเรื่องวีซ่า ใครมีเงินในกระเป๋าพอจะไปเที่ยวไหว ก็จัดไปเลยค่ะ :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2560
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
seychelles.org, seychelles.travel, apecthai.org, vanuatutravel.info, ambrym.travel
peru.travel, visitperu.com, apecthai.org, visitpanama.com, thaiembassy.org, exploregeorgia.org, chile.travel, thaiembassy.org, ecuador.travel, apecthai.org, thaiembassy.org, sameaf.mfa.go.th, passport.govmu.org